Watson ขอสู้เต็มที่ในศึกธุรกิจค้าปลีกสุขภาพและความงาม ขอทุ่มเงิน 600 ล้านอัพเกรดสโตร์คอนเซ็ปต์ ให้สอดรับค้าปลีกยุคดิจิทัล พร้อมขอเพิ่มสาขาอีก 50 สาขา

     นายร็อด เร้าท์ลีย์ กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ระบุว่า ในขณะนี้ธุรกิจค้าปลีกสุขภาพและความงามในประเทศไทยมีตลาดที่ขยายตัวอยู่ตลอดเวลา และการเติบโตในธุรกิจนี้ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย เรียกว่าตลาดธุรกิจค้าปลีกสุขภาพและความงามในไทยเรามีศักยภาพสูงมาก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป มีความเข้าใจและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่ซับซ้อนขึ้นกว่าในอดีต อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ทำให้คนชั้นกลางมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นทำให้กำลังซื้อของผู้คนก็เพิ่มขึ้นด้วย นั่นจึงทำให้ตลาดค้าปลีกสุขภาพและความงามเกิดการขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์เรื่องการช้อปออนไลน์เข้ามาเสริมก็ยิ่งเพิ่มการขยายตัว ขณะเดียวกันตลาดช้อปออนไลน์นี่เองก็ทำให้เกิดคู่แข่งรายใหม่ๆในธุรกิจค้าปลีกสุขภาพและความงามมากยิ่งขึ้น

     ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับตัวต่อสภาพดังกล่าว ทาง Watson จึงมีการวางแผนธุรกิจใหม่เตรียมทุ่มงบ 600 ล้านบาท ลงทุนในการปรับคอนเซ็ปต์ร้านใหม่ นำสื่อดิจิทัลเข้ามาใช้ในร้านมากขึ้น เช่น จออินเตอร์แอ็กทีฟ สามารถจำลองการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้ การเพิ่มพื้นที่ทดลองผลิตภัณฑ์-แต่งหน้าในร้าน ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยจะนำร่องสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนทยอยปรับให้ครบ 75 สาขาในปีนี้ พร้อมกับการขยายสาขาใหม่อีก 50 สาขา ซึ่งจะทำให้มีจำนวนสาขาภายในสิ้นปีทั้งหมด 515 สาขา

     นอกจากนั้นแล้วทาง Watson จะมีการเปิดตัวการใช้บัตรสมาชิก ซึ่งเริ่มมีมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งบัตรสมาชิกนี้จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าประจำ ยิ่งซื้อมากยิ่งได้รับสิทธิพิเศษมาก

    เมื่อมองสถานการณ์ในปัจจุบันของ Watson ก็เรียกว่ามีการปรับตัวไม่เลวทีเดียว ตอนนี้ Watson มีลูกค้าประจำทั้งหมด 7.5 หมื่นราย จากจำนวนบัตรสมาชิกทั้งหมด 4 ล้านราย ซึ่งแผนธุรกิจใหม่และกลยุทธ์ใหม่ๆนี้ จะช่วยดันยอดขายต่อบิลในภาพรวมให้สูงขึ้นได้และนั่นน่าจะทำให้ Watson มีการเติบโตต่อเนื่องในปีนี้