มนุษย์เรานั้นเกิดมาพร้อมกับความกลัวมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว เราจึงร้องไห้แงๆตั้งแต่คลอดออกจากท้องแม่ แน่ล่ะนั่นเป็นธรรมชาติและสัญชาตญาณอันแสนธรรมดาของมนุษย์ จึงไม่แปลกเลยที่มนุษย์เราจะกลัวได้ตั้งแต่สับปะรดไปยันความมืดและ “วิญญาณ” เมื่อความกลัวของคนเราไม่มีขอบเขตแบบนี้ จึงเป็นสาเหตุให้คนทำหนังทั้งหลายชอบเล่นกับความกลัวของพวกเราเป็นประจำ โดยใช้สื่อกลางเป็น “หนังสยองขวัญ” และเมื่อเรากล่าวถึงเรื่องหนังสยองขวัญ เราก็มักจะนึกถึงพล็อตเรื่องที่ผู้เขียนบทและผู้กำกับจะพาตัวละครไปเผชิญกับผีหรือสิ่งลี้ลับที่ไม่อาจคาดเดา แต่นั้นไม่ใช่หนังทุกเรื่องหรอกนะ เราจะพาไปดูหนังสยองขวัญ 5 เรื่อง ที่มีความแตกต่างและทำให้ผู้ชมนิยามหนังเหล่านี้ว่า “ความน่ากลัวที่ไม่เหมือนใคร”
1.Pan’s Labyrinth
นี่คือภาพยนตร์ Dark Fantasy ที่ตรึงใจใครหลายคนจนยกให้เป็นหนังในดวงใจเลยก็ว่าได้ Pan’s Labyrinth เป็นผลงานระดับ Masterpiece ของ Guillermo del Toro ผู้กำกับที่หาตัวจับยากเพราะหนังของเอาดาร์กแทบทุกเรื่อง แต่คุณเชื่อไหมว่า Pan’s Labyrinth ถึงจะเป็นหนังสยองขวัญแบบ Dark Fantasy แต่ก็ถูกจัดให้อยู่ในเรท R ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งบ่งบอกความแตกต่างแล้วว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังทั่วไป ผู้ใหญ่ดูได้แต่เด็กดูไม่ดี เนื้อเรื่องว่าด้วยเด็กสาวที่พบอาณาจักรอันลึกลับที่อยู่ในบ้านใหม่ของเธอ เนื้อเรื่องดำเนินไปโดยที่พาเราไปสู่การผจญภัยที่ไม่สามารถบอกได้เลยว่าระหว่างโลกความจริงของผู้คนทั่วไปกับโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยปีศาจนั้นอะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
2.The Host
นี่คือภาพยนตร์ที่บอกได้เลยว่าประสบความสำเร็จตลอดกาลของเกาหลีใต้ ทำรายได้งดงามเท่านั้นยังไม่พอยังสามารถเรียกเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย The Host กำกับโดย Bong Joon-ho ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้กำกับที่โด่งดังไปแล้วของเกาหลี The Host เป็นหนังวยองขวัญที่ไม่ธรรมดาเพราะเนื้อเรื่องไม่ได้เอาแต่มาเขย่าประสาทของเราให้ตื่นกลัว แต่มันคือหนังแนวปีศาจที่ผสานทั้งเรื่องราวดราม่า สังคม ไปจนถึงสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าสนใจ ผู้คนมากมายถึงกับทึ่งในตัว Bong Joon-ho เลยทีเดียวว่า เฮ้ย! คิดได้ไง
3.Black Swan
หนังอีกเรื่องที่ทำให้ผู้คนจดจำเธอคนนี้ Natalie Portman แบบไม่มีวันลืม Black Swan นั่นเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ Iconic ของหนังแนวจิตวิทยาระทึกขวัญสั่นประสาท กำกับโดย Darren Aronofsky เขาถ่ายทอดภาพความน่ากลัวออกมาท่ามกลางความสมบูรณ์ของตัวละครและเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป คนดูจะขนลุกและตื่นเต้นเป็นระยะๆ อาจจะงงบ้างเป็นบางช่วง แยกไม่ออกว่าอันไหนจริงอันไหนหลอก แต่เรียกว่าหนังสยองขวัญเรื่องนี้ได้ทำให้เราเห็นทั้งความสวยงามและภัยคุกคามที่กราดเกรี้ยวไปในช่วงเวลาใกล้ๆกันได้อย่างลงตัว
4.Get Out
หากจะบอกว่านี่คือภาพยนตร์สยองขวัญที่กระแสดีสุดๆ ประจำปี 2017 ก็คงจะพูดได้อย่างไม่อายใคร เพราะ Get Out ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ Jordan Peele นักแสดงตลกที่ลองผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลังเป็นผู้กินกับ เฮ้ย! ไม่ใช่ เป็นผู้กำกับบ้าง Get Out เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกที่เป็นการทดสอบฝีมือการกำกับของเขา และเขาก็ทำได้ดีผ่านทุกประตู ทั้งรายได้ที่ถล่มทลายและเสียงวิจารณ์ที่ดีเยี่ยม ภายใต้พล็อตเรื่องที่ดูเหมือนจะซ้ำซาก แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะJordan Peeleได้สอดแทรกประเด็นเสียดสีสังคมในหลายแง่มุมลงไปแบบกระแทกใจคนดู ดูไปจุกไป นี่เลยกลายเป็นจุดแข็งและความแตกต่างของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่คุณควรจะต้องดู
5.It
ภาพยนตร์ชื่อสั้น แต่ดีกรีนั้นยาวเพราะก่อนที่หนังสยองขวัญเรื่อง It จะเข้าฉาย ปีศาจในเนื้อเรื่องอย่าง Pennywise ได้เคยถูกตราหน้าไว้แล้วว่า เป็นปีศาจที่ไม่น่ากลัวอะไรเลย เพราะบทภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำมาจากนิยายขายดีของนักเขียนชื่อก้องอย่าง Stephen King หลายคนรู้จักและเคยอ่านมาก่อนแล้ว แต่ปรากฎว่าพอหนังทำออกมากลับทำได้ดีจนคนคาดคิดกันเป็นแถวๆ Pennywise สามารถเขย่าขวัญและหลอนผู้คนได้แทบทุกวัย และที่สำคัญ It ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้สามารถดึงเอาหัวใจสำคัญของวรรณกรรมออกมาขยายได้ดีจนทำให้เราดูแล้วก็ต้องสยองไปพร้อมๆกับต้องคิดตามไปด้วยเหมือนกัน