การทำ Content Marketing นับเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญมากในปัจจุบัน เพราะผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องของข้อมูลมากๆ และการจะให้ข้อมูลธุรกิจของเรากับลูกค้าแบบเข้าใจได้ง่ายๆการใช้คอนเทนต์แบบ Storytelling เป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้เข้าใจธุรกิจ เข้าใจสินค้าและบริการของเรามากขึ้น ที่สำคัญ Storytelling ยังเป็นวิธีการทำการตลาดที่สามารถใช้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นเทคนิคหนึ่งที่จะกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าคุณจะสามารถปรับใช้คอนเทนต์แบบ Storytelling กับธุรกิจของคุณในแง่ไหนได้บ้าง

1. ใช้เรื่องเล่าสร้างความแปลกใหม่ในตลาดเดิม เพื่อเพิ่มเติมยอดขาย

วิธี Basic สำหรับการทำธุรกิจทุกชนิดในโลกนี้ หากต้องการให้ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ต้องการให้คนซื้อเยอะขึ้นและต้องการได้กำไรมากขึ้น ผู้ประกอบการก็มักจะยึดเอาวิธีหาตลาดใหม่ที่จะช่วยกระจายสินค้าหรือบริการของคุณให้กว้างกว่าเดิม กล่าวง่ายๆว่าอยากขายได้เงินเยอะขึ้นก็ออกสินค้าหรือบริการตัวใหม่ออกมา “สนใจในการเพิ่มยอดขายให้กับตลาดเดิม” ดูก่อน อย่าเพิ่งมองว่าตลาดเดิมนั้นถึงทางตันแล้ว ลองเปลี่ยน story ของสินค้าหรือบริการนั้นๆดูก่อน ใช้เทคนิค Storytelling เข้าช่วยในการทำคอนเทนต์ให้เกิดเรื่องเล่าใหม่ๆ แค่นี้ของเก่าก็ดูน่าสนใจได้ในสายตาของลูกค้า

สิ่งหนึ่งที่ “ตลาดเดิม” มีเหนือกว่า “ตลาดใหม่” ก็คือรากฐานที่มั่นคงกว่า คุณมีข้อมูลและกระบวนการทำงานทุกอย่างที่พร้อมอยู่แล้วในมือ คุณจะรู้อยู่แล้วกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นใคร และคุณจะต้องทำอย่างไรถึงจะขายได้ พฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างไรบ้าง สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่คุณพอจะรู้และจับทางได้ดีอยู่ในตลาดเก่า ถ้าคุณกลับมาดูข้อมูลเหล่านี้อีกครั้งและใช้การ Storytelling เล่าเรื่องของคุณใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้ทำให้สดใหม่กว่าเดิม หรือทำให้เทรนด์การบริโภคของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คุณจะสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเดิมในมิติที่ลึกขึ้น แค่ปรับ Story ใหม่ให้น่าสนใจขึ้น แค่นี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะต้องทุ่มเงินลงทุนกับตลาดใหม่ได้มาก

2. ปรับคอนเทนต์เพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่

ในการทำธุรกิจถ้าหากว่าตลาดเดิมของคุณถึงจุดอิ่มตัวแล้วจริงๆ การดันทุรังลงทุนในตลาดเดิมก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องก็ได้ การขยายธุรกิจมาสู่ตลาดใหม่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่การจะกระโดดลงไปสู่ตลาดใหม่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน เพราะบางทีเรายังจับทางไม่ถูกก็จะต้องเปลืองต้นทุนไปพอสมควร ทางที่ดีเริ่มต้นจากการปรับคอนเทนต์เพื่อทำการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปก่อน โดยใช้การ Storytelling เข้าช่วย นั่นคือลองปรับเนื้อหาให้เป็นเรื่องเล่าง่ายๆมีความน่าสนใจอธิบายสินค้าและบริการของคุณจากที่ยากก็ให้เข้าใจง่ายหรือมีชีวิตชีวาขึ้น ไม่จำเป็นต้องปรับสินค้าหรือบริการแค่ปรับเปลี่ยน story สินค้าและบริการแค่นี้ก็มีโอกาสลุยในตลาดใหม่ได้แล้ว ซึ่งการ Storytelling นั้นจะเป็นการช่วยแนะนำตัวคุณให้เข้าสู่ตลาดใหม่ได้อย่างน่าสนใจนั่นเอง

3. ให้ประโยชน์กับลูกค้าด้วยการ Storytelling

ผู้บริโภคยุคใหม่นั้นไม่ได้ต้องการดูแค่ตัวสินค้าที่เจ๋งของคุณเท่านั้น ผู้บริโภคยุคนี้เขาดูความจริงใจของคุณด้วย ดังนั้น การทำธุรกิจในยุคนี้คุณจะหวังเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวไม่ได้อีกแล้ว เมื่อคุณกล้าถามตัวเองว่า “คุณจะได้อะไร” คุณก็ต้องอย่าลืมที่จะกล้าถามด้วยว่า “ลูกค้าจะได้อะไรจากคุณ” ด้วย การทำ Content Marketing ใครบอกว่าจะต้องเป็นบทความหรือเรื่องราวที่ส่งเสริมการขาย ชวนให้ซื้ออย่างเดียวเท่านั้น คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ตอบสนองอารมณ์ในแง่มุมต่างๆให้กับผู้บริโภคได้ด้วยคอนเทนต์แบบ Storytelling เพราะคอนเทนต์บทความเล่าเรื่องต่างๆ นั้นมีความยืดหยุ่น สามารถจะทำเป็นเรื่องดราม่า ชวนให้คิด สะท้อนสังคม ตลก เศร้า ระทึกได้ทุกรูปแบบ ซึ่งดีกว่าบทความทั่วไปที่ดูแข็งๆ ที่ลงท้ายด้วยการชวนให้ลูกค้าเข้ามาซื้อ

คอนเทนต์แบบ Storytelling ไม่ได้แค่ตอบสนองอารมณ์ของการเสพคอนเทนต์ของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังสามารถให้ประโยชน์ในแง่ความรู้ สาระความบันเทิงได้หลากหลายอีกด้วย จึงเป็นวิธีเปิดทางการสื่อสารระหว่างคุณกับลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว เมื่อผู้บริโภครู้สึกว่าเขาได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจระดับพรีเมียมจากคุณ นั่นทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองเข้ามาเป็นลูกค้า หรือที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วก็จะภักดีต่อแบรนด์สินค้าของคุณตลอดไปนั่นเอง

นี่คือประโยชน์ของกลยุทธ์การตลาดที่เราเรียกว่าการ Storytelling ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการทำ Content Marketing อาจจะไม่ใช่เทคนิคที่ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่มีพลังมากพอที่จะทำให้ผู้บริโภคสนใจและรู้จักคุณได้ ซึ่งไม่แน่นะเมื่อเขาได้อ่านเรื่องเล่าสนุกๆ หรือได้สัมผัสกับ story ของธุรกิจคุณ เข้าอาจจะกลายมาเป็นลูกค้าใหม่ของคุณก็ได้ในไม่ช้านี้