Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ เปิดตัวไปได้ไม่กี่วัน เหล่ากูรูมือถือก็นำความเจ๋งมาเปรียบเทียบกับ iPhone X แล้ว และหลายเสียงที่ได้ทดสอบสเปกของ Samsung Galaxy S9 ก็ต่างเทใจให้คะแนนทางฝั่ง Samsung เพราะการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและการพัฒนาที่เหนือระดับมากขึ้นของ Samsung ที่ต่อยอด Samsung Galaxy S9 ออกไปจากเดิมทั้งเรื่องของดีไซน์ที่ไม่หยุดนิ่ง เรื่องของประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกตื่นตาตื่นใจ บางคนถึงกับกล่าวว่าเหนือกว่า iPhone X  หลายเท่า และอะไรบ้างล่ะที่ Samsung Galaxy S9 มีเหนือกว่า iPhone X เราขอสรุปออกมา 5 ประการดังนี้

Headphone Jack (รูหูฟัง 3.5 mm.)

     รูหูฟัง 3.5 mm. นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้ใช้งานอยู่ และยังเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ยังดึงดูดผู้ใช้งานได้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ทาง Apple ตัดพอร์ตหูฟังทำนองนี้ออกไปนานแล้ว และจุดเริ่มต้นเจ้าแรกที่ทำแบบนี้ก็คือ Apple เองด้วย ซึ่งช่วงแรกๆนั้นพอการเปลี่ยนแปลงส่วนนี้เริ่มขึ้น กระแสความสนใจและกระแสตลาดเทไปทาง Apple กันมาก จนทำให้แบรนด์มือถือค่ายอื่นๆ เริ่มมองว่าต้อง “เลียนแบบ” บ้างแล้ว แต่สำหรับ Samsung มองต่างออกไป พวกเขายังมองว่าพอร์ตหูฟัง 3.5 mm. ยังเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานจำนวนมากยังต้องการ จึงทำให้ Samsung Galaxy S9 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ไม่กี่รุ่นที่รองรับพอร์ทหูฟัง 3.5 mm. เรียกว่าเป็นการเอาใจผู้ใช้ส่วนใหญ่ในตลาดมากกว่า

DeX support

     Dex คือระบบที่ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถใช้งานได้เหมือนคอมพิวเตอร์ และสามารถใช้คุณสมบัติของสมาร์ทโฟนบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้สะดวก เรียกว่าเป็นระบบเชื่อมโทรศัพท์ให้สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์อื่นๆที่เป็นหน้าจอใหญ่ๆได้อย่างสะดวกมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ Samsung ได้ลงทุนร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาระบบกว่า 30 บริษัท ในการสร้าง Dex ของตนเองขึ้นมา เพื่อความสะดวกในการใช้งานของลูกค้า เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทาง Apple มองข้ามและเหมือนว่าไม่คิดจะมีด้วย

Iris scanner (และเซนเซอร์สแกนนิ้วมือ)

     สำหรับ Samsung Galaxy S9 ได้มีการพัฒนาและเสริมฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยมาหลายอย่าง แต่ที่หลายคนพูดถึงก็คือ Iris scanner และเซนเซอร์สแกนนิ้วมือ ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างสองค่ายอย่างชัดเจน Apple จะเน้นไปที่ระบบการสแกนและจดจำใบหน้า ส่วนทาง Samsung จะออกมาทางการระบุตัวตนผ่านระบบอื่นๆ ซึ่งทำให้ Samsung Galaxy S9 มีระบบปลดล็อคการใช้งานที่หลากหลายมากกว่า iPhone X ซึ่งจะว่าไปก็สะดวกมากขึ้น เรียกว่าใครถนัดแบบไหนก็ใช้แบบนั้น จึงได้ใจผู้ใช้งานไป

Variable aperture – เลนส์ที่สามารถปรับรูรับแสงได้

     ความโดดเด่นอันเป็นที่กล่าวขานอย่างมากของ Samsung Galaxy S9 คือ เรื่องของประสิทธิภาพเหนือระดับของกล้อง ต้องบอกเลยว่าเป็นการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดจริงๆ ด้วยความสามารถในการปรับรูรับแสงเองได้ ลดการเกิด noise ทำให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้สวยงามขึ้นแล้ว กล้องของSamsung Galaxy S9 ยังมีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วแม่นยำ อีกทั้งยังมีความสามารถในการถ่าย slow motion ที่ 960 fps เลยทีเดียว เรื่องของการปรับรูรับแสงที่ดูมหัศจรรย์นั้น ตอนนี้ยังไม่มีค่ายไหนพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ Samsung เป็นเจ้าเดียวในตลาดตอนนี้ จึงเป็นความเทพอีกอย่างที่แตกต่างจากคู่แข่ง

AR emoji

     สำหรับ AR emoji บางคนอาจจะบอกว่า Samsung ลอกเลียน Apple มาหรือเปล่า แต่ทาง Samsung เขาก็ยืนยันว่า “ไม่” AR emoji เป็นฟีเจอร์ที่สามารถนำภาพหน้าตาของเรา ไปสร้างเป็นตัวละครอีโมจิ 3 มิติ ปรับแต่งได้หลายอย่าง ลูกเล่นเพียบ แม้ว่าประหารนี้อาจจะไม่ได้ดูเหนือ iPhone X แบบขาดลอย แต่คนส่วนใหญ่ก็เทคะแนนให้อยู่ดี

     นี่คือความเทพของ Samsung Galaxy S9 เมื่อนำมาเทียบกับ iPhone X แต่ใครจะรักค่ายไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วล่ะ

อ้างอิง : gearpatrol