Tokyo Idols คือภาพยนตร์สารคดีที่จะนำทุกท่านไปพบวัฒนธรรมคะวะอี้ของญี่ปุ่นที่นำเสนอโดยบุคคลที่เราเรียกว่า Idol นี่คือโลกอีกโลกหนึ่งที่เราอาจไม่เข้าใจพวกเขาหากเราไม่เปิดใจที่จะรับรู้
J-pop ของกลับมาทวงบัลลังก์จ้าวแห่งวัฒนธรรม
เราต้องยอมรับว่า BNK48 ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงและวงการบันเทิงในบ้านเราไม่น้อยในตอนนี้ เพราะBNK48 ได้ปลุกกระแส J-pop ให้กลายมาเป็นเรื่อง “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ในโลกโซเชียลอีกครั้งได้ในบ้านเรา หลังจากที่ในประเทศไทยอิทธิพลแห่งคลื่นลมเกาหลีที่พัดอย่างรุนแรงตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เราตื่นเต้นกับสิ่งที่เป็นเกาหลีจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แม้จะซาๆลงไปบ้างแล้วก็ตามแต่ถึงอย่างไรเราก็ถูก K-pop กลืนกินไปกว่าครึ่งประเทศแล้ว จริงอยู่ว่าอุตสาหกรรมบันเทิงและดัชนีชี้วัดศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมของเกาหลีที่ร้อนแรงแซงหน้าญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เรียกว่า “แรง” จริงๆแต่หากจะวัดกันที่ “คุณค่า” ซึ่งมาพร้อมกับการบริโภควัฒนธรรมแล้ว ก็คงไม่สามารถบอกได้ว่ามีวัฒนธรรมไหนที่แซงหน้าญี่ปุ่นได้ในเรื่องนี้ เพราะในอีกฝากฝั่งหนึ่งสำหรับชาวตะวันตกแล้วต่างจากเราโดยสิ้นเชิง ซูชิยังคงเป็นอาหารพิเศษที่พวกเขาหลงใหล และแนวคิดในแบบเซนยังคงเป็นสัจธรรมลี้ลับที่น่าค้นหา วัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นยังคงทรงพลังอยู่ในดินแดนของพวกเขาอยู่เช่นเดิม J-Rock ก็ยังคงทำรายได้ และJ-pop ก็สามารถเปิดตลาดในฝั่งตะวันตกได้ด้วย เสน่ห์ของวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นยังคงมีมนต์อยู่เช่นเดิม
สิ่งที่ทำให้ BNK48 สร้างกระแส “เกิร์ลกรุ๊ป” กลับมาอีกครั้งได้ ก็เป็นเพราะญี่ปุ่นนำเสนอพวกเธอในมุมที่แตกต่างจากเกาหลี ญี่ปุ่นรู้จักใช้สิ่งที่เรียกว่า “ซอฟต์ พาวเวอร์” หรือการขายวัฒนธรรมเป็นสินค้าส่งออกได้อย่างมีรูปแบบและแบบแผนที่ชัดเจน จากโซนี่วอล์กแมน เฮลโลคิตตี้ โดราเอม่อน มวยปล้ำ โตโยต้า นิสสัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซูชิ การพับกระดาษแบบโอะริงะมิ X japan ไปจนถึง J-pop และวัฒนธรรมคะวะอี้ ญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ครอบงำภูมิภาคนี้ไว้ตลอดมาทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การออกแบบ ไปจนถึงวิธีคิด แต่สิ่งที่ถ่ายทอดไปยังพื้นที่วัฒนธรรมของโลกก็คือ การทำให้คุณค่าแบบญี่ปุ่นกลายเป็นสิ่งพิเศษ ดังเช่นภาพลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นที่กลายเป็นอาหารเหนือระดับ หรือการที่หลายๆ คนปฏิเสธที่จะถอดคำว่า “มังงะ” ด้วยคำว่า “การ์ตูน” และต้องเรียกแอนิเมชั่นที่สร้างจากญี่ปุ่นว่า “อะนิเมะ” เท่านั้น เมื่อเทคโนโลยีได้เปิดเส้นทางเชื่อมโยงคนที่มีความสนใจร่วมกัน และในขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่สำหรับการปลดปล่อยความหลงใหลและการเต็มเติมความปรารถนาที่เป็นเหมือนทางเลือกให้กับชีวิต สิ่งที่เคยเป็นความเพ้อฝันไร้สาระของบางคน กลับกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับอีกบางคน ในวันนี้กลุ่มคนที่ถูกเรียกขานว่า “โอะตะคุ” ไม่ได้เป็นเพียงคนที่มีผมเผ้ายุ่งเหยิงและหมกตัวอยู่ในห้องนอนกับสิ่งที่พวกเขาหลงใหลอย่างเกม อะนิเมะ หรือศิลปินคนโปรดเท่านั้น แต่พวกเขาได้ร่วมกันสร้างให้เกิดวัฒนธรรมย่อยที่แพร่กระจายแบบหยุดไม่อยู่ไปทั่วโลกอีกด้วย
