เมื่อเราต้องอยู่ร่วมกันในสภาพสังคมที่เร่งรีบ พื้นที่ถนนและทางเท้าก็ล้วนเป็นสิ่งสาธารณะที่ไม่ว่าใครก็ต่างมีสิทธิ์ในการใช้งาน ทางเท้าเป็นพื้นที่ของคนเดิน ส่วนถนนก็เป็นพื้นที่ของรถยนต์ อาจจะมีก้าวก่ายเบียดบังกันบ้างตามสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่ธรรมดา เพราะคนก็ต้องลงจากทางเท้ามาข้ามถนน และบางทีในบ้านเรารถติดมากๆหรือฝนตกน้ำท่วมถนนก็มีรถมอเตอร์ไซค์ขอเพียงเสี้ยวนาทีในการใช้พื้นที่ทางเท้าเพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง การใช้งานร่วมกันก็เป็นดังนี้มานานในบ้านเรา ปัญหาในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯในเรื่องการจราจรมักจะมีหลากหลายตั้งแต่รถติดหนักมาก จนกระทั่งถึงเรื่องอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น นโยบายและแนวคิดมากมายถูกงัดออกมาใช้เพื่อแก้ปัญหา แต่ดูแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นเป็นไปได้ว่าการดำเนินนโยบายของผู้มีอำนาจกำลังต้องการขยายเมืองจึงทำให้แนวโน้มดูเหมือนว่าแนวคิดต่างๆที่ออกมาจะเป็นไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับคนมีรถยนต์เสียมากกว่า ลักษณะปัญหาดังนี้ที่ เมืองร็อตเตอร์ดัม ของประเทศเนเธอร์แลนด์ก็มีไม่ต่างจากในบ้านเรา แต่แนวคิดและการดำเนินนโยบายของเนเธอร์แลนด์กลับดูน่าสนใจและได้ผลกว่าของบ้านเราอย่างมาก
เมืองร็อตเตอร์ดัม ของประเทศเนเธอร์แลนด์นับเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แทบจะทั้งหมด เพราะเมืองนี้เคยได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียหายหนักมาก เมื่อเป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่จึงทำให้เรื่องของการวางผังเมืองจึงทำภายใต้แนวคิดให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้คนในอนาคตมากขึ้น จึงเน้นขยายเมืองขยายถนนเพื่อรองรับการใช้รถยนต์ของผู้คน และในที่สุดสภาพของร็อตเตอร์ดัมก็ไม่ต่างอะไรจากกรุงเทพฯ(รถอาจติดน้อยกว่าสักหน่อยเท่านั้น)คือมีมลพิษทางอากาศสูงขึ้นจนกระทบกับคุณภาพชีวิตของผู้คน นั่นจึงเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของเทศบาลเมืองร็อตเตอร์ดัม พวกเขาพยายามหาทางแก้ปัญหานี้ให้กับประชาชน จนในที่สุดก็ได้ไอเดียสุดแจ๋ว มาในชื่อ Creative Crosswalks
Creative Crosswalks เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องการจัดวางผังเมืองใหม่ โดยทางเทศบาลเมืองร็อตเตอร์ดัมได้รวบรวม “ยอดฝีมือ” จากหลายด้านหลายสาขา ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงผังเมือง Street Makers และกลุ่มศิลปิน Opperclaes ซึ่งจากแนวคิดเอาไอเดียที่แตกต่างกันแต่ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันมายำรวมกันแบบนี้ จึงทำให้เกิดการปรับปรุงออกแบบทางเดินข้ามถนนและทางเท้าบนย่าน Westblaak street อันเป็นย่านใจกลางเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งย่าน Westblaak street นั้น ถ้าจะเปรียบกับบ้านเราก็คงจะแถวๆอโศกตอนเย็นๆ หรือแถวถนนเพชรบุรีอะไรประมาณนั้น รถราพลุกพล่าน บางทีก็ติดหนักมาก อีกทั้งยังมีพื้นที่บางส่วนถูกออกแบบมาแต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนได้ มิหน่ำซ้ำยังเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางสัญจรของผู้คนในเมืองด้วย
เมื่อ “ยอดยุทธ์” ต่างสาขามาทำงานร่วมกันใน Creative Crosswalks แบบนี้ ความบรรเจิดจึงเกิดขึ้น เพราะทางเท้าถูกออกแบบใหม่ จากที่สองแห่งถูกแยกจากกันก็ถูกนำมาเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบและเห็นได้ชัด โดยวิธีการก็ง่ายแสนง่าย พวกเขาแค่นำสีสำหรับทาถนนที่ใช้ในการทำทางม้าลาย มาเพนต์ลงไปบนทางเท้าเพื่อให้เกิดลายที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 ทางมาลายให้เห็นหนึ่งเดียว ซึ่งพวกเขาเพนต์เป็นคำพูดคือ “STAND STRAIGHT และ WALK PROUD” ประมาณว่า “พวกคุณจงภูมิใจในทุกก้าวย่างของคุณ”
จากไอเดียสนุกๆ นำไปสู่การดีไซน์ที่เป็นประโยชน์ การเพนต์ตัวอักษรลงบนถนนนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ที่สัญจรเดินเท้ามีจุดสังเกตในการเดินมากขึ้น เป็นการช่วยดึงสติของคนเดินเท้าก่อนจะก้าวข้ามถนน และยังทำให้เด็กๆ และวัยรุ่นมาใช้พื้นที่ตรงนั้นในการเล่นสนุก กระโดดโลดเต้นไปมาตามลวดลายของตัวอักษร ยิ่งพื้นที่บริเวรนั้นมีเยาวชนมาทำกิจกรรมกันมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้ที่ใช้รถยนต์เวลาขับผ่านถนนบริเวณนั้นก็จะเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น รถจะชะลอเพื่อระวังคนข้าม คนที่เดินเท้าอยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะมีเหตุผลด้านจิตวิทยาแทรกอยู่ภายใต้ไอเดียนี้ เมื่ออะไรที่มีปริมาณมากก็จะยิ่งทำให้ความรู้สึกของเราบอกตัวเราเองว่า “เรามีความสำคัญมากกว่า” ประมาณว่า “เมื่อถนนคนเดินเยอะขึ้น รถยนต์ไม่ใช่เจ้าถิ่นก็หลบไปก่อน” ไอเดียนี้ทางเทศบาลเมืองร็อตเตอร์ดัมกำลังทดลองใช้อยู่ว่าจะทำให้คนหันกลับมาเดินทางมากกว่าการใช้รถหรือไม่ แต่จากที่ทดลองมาสักระยะแล้วแนวโน้มค่อนข้างดี พวกเขาจึงมีไอเดียที่จะต่อยอดเป็นโมเดลนำไปใช้กับเมืองอื่นๆของเนเธอร์แลนด์ด้วย แหม่ สุดยอดจริงๆ คิดได้ไงเนี้ย
อ้างอิงจาก:designboom.com