เมื่อ Cryptocurrency หรือเงินดิจิทัลกำลังเข้ามา Disruptive ระบบการเงินทั่วโลก เสมือนกำลังต้องการจะเปลี่ยนแปลงวิถีการเงินของผู้คน นั่นทำให้โลกกำลังหวั่นไหวไปกับสกุลเงินดิจิทัล bitcoin คือชื่อของสกุลเงินดิจิทัลที่บางคนบอกว่ามันคือหายนะ แต่ในขณะที่บางคนกลับบอกว่ามันคืออนาคต
Cryptocurrency อนาคต หรือ หายนะ
ณ เวลานี้โลกยังคงถกเถียงและหาคำตอบสำหรับทิศทางที่แท้จริงของ Cryptocurrency หรือเงินดิจิทัล ว่ามันจะเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปทางไหน นักลงทุน นักการเงิน ผู้ที่อยู่ในแวดวงการลงทุนแบบเก่าทั้งหุ้น อสังหาฯ และตลาดเทรดการเงินอย่าง Forex ต่างกำลังจับตามองการเข้ามาแทรกแซงของ Cryptocurrency และโดยส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนแบบเก่านี้มักจะมีทัศนะว่า Cryptocurrency คือ หายนะ มันเสี่ยง ! แต่ในอีกด้านนักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งที่เคยลงทุนในหุ้น และสายอื่นๆมา รวมทั้งคนที่เพิ่งจะหัดลงทุนด้วย กลับมีความเห็นต่างออกไป คนกลุ่มหลังนี้มองว่า Cryptocurrency คือ อนาคตการเงินของโลก 5 – 10 ปีต่อจากนี้ สังคมโลกจะกลายเป็น “สังคมไร้เงินสด” ธุรกรรมการเงิน การซื้อขายจะเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เงินจะลอยอยู่ในอากาศ ไม่จำเป็นต้องมีธนบัตรและเหรียญเงินอีกต่อไป คนกลุ่มนี้จึงเชื่อมั่นว่า Cryptocurrency จะมีอนาคตที่สดใส แล้วคุณล่ะมองเจ้าสิ่งนี้เป็นอย่างไร
โลกถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วหรือ ?
สกุลเงินดิจิทัลอันแรกที่เข้ามาเขย่าโลก จนคนต้องลงทุนไปซื้อคอมพิวเตอร์แรงๆและที่หนักไปกว่านั้น ไปซื้อการ์ดจอคอมพิวเตอร์มาแบบเหมาหมดตลาด เล่นเอาเหล่าเกมเมอร์บ่นอุบว่า “จะเล่นเกมโว้ย…แต่การ์ดจอหมด” เพื่อที่จะมาทำการ Mining หรือ ที่เรารู้จักกันในคำว่า “การขุด bitcoin” บางคนลงทุนไปเหยียบแสนกับคอมพิวเตอร์และการ์ดจอหลายตัวเพื่อสร้างเครื่องขุดเหรียญ bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น บางคนมองในแง่การลงทุน เทรดซื้อขายค่าเงินดิจิทัลแบบหุ้น และสุดท้ายก็มีทั้งสองฝั่ง คือ ฝั่งที่เจ็บตัวและฝั่งที่ร่ำรวย คำถามที่สำคัญ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่า Cryptocurrency และ bitcoin มันดีหรือไม่ดี คุณควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันหรือไม่ก็คือ
“โลกจำเป็นที่จะต้องมีเจ้าเงินดิจิทัลเหล่านี้แล้วหรือไม่”
หากมองในแง่ของคนธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่นักการเงิน หรือนักลงทุนอะไร เป็นคนทำมาหากินทั่วไปก็ต้องบอกว่า โลกไม่มี Cryptocurrency หรือเงินดิจิทัล ก็อยู่ได้ไม่ตาย การซื้อขายแลกเปลี่ยนก็เป็นอย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่อดีตได้ ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะทุกวันทำงานก็ได้เงินเป็นเงินสด เป็นธนบัตรเป็นเหรียญสตางค์กันอยู่ เข้าร้านสะดวกซื้อ ก็ยังต้องจ่ายเงินสด(อาจมีบางครั้งใช้แสตมป์หรือแต้มสะสมจ่ายแทนบ้าง) ไปซื้อของที่ตลาดแม่ค้าก็ยังขอรับเงินสด ติดหนี้ชำระหนี้ก็ต้องใช้เงินสด ไม่เห็นต้องพึ่งพาเงินดิจิทัลแต่อย่างใด และ สิ่งเหล่านี้คนส่วนใหญ่ของโลกก็ยังใช้กันอยู่เช่นนี้ ฉะนั้น เงินดิจิทัล ไม่ได้จำเป็นหรือมีส่วนสำคัญต่อชีวิตเลยในขณะนี้ แต่…
