Facebook เริ่มไม่โดนใจคนรุ่นใหม่ ทำให้ยอดผู้ใช้งานเติบโตลดลงและรายได้ของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ก็ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ จึงมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่านี่เป็นวิกฤตระลอกใหม่ของ Facebook หรือไม่
Facebook เปิดเผยรายงานการดำเนินงานล่าสุดประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยแจ้งว่ายอดเฉลี่ยผู้ใช้งานรายวันเฉลี่ยอยู่ที่ 1,490 ล้านคน ซึ่งทาง Facebook อ้างว่างเป็นจำนวนผู้ใช้งานต่อวันที่มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 9% ตัวเลขดังกล่าวอาจจะดูเป็นความก้าวหน้าและเติบโต แต่แท้จริงแล้วตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าเป้าที่มีการคาดการณ์ไว้ว่า Facebook ควรมีผู้ใช้งานที่ 1,510 ล้านคนต่อวัน
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้นับเป็นความน่าผิดหวังของทาง Facebook ซึ่งพวกเขาต่างคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำน่าจะโดนใจคนมากขึ้นและน่าจะช่วยให้พบกับความเติบโตของทางบริษัท แต่ดูเหมือนว่ายิ่งทำ Facebook ก็จะยิ่งเข้าใกล้วิกฤตไปทุกที ยิ่งถ้าวิเคราะห์เจาะลงไปในแต่ละประเทศยิ่งทำให้เห็นภาพชัดขึ้น อย่างผู้ใช้งานในสหรัฐฯและแคนาดา จำนวนผู้ใช้งานไม่ได้เพิ่มจำนวนขึ้นเลย ยิ่งในยุโรปยิ่งมีจำนวนผู้ใช้งานลดลงที่เห็นได้ชัดเจน และเมื่อพูดถึงเรื่องรายได้ ยอดขายของ Facebook มีการปรับตัวขึ้นบ้างในไตรมาสที่ 3 โดยขึ้นไปแตะที่ 451,000 ล้านบาท แต่ยังถือว่าต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ และน้อยกว่าไตรมาสที่ 2 ซึ่งยอดขายโตถึง 44%
อย่างไรก็ดีทาง Facebook ไม่ได้มีรายได้ทางเดียว พวกเขายังได้เงินจากแอปพลิเคชัน WhatsApp และ Instagram ด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกห่วงกังวลน้อยลงเลย เพราะรายได้หลักจาก Facebook ไม่โตอย่างที่คิด และความนิยมการใช้งานกลับย้ายไปอยู่ในส่วนของ Messenger ที่เป็นการแชทมากกว่าส่วนของนิวส์ฟีด จึงทำให้มีการคาดการณ์กันว่าก้าวต่อไปของ Facebook น่าจะมีการปรับเปลี่ยนมาเพิ่มช่องทางโฆษณาในส่วนของ Messenger มากขึ้นเพื่อจะได้สร้างรายได้ที่เพิ่มตามเป้าให้ได้