Grab เผยถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารงานที่จะนำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปสู่สังคมแห่งอนาคตที่ไร้รอยต่อในการเดินทาง อีกทั้งยังรวมการบริการรับส่งอาหารแบบออนดีมานด์ การขนส่ง การชำระเงินแบบไร้เงินสด และบริการทางการเงินไว้ในแอปพลิเคชั่นเดียว
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม 60 ที่ผ่านมา ทาง Grab ได้มีการฉลองการมีผู้รับบริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครบ 1 พันล้านคน ในการฉลองนั้นทางเราก็ได้มีการทำแบบสอบถามกับผู้บริโภคเพื่อค้นหาสิ่งที่ผู้บริโภคอยากให้แ Grab เป็นในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งนั่นทำให้เราทราบว่า ผู้รับบริการส่วนใหญ่มีความต้องการให้ Grab พัฒนาไปเป็นแอปพลิเคชั่นที่สามารถจัดการหลายๆเรื่องให้เบ็ดเสร็ตภายในแอปฯเดียว ด้วยเหตุนี้ Grab จึงได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่เกี่ยวกับอนาคตของเมืองอัจฉริยะ และระบบการให้บริการแบบไร้รอยต่อที่มุ่งยกระดับการใช้ชีวิตในทุกวันของผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยี ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เพียงวิสัยทัศน์แต่ทางเราจะลงมือทำจริงๆ โดยการขยายบริการในด้านต่างๆ ขยายทั้งพาร์ทเนอร์ และลูกค้า ซึ่งผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จาก Grab เพิ่มเติมดังนี้
1.การเดินทางขนส่ง
Grab จะผนวกรูปแบบการเดินทางขนส่งที่หลากหลาย แบบ Multi-Modal เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตอบสนองการเดินทางทุกรูปแบบของผู้บริโภค จะช่วยให้ผู้บริโภคเลือกรูปแบบการขนส่งและเดินทางในแบบที่เป็นตนเองสอดคล้องกับความต้องการและงบประมาณได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นขนส่งสาธารณะและการขนส่งเอกชน ทุกอย่างจะถูกรวมในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าผู้บริโภคจะเดินทางไปไหน วิธีการเดินทางและชำระเงินจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบไร้รอบต่อ ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคสามารถใช้แกร็บไบค์ (วินมอเตอร์ไซค์) เพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า หลังจากนั้นเดินทางต่อโดยการใช้ระบบขนส่งมวลชน และเดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยใช้จัสท์แกร็บ โดยวางแผนและชำระค่าเดินทางทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชั่น Grab
2.การชำระเงิน
Grab กำลังดำเนินการพัฒนาบริการในส่วนรโมบายวอลเล็ตของแกร็บเพย์อยู่ ซึ่งในอีกไม่ช้าก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์ แบบนี้ผู้บริโภคจะได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะไม่ต้องใช้เงินสดในการจับจ่ายซื้อของสามารถทำธุรกรรมแบบไร้รอยต่อได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่ผู้ค้าที่ทำธุรกิจแบบอาศัยเงินสดก็สามารถลดต้นทุนและเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านการทำธุรกิจแบบไม่ต้องเงินสดมากขึ้น ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการการขนส่งและการสั่งอาหาร
3.การบริการทางการเงิน
ต่อไป Grab จะมีบริการทางเงิน ผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินของธนาคารก็จะเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่าย ซึ่งปัจจุบัน ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยซึ่งรวมถึง ผู้ขับขี่ ผู้ขนส่งสินค้า ตัวแทน และผู้ค้า เกือบ 6 ล้านรายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถดำเนินธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มของ Grab
4.บริการด้านไลฟ์สไตล์
เป็นการรวมบริการเดินทางแบบออนดีมานด์ การส่งอาหาร และการขนส่งพัสดุในแอปพลิเคชั่นเดียว จะทำให้ Grab สามารถตอบสนองทุกความต้องการในทุกวันของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังหมายถึงโอกาสที่ Grab มอบให้สำหรับทุกคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในตารางการทำงาน รายได้ที่เพิ่มขึ้น หรือรายรับที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ พร้อมได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจแบบดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ผ่านแพลตฟอร์มของ Grab
นี่คือ ก้าวต่อไปของ Grab ที่จะเติบโตขึ้นพร้อมๆกับยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนไปในคราวเดียว ก็ต้องดูกันต่อไปว่า Grab จะสามารถผลักดันตนเองให้เติบโตได้แค่ไหนและจะสามารถสร้างเมืองอัจฉริยะเดินทางแบบไร้รอยต่อได้จริงแค่ไหน