Walmart แบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ เริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้สแกนชั้นวางสินค้าเพื่อเช็คปริมาณรายการสินค้าแล้ว นี่คือสัญญาณอย่างหนึ่งของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จะเปลี่ยนโลกในไม่ช้า
Walmart ร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาฯ เริ่มมีการทดลองใช้หุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนมนุษย์บ้างแล้ว ซึ่งเดิมทีหน้าที่การตรวจสอบสินค้าบนชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นเป็นของคน อันจะคอยตรวจสอบดูว่าสินค้าใดที่หมดไปจากชั้นวางบ้าง อันไหนหมดก็นำสินค้าใหม่มาวางให้เต็ม สินค้าไหนขายไม่ค่อยได้ก็ต้องมีการตรวจสอบวันหมดอายุและนำออกจากชั้นวางไป ทั้งหมดนี้เดิมทีเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่จะตรวจสอบทั้งหมด แต่อย่างที่เราทราบกันปัจจุบันเทคโนโลยีหุ่นยนต์เริ่มเป็นที่สนใจและมีหลายบริษัทใหญ่เริ่มนำมาใช้ในการประกอบธุรกิจ ซึ่งหุ่นยนต์ได้ค่อยๆถูกแทรกซึมลงไปในส่วนงานต่างๆที่หลากหลาย จนมนุษย์อย่างเราๆก็เริ่มไม่รู้ตัวว่าบางทีเราก้กำลังทำงานร่วมกับหุ่นยนต์อยู่ Walmart เอง ในฐานะซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของสหรัฐฯก็มองว่า นี่คือสิ่งจำเป็นอีกอย่างที่จะเข้ามาช่วยทำให้ธุรกิจเกิดความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดต้นทุนการจ้างแรงงานและลดความผิดพลาดในการตรวจเช็คสินค้าได้ด้วย
หุ่นยนต์ที่ทาง Walmart นำมาใช้ในการตรวจเช็คสินค้าบนชั้นวางของนั้น ดูไปแล้วก็คล้ายๆกับหุ่นยนต์ในหนังสตาร์วอร์ แต่จะมีตัวที่ทำหน้าที่สแกนชั้นวางสอนค้ายืดสูงขึ้นมา ทำให้โดยรวมแล้วเจ้าหุ้นยนต์ตัวนี้มีความสูงราวๆ 2 เมตร Walmart เริ่มนำหุ่นยนต์ลักษณะนี้มาใช้แล้วกว่า 50 สาขาในอเมริกา
หลายคนอาจจะคิดว่าแบบนี้ มนุษย์ก็เตรียมตกงานกันได้เลยนะสิ หากในอนาคตข้างหน้าห้างร้านต่างๆจะเริ่มใช้หุ่นยนต์ลักษณะนี้ ไม่ต้องกังวลไป เทคโนโลยีอย่างไรก็เกิดจากคน ทุกอย่างมีข้อจำกัดของมันเสมอ หุ่นยนต์ที่ทาง Walmart นำมาใช้นำร่องนี้ ถึงอย่างไรมันก็ทำได้แค่เพียงสแกนเก็บข้อมูลเท่านั้น สินค้าขาดไปจากชั้นวาง สินค้าหมดอายุ สินค้าติดราคาหรือป้ายผิด มันสแกนบอกได้ แต่สุดท้ายแล้วการเติมสินค้า การเอาสินค้าเก่าออกแล้วใส่สินค้าใหม่เข้าไป หรือการแกะป้ายเก่าและปิดป้ายใหม่เข้าไปขั้นตอนเหล่านี้ก็ยังต้องอาศัยคนทำอยู่ดี ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าหุ่นยนต์จะมาแย่งงานมนุษย์ แต่ควรจะมองว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วยงานพวกเราให้ง่ายมากยิ่งขึ้นจะดีกว่า นี่คือ อีกหนึ่งความก้าวหน้าของโลกที่เกิดขึ้นในตอนนี้
อ้างอิง : investorplace