เทคโนโลยีก้าวไปไกลจนถึงขั้นเรามองกันว่า ถ้าโน้ตบุ๊กมีน้ำหนักเกิน 2 กิโลโกรัมไปนิดก็ถือว่าหนักเกินไป Lenovo ก็เข้าใจในจุดนี้ถึงพัฒนาโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ Yoga 530 ที่หนักเพียง 1.6 กก. เท่านั้น และเปิดตัวในไทยเป็นที่เรียบร้อย
Lenovo Yoga 530 ก็สมชื่อและฉายา Yoga เพราะยังคงคอนเซปเดิมของตระกูลนี้ไว้ด้วยการพับหน้าจอตีลังกาได้ถึง 360 องศา จะหมุนจะบิดยังไงก็ได้เต็มที่ คือสามารถกางหน้าจอนิด ๆ เพื่อใช้งานแบบโน้ตบุ๊กก็ได้ หรือต้องการจะกางกลับหลัง เอาไว้ดูหนังให้เต็มตาสักหน่อยแบบไม่ต้องมีแผงคีย์บอร์ดมารบกวนสายตาก็ทำได้ และ ถ้าต้องการจะใช้งานเป็นแท็บเล็ต ก็ยังสามารถทำการกางแบบ 360 องศา ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย
Lenovo Yoga 530 ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว Full HD IPS มุมมองกว้าง ความสว่าง 250 nit ถือว่าใหญ่กว่าแท็บเล็ตทั่วไป ให้ความคมชัดเวลาชมภาพยนต์ได้เต็มตา แถมเครื่องยังใช้ลำโพงของ Harman และระบบเสียง Dolby Audio™ Premium ด้วย ซึ่งเรียกว่ารองรับอรรถรสการชมภาพยนตร์แบบส่วนตัวได้ถึงใจจริงๆ ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home รองรับทัชสกรีน และที่เจ๋งก็คือ รองรับปากกา Lenovo Active Pen 2 ซึ่งตัวปากกานั้นต้องซื้อเพิ่มนะไม่ได้แถมมากับตัวเครื่อง ใครที่จำเป็นต้องใช้ทำงานครีเอทีฟต่างๆก็ถือว่าจำเป็นมาก และการที่ทำระบบมารองรับการใช้ปากกาแบบนี้จึงถือว่าตอบโจทย์คนทำงานจริงๆ ซึ่งคุณสมบัติของปากกาตัวนี้ไม่ธรรมดา เพราะออกแบบมาให้คล้ายกับการเขียนด้วยปากกาจริง ตรวจจับแรงกดได้ 4,096 ระดับ สามารถเขียนโดยวางมือลงบนจอได้เลยไม่ต้องคอยยกข้อมมือเวลาเขียนเหมือนในแท็บเล็ตทั่วไป และยังสามารถใช้งานกับระบบ Windows Ink ของ Windows 10 เพื่อจดบันทึกอย่างรวดเร็วได้ด้วย
Lenovo Yoga 530 นั้นมีสเปกเครื่องให้เลือกหลากหลายตามงบประมาณในกระเป๋าของผู้ใช้งาน รุ่นเริ่มต้นที่เห็นในไทยตอนนี้ก็ใช้ Intel Core i3-7020U (Gen 7) พร้อม Intel HD Graphics 620 มีแรมให้ 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล SSD ความจุ 128 GB ก็ตั้งราคาไว้ 19,900 บาท
ส่วนถ้าใครงบประมาณถึงต้องการรุ่นใหญ่กว่านี้อีกนิด เพื่อประสิทธิภาพที่ล้ำขึ้นก็จะมี รุ่นที่ใช้ชิป Intel Core i5-8250U (Gen 8 ตัวล่าสุด แรงกว่ารุ่น 7 ได้สูงสุด 40%) พร้อมชิปกราฟฟิก NVIDIA GeForce MX130 ตัวเครื่องมีแรม 8 GB พื้นที่เก็บข้อมูล SSD ความจุ 256 GB
ในส่วนของสเปกพื้นฐานภาพรวมที่น่าสนใจของ Lenovo Yoga 530 ก็จะมีเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือ ทำให้สามารถล็อกอินผ่าน Windows Hello โดยไม่ต้องป้อนรหัสผ่านให้คนอื่นเห็น เครื่องรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ AC 2×2 เสาสัญญาณคู่ ทำให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 10 ชั่วโมง มาพร้อม USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต USB-C อีก 1 พอร์ตพอร์ต HDMI ช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟนแบบ 3.5 mm ในช่องเดียว ตัวอ่านการ์ดแบบ 4-in-1