เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นครบรอบ 10 ปีของ Samsung Galaxy ที่หลายคนลุ้นอยู่นานว่าจะมีอะไรออกมาเรียกความว้าวกันบ้าง ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ก็ไม่ทำให้สาวก Samsung Galaxy ผิดหวังอย่างที่ทราบกัน
Samsung Galaxy S10 มาด้วยหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ส่วนตัวพี่ใหญ่ Samsung Galaxy S10 Plus มาด้วยขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว ทั้งคู่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า S9 และ S9 Plus แต่มีขนาดของตัวเครื่องที่เรียกว่าแทบจะไม่แตกต่างกันมาก ทั้งสองรุ่นมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ Quad HD+ หรือ 2,560×1,440 พิกเซล Samsung เรียกหน้าจอนี้ว่า Dynamic AMOLED รองรับ HDR10+
สิ่งที่ดูพิเศษมากสำหรับ Galaxy S10 ก็คงจะเป็นเรื่องของหน้าจอที่ทาง Samsung เลือกใช้หน้าจอแบบเจาะรูทำให้ Samsung สามารถหลีกเลี่ยงรอยบากโดยที่ยังมีกล้องหน้าได้ เพราะประเด็นรอยบากของหน้าจอด้านหน้านั้นเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันเรื่อยมาในวงการมือถือว่ามันเหมาะสมและควรมีไหม จุดน่าสนใจอีกจุดก็คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเทคโนโลยี Ultrasonic ซึ่ง Samsung ยืนยันว่าเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือที่ใส่ใน Galaxy S10 นั้น จะล้ำสมัยที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนในขณะนี้ มีความแม่นยำ น่าเชื่อถือที่สุด แต่อย่างไรก็ดีหลังจากที่ข่าวสเปกระบบสแกนผ่านหน้าจอนี้หลุดออกมาก่อนเปิดตัว ก็ทำให้ตาดีทั้งหลายไปค้นข้อมูลว่า ระบบสแกนลายนิ้วมือ Ultrasonic จะมีปัญหากับฟิล์มหน้าจอที่หนาเกินไป ฉะนั้น จึงไม่ได้เป็นข้อดีที่แท้จริง เพราะถ้าติดฟิล์มหนาหรือติดฟิล์มกระจกระบบนี้อาจจะใช้ไม่ได้เลยก็ได้
มาดูความเทพเรื่องของกล้องกันบ้างGalaxy S10 และ S10 Plus ทั้งสองรุ่นมีกล้องหลังสามตัวเหมือนกัน ประกอบไปด้วย เลนส์ wide, telephoto และ super wide สำหรับเลนส์ telephoto และเลนส์ wide ปกตินั้นเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S9 Plus เลนส์ super wide มุมกว้างถึง 123 องศา รูรับแสง f/2.2 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีโหมด Bright Night ที่ช่วยทำให้ภาพที่ถ่ายตอนกลางคืนออกมาได้สวยขึ้น และยังมี AI ช่วยในการถ่ายภาพอีกด้วย ในส่วนของการบันทึกวิดีโอ Galaxy S10 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K UHD ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รองรับ HDR10+ และยังมีโหมดใหม่อย่าง super steady video ทำให้การถ่ายวิดีโอออกมาสมูทขึ้น ว่ากันว่าถ่ายได้สมูทกว่า iPhone อีกด้วยนะ
กล้องหน้าของ Galaxy S10 จะเป็นกล้องแบบตัวเดียว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.9 dual-pixel autofocus ส่วน Galaxy S10 Plus จะเป็นกล้องหน้าแบบคู่ เพิ่มกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเข้าเพื่อทำให้รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่แบบชัดลึก-ชัดตื้นเข้ามาด้วย
ด้านสเปกประมวลผลภายในGalaxy S10 จะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 855 สำหรับสหรัฐอเมริกา และ Exynos สำหรับรุ่นวางจำหน่ายทั่วโลก แรมมีให้เลือกระหว่าง 8GB และ 12GB ความจุภายในเครื่องตั้งแต่ 128GB ไปจนสูงสุดที่ 1TB รองรับ MicroSD แบตเตอรี่ความจุ 3,700 mAh สำหรับ Galaxy S10 และ 4,100 mAh สำหรับ Galaxy S10 Plus ทั้งสองรุ่นรองรับ Fast Charge ทั้งแบบมีสายและไม่มีสาย รวมถึงสามารชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นได้ด้วย ตัวเครื่องกันน้ำมาตรฐาน IP68 มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5 แต่สองรุ่นนี้ไม่รองรับ 5G (น่าจะมีรุ่นพิเศษแยก) ด้านราคา Galaxy S10 เริ่มต้น $899 ส่วน Galaxy S10 Plus เริ่มต้น $999
นอกจาก Samsung Galaxy S10 และ S10 Plus แล้วทาง Samsung ยังเปิดตัวเรือธงรุ่นราคาถูกลงมาอย่าง Galaxy S10E ตามออกมาด้วยซึ่งรุ่นนี้สเปกก็ถือว่าเทพแต่ราคาถูกกว่ารุ่นพี่อีก 2 รุ่น ก็ถือว่าการมาของเทคโนโลยี S10 ในครั้งนี้อาจไม่หวือหวาแต่ก็เรียกความว้าวได้ไม่น้อย