ถ้ามองในแง่แง่ของคนที่มองลึกซึ้ง แบบนักการเงินและนักลงทุน จะเห็นต่างออกไป เพราะคนกลุ่มนี้มองว่า การซื้อขายแลกเปลี่ยนและทำธุรกรรมเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนต่างๆไม่ว่าจะในประเทศหรือข้ามประเทศในทุกวันนี้ ล้วนแต่จะต้องมี “ตัวกลาง” เพื่อเชื่อมต่อ อย่างเราจะโอนเงินก็จะต้องทำธุรกรรมผ่านธนาคารซึ่งเป็นตัวกลาง ข้อมูลธุรกรรมการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะโอน ถอน จ่าย ฝาก ทุกอย่างจะอยู่ที่ธนาคารเท่านั้น และเมื่อก่อนนั้นต้องมีการเสียค่าธรรมเนียม(ปัจจุบันไม่มีแล้วสำหรับธุรกรรมในประเทศ ซึ่งธนาคารงัดกลยุทธ์ฟรีค่าธรรมเนียมขึ้นมาใช้ก็เพราะเหตุผลที่ต้องต่อสู้กับCryptocurrencyด้วย ) ข้อมูลทุกอย่างธนาคารกับเราเท่านั้นที่จะรู้ จึงทำให้การตรวจสอบ เปิดเผยข้อมูลที่ควรเปิดเผยนั้นทำไมได้ ในขณะที่ตัวเราผู้เป็นเจ้าของบัญชีต้องเปิดเผยตัวตนเสมอ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่การแลกเปลี่ยนในระบบปัจจุบันทำให้คนกลุ่มหนึ่งมองว่าไม่ยุติธรรม นั่นจึงทำให้พวกเขาเหล่านี้มองว่า เงินดิจิทัลจะเข้ามาแก้ปัญหา และสร้างความเท่าเทียมให้กับเรื่องของการแลกเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทิศทางของโลกก็พยายามที่จะเปลี่ยนให้สังคมเป็นสังคมไร้เงินสดอยู่แล้ว การทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าในปัจจุบันทำออนไลน์ผ่านมือถือได้เกือบหมดแล้ว แบบนี้ Cryptocurrency จึงเป็นเรื่องของการเตรียมพร้อมไว้สำหรับอนาคต ไม่น่าจะใช่เรื่องที่เสียหาย เพราะโลกยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลง
ข้อดีของ Cryptocurrency
เราขอสรุปข้อดีของ Cryptocurrency ออกมาเป็นข้อ ๆ ดังนี้
- การทำธุรกรรมต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง ทำให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- ไม่มีรัฐหรือองค์กรใดมาควบคุมกำกับมูลค่าตายตัว มูลค่าของเงินดิจิทัลซึ่งปัจจุบันนี้มีกว่า 2,000 สกุลเงินไม่ได้มีใครมากำหนดค่าเงินตายตัว รัฐบาลไหนของโลกก็เข้ามากำหนดไม่ได้ มูลค่าของเงินดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปตามการซื้อขายของคนที่ถือเงินสกุลนั้นๆอยู่ ฉะนั้นมูลค่าสามารถสูงขึ้นได้แบบไม่น่าเชื่อ คนที่เข้ามาถือครองตอนนี้หรือในขณะที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนักจึงมีโอกาสทำกำไรได้มาก
- เงินดิจิทัลเวลาแลกเปลี่ยนออกมาเป็นเงินสดนั้น มีค่าธรรมเนียมบ้างในปัจจุบัน แต่เรียกว่าเสียน้อยมาก ๆ และการได้เงินนั้นรวดเร็วกว่า
ข้อเสียของ Cryptocurrency
- ความปลอดภัยและการตรวจสอบได้ที่ยังไม่ชัดเจน Cryptocurrency เมื่อมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ซื้อขายและเปลี่ยนทำธุรกรรมต่างๆ นั้น จะเกิดขึ้นบนเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้นี่เองที่เป็นอนาคตของโลกจริงๆ และเป็นตัวที่ฉุดให้ Cryptocurrency มีความน่าสนใจขึ้นมา Blockchain ช่วยให้ Cryptocurrency เป็นเรื่องที่ขาวสะอาดมากขึ้น ตรวจสอบได้ชัดเจน คือ การซื้อขายเงินดิจิทัลเกิดขึ้นที่ใด คนที่อยู่ในวงการจะรู้และตรวจสอบได้ทันที เหมือนกับเราเข้าไปดูบัญชีของคนอื่นได้ คนอื่นก็มาดูบัญชีของเราได้เช่นกัน แต่ในที่นี้ขอมองเป็นด้านลบหรือข้อเสียไปก่อน เนื่องจากว่าในขณะนี้คนยังมีความเข้าใจในเทคโนโลยี Blockchain กันน้อย เรามองว่าบัญชีการเงินดิจิทัลสามารถตรวจสอบได้ก็จริง แต่ผู้ใช้หรือเจ้าของบัญชีน่ะไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนจริง ๆ ก็ได้(อ้าว) แล้วแบบนี้ปลอดภัยจริงหรือไม่เนี้ย คือ คุณเปิดบัญชีเงินดิจิทัลไว้ โดยใช้ชื่อปลอมหรือนามแฝงก็ได้ บัญชีคุณน่ะเขาตรวจสอบกันได้นะ แต่จะไม่มีใครรู้เลยว่าคุณเป็นใคร
- ความเสี่ยงสูงเพราะราคาและมูลค่าที่มีความผันผวนสูง (วันเดียวราคาอาจจะร่วงเป็นหมื่นบาทได้เลย)
- มีช่องทางที่เหล่าแฮกเกอร์ หรือคนที่ทำธุรกิจมืดสามารถเข้ามาใช้หาประโยชน์ได้
- การซื้อขายที่ยังดูยุ่งยาก สำหรับมือใหม่
ถึงตรงนี้แล้ว Cryptocurrency และ bitcoin มันดีพอที่คุณจะเข้าไปเสี่ยงหรือไม่ ก็อยู่ที่คุณจะต้องถามใจคุณดูแล้วล่ะ แต่อย่างลืมนะทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง โปรดศึกษาให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน