เทคโนโลยี IT ทำให้โลกก้าวเข้าสู่การสื่อสารไร้พรมแดนอย่างเต็มตัว ทำให้ยุคสมัยเปลี่ยนจากระบบแมนนวลกลายมาเป็นยุคดิจิทัล ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านระบบออนไลน์ เว็บไซต์ และ Social Media อย่าง Facebook, Line, IG, YouTube ที่ทำให้เราสามารถเชื่อมโลกให้ใกล้กันได้มากขึ้น และไม่เพียงแค่โลกของสาระบันเทิงและสื่อเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่อง “การเงินการลงทุน” ที่ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทแบบไร้พรมแดนเพิ่มมากขึ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ “เงินดิจิทัล” ในชื่อที่เราคุ้นหูกันดีในยุคนี้นั่นคือ Bitcoin
ทำความรู้จักกับ Bitcoin
บิทคอยน์ (Bitcoin) ตัวย่อที่ใช้เรียกกันก็คือ BTC ก็คือ สกุลเงินชนิดหนึ่ง แต่เป็นสกุลเงินแบบดิจิทัล ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อใช้จ่ายแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการแทนเงินตราสกุลดั้งเดิมต่างๆ ที่เราใช้กัน อย่างสกุลเงินที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้นั้น มีทั้งเงินบาท เงินดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สิงคโปร์ เงินเยน เงินหยวน เงินฟรังก์สวิส ฯลฯ เหล่านี้คือสกุลเงินที่มีใช้จริงอยู่บนโลกของเรา และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในระบบเงินตรา Bitcoin ก็เปรียบเทียบแบบเดียวกัน เป็นสกุลเงินหนึ่งที่มีการใช้งานจริงแต่อยู่บนโลกออนไลน์ ดังนั้น Bitcoin จึงไม่มีเหรียญหรือธนบัตรที่จับต้องได้แต่อย่างใด เป็นเสมือนเงินที่ลอยอยู่ในอากาศ มีค่าแต่จับต้องไม่ได้
Bitcoin เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เมื่อหลายปีก่อน มีคนที่อ้างชื่อว่า ซาโตชิ นากาโมโต้ (Satoshi Nakamoto) ได้บอกว่าเข้าคือผู้คิดค้นและให้กำเนิดแนวคิดการใช้เงินดิจิทัล กล่าวคือ เขาคือผู้สร้างสกุลเงิน Bitcoin ขึ้นมา และเริ่มใช้อย่างจริงจังในเดือนมกราคมปี 2009 (ดูจากชื่อน่าจะเป็นคนญี่ปุ่น) แต่กูรูผู้ที่อยู่ในวงในของวงการนี้ต่างให้ข้อมูลว่า Satoshi Nakamoto น่าจะเป็นเพียงนามแฝงไม่น่าจะใช่คนญี่ปุ่น และอาจเป็นไปได้ว่าอาจเป็นนามแฝงของกลุ่มบุคคลไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง นั่นก็หมายความว่าจนบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า Satoshi Nakamoto เป็นใคร และใครกันแน่ที่เป็นคนสร้างสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin ขึ้นมา แต่เอาเป็นว่าในที่สุดแล้ว Bitcoin ก็ได้ถือกำเนิดมีตัวตนขึ้น มีคนนำไปใช้งานจริง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันจริง ๆ แล้ว โดยราคาค่าเงิน Bitcoin ในตอนเริ่มต้นเมื่อประมาณ 3 – 4 ปีก่อน 1 Bitcoin หรือ 1 BTC มีมูลค่าอยู่ที่เพียง 4,000 -7,000 บาทเท่านั้น แต่มา ณ ปัจจุบัน เดือนมิถุนายน 2561 ราคาได้พุ่งทะยานไปถึง 1 BTC มีมูลค่าอยู่ที่ 245,000 บาทแล้ว
หน้าที่ที่แท้จริงของ Bitcoin
เงินตราและสกุลเงินตราต่างๆในโลกล้วนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นสื่อกลางสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการทั้งสิ้น และ Bitcoin ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน มีหน้าที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหมือนเงินตราสกุลต่างๆ เพียงแต่ Bitcoin อาจมีบางอย่างที่แตกต่างไปจากระบบเดิมบ้างเล็กน้อย นั่นคือมีหน้าที่เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนระบบการเงินในโลกออนไลน์ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น ให้คุณนึกถึงการซื้อสติ๊กเกอร์ Line เมื่อคุณเข้าไปใน Line และจะทำการซื้อสติ๊กเกอร์ Line จะกำหนดราคาสติ๊กเกอร์เป็น Line Coin อย่างสติ๊กเกอร์ที่ 1 มีราคา 100 เหรียญ Line Coin สติ๊กเกอร์ที่ 2 มีราคา 50 เหรียญ และ Line Coin นั่นล่ะคือเงินดิจิทัลแบบหนึ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อที่ใช้ซื้อขายสติ๊กเกอร์และบริการอื่นๆของ Line โดยเฉพาะ
ความแตกต่างของ Bitcoin กับ ระบบเงินตราทั่วไป
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Bitcoin เป็นเงินดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในโลกออนไลน์ ส่วนระบบเงินตราทั่วไปถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในโลกที่เป็นจริง นั่นคือ ความแตกต่างประการแรก แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า Bitcoin ไม่สามารถนำมาใช้เป็นเงินสดในระบบเงินตราทั่วไปได้ Bitcoin สามารถนำมาแปรเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ หรือใช้แทนเงินสดในระบบเงินตราทั่วไปได้เหมือนกัน
ประการต่อมาเป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนของ Bitcoin กับ ระบบเงินตราทั่วไป นั่นคือ Bitcoinเป็นระบบที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยธนาคารและรัฐบาลใดๆ จึงไม่มีค่าเงินที่ตายตัวแน่นอน มูลค่าจะผันผวนเปลี่ยนแปลงเร็วมากกว่าระบบเงินตราทั่วไป (ระบบเงินตราทั่วไปที่เราใช้กันอยู่นั้น ปกติจะเทียบเคียงกับทองคำ ค่าเงิน 1บาทวันนี้จะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการเอาทองไปค้ำประกันค่าเงินไว้ แต่ Bitcoin ไม่มีการค้ำประกันจากหลักทรัพย์ใดๆ มูลค่าของ Bitcoin เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปตามข้อตกลงของผู้ใช้งาน และกลไกอัลกอริทึ่มของระบบ IT บนโลกออนไลน์)
ทั้งหมดนี้เป็นความรู้พื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับ Bitcoin เท่านั้น หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency ที่เข้ามาเขย่าโลก การเงิน การลงทุนจนสั่นสะเทือนไปหมด ยังมีความรู้มากมายเกี่ยวกับ Cryptocurrency และ Bitcoin ติดตามได้ในบทความต่อ ๆ ไป