คะวะอี้มนต์สะกดที่มีอำนาจ
วัฒนธรรมคะวะอี้เปรียบเสมือนพื้นที่หลบภัยของคนที่ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้คือความสดใสแบบเด็กๆที่ไม่ว่าคุณหรือใครก็ตามที่ได้ชม ได้สัมผัสก็ย่อมจะหลงรักแบบหัวปักหัวปำได้ง่ายๆ และสิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเรา “ยอม” ที่จะเสียเงินมากมายมหาศาลเพื่อ “ซื้อ” อย่างไม่มีเหตุจำเป็น บางคนหมดเงินไปมากมายกับสินค้าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และ บรรดา Idol ใสๆที่ญี่ปุ่นปั้นขึ้นมา Idol เหล่านี้เป็นมากกว่าดารานักร้องนักแสดง พวกเขาและเธอสะกดผู้คนได้อยู่หมัด ชี้ซ้ายไปซ้าย ชี้ขวาไปขวา จนทำให้ผู้ใหญ่หรือคนที่อยู่ใน Generation ก่อนๆ ถึงกับมองว่านี่มัน “ลัทธิล้างสมอง” นี่หว่า แต่ถ้ามองกันให้ลึกซึ้งแล้ว มันเป็นเรื่องของ “การตอบสนองทางจิตใจ” ที่ลึกซึ้งมากกว่า วัฒนธรรมที่นำเสนอผ่าน Idol แต่ละคน มันตีความและเข้าถึงได้ง่าย เมื่อเข้าถึงง่าย จึงทำให้แทรกซึมเข้าไปในจิตใจผู้คนได้ลึกซึ้งมากขึ้นด้วย เกาหลีอาจจะกำลังสนุกกับการส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงพัฒนาเทคโนโลยีดิจิตอล สร้างนวัตกรรมทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ หรือส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ญี่ปุ่นคือสังคมที่เปี่ยมศักยภาพในการส่งออกสุนทรียะความสนใจ ความหลงใหล ไปจนถึงความบ้าคลั่ง ความงาม ความเท่ กลมกลืน เรียบง่าย ประณีต ละเอียดอ่อน สอดคล้อง ขัดแย้ง น่าค้นหาไปจนถึงความน่ารัก ทุกสิ่งที่ตอบสนองจิตวิญญาณอันซับซ้อนในความเป็นมนุษย์
Tokyo Idols เรื่องราวที่จะเปิดโลกทัศน์วัฒนธรรมคะวะอี้แก่ผู้คน
Tokyo Idols ภาพยนตร์สารคดีที่จะทำให้คุณเข้าใจวัฒนธรรมคะวะอี้และโลกของ Idol ใสๆของญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง โดยตัวแทนที่จะมาบอกเล่าเธอคือ Rio Hiiragi เด็กสาววัย 19 ปีที่กำลังตามฝันของตนเอง เพื่อก้าวไปสู่การเป็น Idol ในใจของผู้คน เธอเริ่มต้นจากการเป็น Idol ใต้ดิน ดังในกลุ่มเล็กๆและผลักดันตัวเองให้เข้าไปสู่การเป็น Idol บนดินที่ผู้คนยอมรับอย่างถูกต้อง แต่ปัญหาก็คือว่า บนเส้นทางการเป็น Idol ของเธอต้องเจอกับอุปสรรคในเรื่องของ “เวลา” ทุกนาทีที่ผ่านไปนั้นหมายถึง เธอจะอายุมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าเส้นทางกลายเป็น Idol ภายใต้ความเป็นคะวะอี้ของเธอจะเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ…
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวได้อย่างไม่น่าเบื่อ มีการดำเนินเรื่องอย่างน่าติดตาม ผูกปมเรื่องได้น่าสนใจ ไม่ได้ทำให้เรารู้จักแค่โลกของ Idol ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้เรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริงที่ว่า ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกัน เมื่อสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นก็ย่อมส่งผลกระทบกับสิ่งอื่นๆต่อไปเป็นวงจรที่ยากจะหลีกเลี่ยง ดูเถอะแล้วคุณจะรักหนังเรื่องนี้ สามารถหาดูได้แล้วที่ Netflix