ขึ้นชื่อว่า “บ้านมือสอง” บางคนอาจคิดว่ามีบ้านย้อมแมวเยอะก็เลยกลัวที่จะซื้อมาลงทุน จริงอยู่ว่าแม้จะมีบ้าง แต่ในปัจจุบันก็ลดลงไปเยอะมากแล้ว แต่เพื่อความสบายใจถ้าคุณคิดจะซื้อบ้านมือสอง ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุนต่อไป เรามี 6 วิธีการดูบ้านมือสองแบบไม่ต้องกลัวถูกย้อมแมวมาฝาก

1.ดูอายุของบ้าน

1140-declutter-your-home.imgcache.rev7f7a704b9fa7344998f2b3c6ecde425c     อาจถามหรือประเมินคร่าวๆว่าบ้านหลังนี้สร้างมากี่ปี แล้วเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างหลัก ว่ามีการทรุดตัวมีรอยร้าวรอยรั่วซึม รวมทั้งดูระบบไฟฟ้า ประปา ดูความเสียหายว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะต้องคำนวณค่าซ่อมแซมที่เป็นต้นทุนสำคัญด้วย ถ้าไม่มีความรู้พอ อาจจะจ้างช่างไปช่วยประเมินด้วยก็ได้

2.ดูสภาพแวดล้อมภายนอก

mSQWlZdCq5b6ZLkt5HA0aNNnB9grjISO  แม้บ้านจะสวยมาก แต่ถ้าล้อมรอบด้วยแหล่งเสื่อมโทรม เส้นทางคมนาคม หรือสาธารณูปโภคที่ไม่ค่อยดี แบบนี้ก็จะเป็นปัญหาในอนาคตได้

3.ตรวจสอบผู้มีกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดิน

shutterstock_81231871     ดูให้ดีว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตัวจริง เพราะถ้าเป็นตัวแทนหรือคนแอบอ้าง จะเกิดปัญหาตามมาในภายหลังให้เราต้องปวดหัวได้ไม่รู้จบ

4.ต้องไม่มีภาระผูกพัน

15574863_xxl     ถ้าบ้านมือสองหลังที่เราคิดจะซื้อ ติดภาระจำนอง มีการทำธุรกรรมไว้ บ้างหลังดังกล่าวจะต้องถูกไถ่ถอนการจำนองก่อน ถ้ายังเคลียร์ไม่จบแบบนี้ควรชะลอการซื้อไว้ก่อนดีกว่า

5.ตกลงราคาให้ชัดเจน

No interest rates     อย่าลืมว่าการซื้อขายบ้านจริงๆจะมีเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วยเช่น ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน ค่าภาษีรายได้จากการขายที่ดิน(ปกติผู้ขายต้องรับผิดชอบส่วนนี้)ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากรแสตมป์ ค่านายหน้าฯลฯ ถ้าตกลงกันได้ทุกอย่างก็ไปได้สวย

6.ทำเรื่องต่างๆให้เป็นลายลักษณ์อักษร

x3366.jpg.pagespeed.ic.j73loD_Rw1     อย่าคิดว่าแค่พูดกันปากเปล่าก็พอ เพราะพบางทีเรื่องที่คิดว่าจะจบ มันก็ไม่จบ เช่นการวางเงินมัดจำ และชำระยอดคงเหลือ การตกลงให้ผู้ซื้ออยู่ต่อไปได้อีกกี่วันก่อนย้ายออก หรือแม้แต่การตกลงยกทรัพย์สินอื่นๆที่ติดมากับบ้านให้ผู้ซื้อ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ประมาทไม่ได้เหมือนกัน

    ถ้าลองทำตาม 6 ข้อที่กล่าวมาเชื่อว่าจะพอเป็นแนวทางที่ทำให้การซื้อบ้านมือสองของคุณไม่ผิดพลาดแน่นอน