สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นี่ก็คงจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของแบรนเสื้อผ้าดังระดับโลกจากสวีเดนอย่าง H&M หลังจากปล่อยภาพโฆษณาเสื้อรุ่นหนึ่งของทางร้านลงในเว็บไซต์ของร้าน ซึ่งภาพที่เป็นประเด็นนั้นเป็นภาพของนายแบบเด็กชายผิวสีสวมเสื้อมีฮูด เขียนคำว่า “Coolest monkey in the jungle” หรือ “ลิงเท่ที่สุดในป่า” ภาพนี้สร้างความไม่พอใจให้กับคนผิวสีในแอฟริกา เพราะพวกเขารู้สึกว่ามันเป็นการแสดงออกในเรื่องการเหยียดผิว ซึ่งการกระทำลักษณะนี้เป็นการสร้างความเจ็บปวดทางจิตใจให้กับพวกเขาทุกคน ชาวแอฟริกาผิวสีจึงรวมตัวกันไปถล่มร้าน H&M ที่มีสาขาอยู่ในแอฟริกาจนเละเทะ และทำให้ H&M ต้องประกาศปิดร้านทั้งหมดในประเทศแอฟริกาใต้เป็นการชั่วคราว

article-h-m2-0108     ผู้ที่จุดประเด็นนี้ให้เกิดเป็นเหจุการณ์เรื่องราวบานปลายนี้ก็คือ แร็ปเปอร์ชื่อดัง G-Eazy ซึ่งตัวเขาเองกำลังจะมีคอลเล็คชั่นส่วนตัวกับแบรนด์ H&M ด้วย แต่บังเอิญว่าเขาไปเห็นภาพดังกล่าวข้างต้นเสียก่อน นั่นทำให้ G-Eazy ประกาศถอนตัวและยกเลิกการร่วมงานกับแบรนด์ H&M ทันที และเขาก็ได้ทำการประณามแบรนด์ H&M ในประเด็นนี้ผ่าน Instagram ส่วนตัว เมื่อเรื่องราวที่แพร่ไปในโลกออนไลน์ทำให้เกิดแนวร่วมจากคนดังมากมาย  เรื่องราวจึงกลายเป็นประเด็นบานปลายและลุกลามใหญ่โตรจนนำไปสู่การบุกถล่มร้าน H&M ในแอฟริกาจนเละนั่นเอง

G-Eazy Performs At Molson Amphitheatre

G-Eazy

     ทางด้าน แบรนด์ H&M ก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบและขอโทษในทุกช่องทาง ซึ่งพวกเขาก็ยอมรับผิดในเรื่องนี้ และชี้แจงว่าไม่ได้เป็นความตั้งใจที่จะให้เรื่องนี้เป็นเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเหยียดผิว แต่เกิดจากความผิดพลาดและไม่รอบคอบของการทำงาน พวกเขาได้ยกเลิกและลบภาพโฆษณาชิ้นนี้ออกไปแล้ว และยังขอยกเลิกการขายและผลิตเสื้อรุ่นที่เป็นประเด็นนี้ด้วย

0b5     แต่ความน่าสนใจยังไม่หมดแค่นี้ ทางด้านคุณแม่ของน้องนายแบบผิวสีของเสื้อรุ่นที่เป็นประเด็นนี้กลับมีการแสดงความคิดเห็นผ่าน Instagram ส่วนตัวในความรู้สึกที่ต่างออกไป ทางคุณกลับมองว่า ทางแบรนด์ H&M ไม่ได้มีเจตนาจะเหยียดผิวจริงๆ เป็นความผิดพลาดแบบไม่จงใจเสียมากกว่า เพราะตอนที่ถ่ายโฆษณานั้น น้องนายแบบต้องสวมใส่เสื้อผ้าหลายชุด และชุดที่ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมานี้ก็เป็นหนึ่งในเสื้อชุดที่ต้องใส่ถ่ายในวันนั้นด้วย ทีมงานคงไม่ได้คิดว่า เสื้อตัวนี้ที่มีข้อความทำนองนี้เหมาะกับน้องหรือไม่ จึงปล่อยผ่านไป และเมื่อถ่ายไปแล้ว ฝ่ายทีมคัดเลือกรูปก็อาจจะไม่ได้ผิดถึงประเด็นข้อความที่อยู่บนเสื้อไม่ควรใช้กับคนผิวสีด้วยนั่นเอง จึงเป็นเรื่องของความผิดพลาด ไม่ได้เป็นการเจตนา ดังนั้น เธอจึงอยากวอนขอให้ทุกคนหยุดพฤติกรรมความรุนแรงทุกอย่างเสีย เพราะเธอไม่ต้องการให้เรื่องราวมันเลวร้ายและใหย่โตมากไปกว่านี้

Terry-Mango     เราจะเห็นได้ว่า “ยิ่งสูงก็ยิ่งล้มดัง” แบรนด์ยิ่งมีชื่อเสียงแค่ไหนก็ยิ่งเสียหายและเจ็บตัวมากขึ้นหากผิดพลาด ไม่ว่าเก่งแค่ไหน รวยแค่ไหน ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ล้วนมีความผิดพลาดได้ทั้งนั้น นี่จึงเป็นกรณีศึกษาทางธุรกิจที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับคนทำธุรกิจ เพราะผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้เข้าใจอะไรง่ายๆ แม้ไม่เจตนาที่จะผิดพลาด แต่ใช่ว่าผู้บริโภคและประชาชนจะเข้าใจเสียทั้งหมด จึงน่าสนใจว่าแบรนด์ที่สร้างอิมเมจเก่งๆ อย่าง H&M จะมีกลยุทธ์ธุรกิจในการกู้ชื่อเสียงของตนเองในเรื่องนี้อย่างไร และจะมีกลยุทธ์ธุรกิจใดที่จะทำให้ธุรกิจของตนเองกลับมาถูกบอกในแง่บวกได้อีกครั้ง

    ในอีกมุมที่ซ่อนความน่าสนใจอยู่ในเรื่องนี้ก็คือ ความเท่าเทียมกันของความเป็นมนุษย์ ประเด็นเรื่องความแตกต่างทางเผ่าพันธุ์เชื้อชาติ ศาสนาและสีผิวนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แม้ทุกวันนี้หลายคนอาจจะบอกว่าโลกถูกเชื่อมโยงกันมากขึ้น คนเข้าใจประเด็นเหล่านี้กันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความคิดเห็นในการแบ่งแยกมนุษย์เหล่านี้ ยังมีอยู่ในตัวพวกเรา อย่างน้อยๆก็มีการแบ่งคนรวยกับคนจนอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจ จะทำงาน จะใช้ชีวิต โพสต์และทวิตอะไร โปรดระวังประเด็นอ่อนไหวเหล่านี้ไว้ให้ดี เพราะบางทีมันอาจเกิดผลเสียต่อคุณเองได้มากแบบที่คุณคาดไม่ถึงทีเดียว

ที่มา : dailymail