MIT พัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถเดินหลบหลีกผู้คนในที่สาธารณะได้แล้ว

     หนึ่งในความท้าทายในการสร้างหุ่นยนต์ไม่ได้อยู่ที่การสร้างหุ่นที่มีขนาดใหญ่โต หรือ สร้างหุ้นยนต์ที่ความอัจฉริยะหลายๆด้านเสมอไป แต่ว่าเป็นเรื่องของการสร้างหุ่นยนต์ให้ควบคุมตนเองขณะอยู่ในที่สาธารณะร่วมกับมนุษย์ เพื่อให้หุ้นยนต์ไม่เป็นอุปสรรคกับวิถีชีวิตของมนุษย์นั่นเอง ซึ่งล่าสุด MIT ได้มีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมการเดินของตนเอง โดยไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนที่สัญจรไปมาได้แล้ว

     สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือว่า MIT ได้มีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้เองอย่างคล่องแคล่วโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นในพื้นที่สาธารณะภายใต้แนวคิด “หุ่นยนต์เคลื่อนที่แบบใส่ใจต่อสังคม” โดยหุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ได้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แบบที่เราเคยเห็นโดยทั่วๆไป แต่ก็สามารถเดินได้เพราะมีล้ออยู่ด้านล่างเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งก็จะออกแนวหุ่นยนต์ส่งของที่เราเห็นกันมาบ้างแล้วนั่นเอง จุดที่แตกต่างของของหุ่นยนต์ตัวนี้ก็คือจะมี LiDAR ซึ่งเป็นระบบเซนเซอร์วัดแสงอยู่ด้านบน โดยจะทำงานคล้ายกับเรดาร์แต่ว่ามีความละเอียดที่สูงกว่าเพราะใช้วิธีการยิ่งแสงเลเซอร์ออกไปและวัดการสะท้อนกลับมาว่าวัตถุนั้นอยู่ไกลแค่ไหน เพื่อนำข้อมูลไปสร้างโมเดล 3 มิติของสภาพแวดล้อมรอบตัวของหุ่นยนต์นั่นเอง พร้อมกันนั้นยังใช้กล้องเว็บแคมสำหรับการป้อนข้อมูลด้วยภาพ และ วัดความลึกของวัตถุเพื่อเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถจัดการกับการเคลื่อนไหวที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ของมนุษย์นั่นเอง

     ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถเคลื่อนที่ด้วยตัวเองนานถึง 20 นาที และสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างคล่องตัว โดยไม่มีการชนใดๆทั้งสิ่งของและคนเกิดขึ้นขึ้นเลย ผลการทดสอบนี้ถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในอนาคต ที่เราอาจจะนำหุ่นยนต์เหล่านี้มาใช้ในการนำทางในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น อย่างเช่นโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือว่าย่านชุมชนเป็นต้น ซึ่งสิ่งที่ทาง MIT ต้องการก็คือ การทำให้หุ่นยนต์สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้และทำให้ผู้คนสบายใจกับการปรากฎตัวของหุ่นยนต์มากยิ่งขึ้น การพัฒนาครั้งนี้จึงถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของการพัฒนาหุ่นยนต์ให้อยู่ร่วมกับมนุษย์ที่หลายฝ่ายกำลังจับตามองนั่นเอง

 

อ้างอิงจาก: engadget.com