ช่วงนี้ถ้าวัดกันจากตัวเลขถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของเศรษฐกิจไทย เพราะในภาพรวมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ได้เผยแพร่รายงาน “Doing Business 2018: Reforming to Create Jobs” หรือรายงานความยากง่ายในการทำธุรกิจประจำปี 2561 โดยประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 26 จาก190ประเทศทั่วโลก ซึ่งเดิมที่เราเคยอยู่อันดับที่ 46 เป็นการขยับขึ้นมาทีเดียว 20 อันดับแบบน่าประหลาดใจ

เศรษฐกิจไทยปรับตัวขึ้นถึง 8 ด้าน

     สิ่งที่เวิลด์แบงก์นำมาพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจของแต่ละประเทศนั้น จะมีอยู่ 10 ตัวชี้วัด ซึ่งใน 10 ตัวชี้วัดนี้ประเทศไทยทำได้ดีเข้าเกณฑ์ถึง 8 ตัวชี้วัดด้วยกันนั่นคือ

  • การขอใช้ไฟฟ้ามีการปรับสูงขึ้นซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่เพิ่มสูงขึ้นที่สุดของไทย จัดอยู่ในอันดับ 13 ของโลก
  • การคุ้มครองผู้ลงทุนก็สูงขึ้นรองลงมา จัดอยู่ในอันดับ 16 ของโลก
  • การแก้ปัญหาการล้มละลาย จัดอยู่ในอันดับ 26 ของโลก
  • การบังคับให้เป็นไปตามสัญญา จัดอยู่ในอันดับ 34 ของโลก
  • การเริ่มต้นธุรกิจ จัดอยู่ในอันดับ 36 ของโลก
  • การได้รับสินเชื่อ จัดอยู่ในอันดับ 42ของโลก
  • การขออนุญาตก่อสร้าง จัดอยู่ในอันดับ 43 ของโลก
  • การค้าระหว่างประเทศ จัดอยู่ในอันดับ 57 ของโลก
  • การชำระภาษี จัดอยู่ในอันดับ 67 ของโลก
  • การจดทะเบียนทรัพย์สิน จัดอยู่ในอันดับ 68 ของโลก

ซึ่งการปฏิรูประบบต่างๆอันได้แก่ การลดระยะเวลาการจัดตั้งธุรกิจ การยกเลิกการประทับตราบริษัทในหุ้น การลดขั้นตอนการขอใช้ไฟฟ้าการออกกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจใหม่ ฯลฯ เป็นส่วนช่วยทำให้ตัวชี้วัดทั้ง 8 ด้านของไทยมีการปรับตัวที่สูงขึ้นนั่นเอง

ข้ามไปมองประเทศเพื่อนบ้าน อันดับมีเพิ่มและมีลดปนกันไป

     เมื่อมองเทียบกับประเทศในอาเซียนด้วยกันก็จะเห็นความแตกต่างอยู่ไม่น้อย อย่างบรูไนขยับขึ้น 16 อันดับ จาก 72 เป็น 56 อินโดนีเซีย ขยับขึ้น 19 อันดับ จาก 91 เป็น 72 เวียดนาม ขยับขึ้น 14 อันดับ จาก 82 เป็น 68 กลุ่มนี้อันดับเพิ่มขึ้นเรื่อยอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีอีกกลุ่มที่อันดับลดลงนั่นคือฟิลิปปินส์ กัมพูชา เมียนมา ลาว และมาเลเซีย

     รายงานฉบับพิเศษของเวิลด์แบงก์นี้นับว่าเป็นเครื่องส่งสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุนไทย เพราะการปรับอันดับสูงขึ้นนั่นคือความเชื่อมั่นที่เวิลด์แบงก์มอบให้ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์การลงทุนในบ้านเราดีขึ้น ทั่วโลกก็ให้ความมั่นใจในการจะมากลงทุนมากขึ้น ส่วนทางภาครัฐก็เตรียมนโยบายสานต่อกระตุ้นเศรษฐกิจกันเต็มที่ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจมากขึ้น

อ้างอิง: ddproperty