ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการอะไรที่ง่ายๆ แต่ในความง่ายก็ต้องมีคุณค่า และมีเสน่ห์ในตัวเองอยู่ด้วย การทำอาหารก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่คนรุ่นใหม่ยังคงให้ความสนใจ หากคุณตัดความพิถีพิถันที่ดูไม่จำเป็นออกไปบ้าง เพิ่มความง่ายและรวดเร็วลงไปโดยไม่ลดคุณค่าและเสน่ห์ของการทำอาหารรับประทานเองลงไปได้ โอกาสที่คุณจะเป็น Startup ในธุรกิจอาหารที่ประสบความสำเร็จเติบโตอย่างก้าวกระโดดก็มีสูง

คนรุ่นใหม่ก็ยังรักในการทำอาหารอยู่นะ

     เราอาจคิดว่าคนรุ่นใหม่ชอบอะไรง่ายๆ การรับประทานอาหารก็นิยมจะรับประทานอาหารนอกบ้านมากกว่าการทำอาหารรับประทานเองในบ้าน ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะด้วยเรื่องของความเร็วรีบที่บีบรัด แต่ในส่วนลึกๆแล้ว ไม่ว่าจะคนรุ่นไหนก้ยังคงหลงใหลเสน่ห์ในการทำอาหารรับประทานเองในบ้านอยู่ดี สิ่งที่ชี้ชัดได้เป็นอย่างดีว่า คนรุ่นใหม่ยังสนใจการรับประทานอาหารในบ้านมากกว่าการรับประทานอาหารนอกบ้านไม่ว่าจะทำเองหรือไม่ก็ตาม ก็คือ จำนวนร้านอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่มีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งบางส่วนนอกจากจะชอบสั่งอาหารมารับประทานที่บ้านแล้ว ยังชอบทำอาหารด้วยตัวเองด้วยแต่ก็ต้องมีข้อแม้ว่า การทำอาหารนั้นๆไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบหนักหรือรูปแบบขนมของว่างก็ตามจะต้องไม่ยุ่งยากซับซ้อนเกินไป ยิ่งง่ายยิ่งสะดวกเท่าไหร่ยิ่งดี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นไอเดียสร้างสรรค์ของ 2 สาว ต้อง -วริศรา ตันตราธิวุฒิ, นิว – ธนัญญา เครือบัว  และ 2 หนุ่ม เมฆ – นิธิ สัจจทิพวรรณ กับ ก้อง – วรรษพล แสงสีทองในการสร้างแบรนด์ COOKIT ขึ้นมา

COOKIT delivery ทางเลือกการทำอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่

     ก่อนหน้าที่จะเกิดแบรนด์ COOKIT ขึ้นนั้น เมฆ – นิธิ สัจจทิพวรรณก็เป็นหนึ่งในบรรดาคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำอาหารรับประทานเองที่บ้านอยู่แล้ว เขาได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาคนเดียว หลายๆครั้งที่เขาจะทำอาหารรับประทานเองคนเดียวก็จะพบกับความยุ่งยากบางประการ หลัก ๆ ก็คือ วัตถุดิบที่ซื้อมาทำนั้นจะเหลือ เพราะทำกินคนเดียวจะใช้วัตถุดิบทั้งหมดเลยก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะต้องกลายเป็นอาหารจานใหญ่กินหลายมื้อ พวกส่วนผสมต่างๆก็ต้องใช้เพิ่มมากขึ้นทำให้สิ้นเปลือง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไปซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วก็เห็นอาหารที่มีการจัดส่วนผสมต่างๆเป็นแพ็คอยู่ พร้อมที่จะให้ลูกค้าซื้อไปทำเองที่บ้านได้เลยโดยไม่ต้องไปเดินซื้ออะไรให้วุ่นวาย เพราะบางอย่างเขาก็ไม่แบ่งขาย จะซื้อทีก็ต้องซื้อทั้งแพ็คทำให้ไม่สะดวกในการแบ่งทำเฉพาะมื้อ พอเขาเห็นแนวคิดนี้เขาถึงกับปิ๊งทันที เลยลองหาข้อมูลก็พบว่าในอเมริกามีอาหารกึ่งสำเร็จรูปแบบนี้ขายอยู่เยอะมาก แบบ delivery ก็มีอยู่หลายแห่ง เขาจึงลองค้นหาที่เมืองไทยก็เห็นว่าที่เมืองไทยยังไม่มีใครทำ พอกลับมาที่เมืองไทยเขาจึงชวนเพื่อนๆมาลองดู ในที่สุด ทั้งหมดจึงได้ลงเอยเปิดเว็บไซต์ cookitdelivery และตั้งแบรนด์ COOKIT ขึ้นมาทำธุรกิจอาหารกึ่งสำเร็จรูปแบบเดลิเวอรี่ ที่ดูเผินๆอาจจะไม่น่าแปลก แต่เมื่อสัมผัสลึกไปในรายละเอียดแล้ว COOKIT ก็ไม่ธรรมดา อาหารที่มีจำหน่ายนั้นมีหลากหลายเมนูตั้งแต่เมนูไทย ๆ จนไปถึงเมนูระดับอินเตอร์ ซึ่งสูตรที่ได้มาก็มีทั้งจากเชฟมือทองของทาง COOKIT และบางเมนูก็เป็นสูตรจากร้านอาหารที่เป็นพันมิตรทางธุรกิจอย่างร้าน Kin-d! และ ร้าน Kloset Cafe สั่งง่ายส่งถึงที่แถมมีวิธีการทำเป็นภาพประกอบให้ลูกค้าอย่างละเอียดอีกด้วย

“เราเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน ที่มักไม่มีเวลาที่จะจัดการกับความยุ่งยาก ไม่มีใครต้องการล้างจานกองโต และไปทิ้งขยะมากมายทุกวัน ฉะนั้น นี่จึงเป็นความสะดวกที่เราพร้อมมอบให้”

COOKIT

COOKIT อาหารเดิมๆแต่เพิ่มเติมคือความสะดวกและประสบการณ์

     จริงอยู่ว่าเมนูอาหารที่ทาง COOKIT นำมาจัดจำหน่ายนั้น อาจไม่ใช่เมนูที่แตกต่างฉูดฉาดหารับประทานที่ไหนไม่ได้ แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้ COOKIT กลายเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ Startup รุ่นใหม่ที่น่าสนใจก็คือ การขาย “อาหาร” พร้อม ”ประสบการณ์” นั่นเท่ากับว่า COOKIT ตีโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้แตก มีความเข้าใจว่าผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการอะไร อาหารเดิม แต่ถ้ามีความสะดวกและง่าย สามารถทำให้ผู้คนได้ลิ้มรสอาหารที่รสชาติดีไปพร้อมๆกับประสบการณ์อันน่าภาคภูมิใจเล็กๆด้วยก็ยิ่งทำให้มื้ออาหารมื้อนั้นเป็นความประทับใจที่น่าจดจำ COOKIT จึงไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจอาหารกึ่งสำเร็จรูป เพราะธุรกิจอาหารกึ่งสำเร็จรูปพุ่งเป้าไปที่ “ความประหยัด” ของค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหาร แต่ COOKIT พุ่งเป้าไปที่เสน่ห์และคุณค่าของการได้ทำอาหาร นี่จึงกลายเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจสามารถนำไปเป็นไอเดียต่อยอดสำหรับ คนที่ทำธุรกิจอาหารอยู่แล้วได้เป็นอย่างดี

   ไอเดียดีขนาดนี้ เราจึงขอจัดเข้าทำเนียบ New Startup ที่น่าสนับสนุนไปเลย และถ้าใครสนใจอยากชิมลิ้มรส หรือ ต้องการเป็นพาร์ทเนอร์ ลองเข้าไปดูได้ที่นี่เลย  cookitdelivery.com

 

summary

  • ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ต้องการแค่สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการสัมผัสถึงคุณค่าและประสบการณ์ใหม่ๆ จากการบริโภคสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ
  • การทำธุรกิจอาหารให้อยู่รอดและสามารถพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น Startup ได้นั้น จำเป็นที่จะต้องนำสิ่งที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุดต่อผู้บริโภคมานำเสนอพวกเขา และพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการที่ลึกซึ้งหลากหลายได้มากขึ้น ธุรกิจอาหารของคุณจะมีความยั่งยืน
  • การทำธุรกิจอาหารในยุคใหม่สูตรอาหารแม้จะสำคัญแต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับ การมีพันธมิตรธุรกิจที่ดี คุณอาจจะมีสูตรที่เยี่ยม แต่ยังขาดไอเดียหรือการบริหารจัดการที่ถูกต้อง สูตรอาหารนั้นก็จะไร้คุณค่า ลองหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจเข้ามาช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ของคุณดูสิ แล้วสูตรอาหารที่ไม่ธรรมดาของคุณจะยิ่งวิเศษมากขึ้น เมื่อมันได้เผยโฉมต่อผู้บริโภคที่หลากหลาย