การเลือกลงทุนคอนโดมือสองนั้น นอกจากจะดูเกณฑ์ทั่วไป เช่น ราคา ทำเล ทิศ วิวแล้ว การประเมินสภาพคอนโดมือสองก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากไม่ประเมินให้ดี อาจมีงบที่ต้องตกแต่งบานปลายเพิ่มขึ้นมาก็ได้
วิธีการประเมินสภาพคอนโดมือสองต้องดูอะไรบ้าง ?
1.พื้น เมื่อเดินเข้าห้องแล้ว ตรวจสอบดูว่าพื้นกระเบื้องหรือพื้นกระเบื้องยางชำรุดหรือไม่ บางที่ไม่เสมอกัน มีรอยแตก ยวบพื้นโก่งงอ ให้คุณลิสต์ไว้ว่ามีจุดไหนบกพร่องบ้าง แล้วค่อยมาประเมินค่าซ่อมแซมอีกที
2.ผนัง – เพดาน ในส่วนของผนังต้องทาสีใหม่หรือไม่ มีรอยแตกร้าว สีลอก เชื้อราที่ผนังหรือไม่ ถ้าเป็นผนังวอลเปเปอร์ต้องไม่มีการหลุดลอก ฝาเพดานควรเรียบเสมอกัน ไม่มีร่องรอยน้ำรั่วซึม รอยต่อของฝาเรียบร้อย สีควรเสมอกันด้วย
3.ไฟฟ้า เช็คไฟฟ้าทุกดวงในห้อง รวมถึงห้องน้ำว่าติดทุกดวง เช็คระบบเปิดปิดดูว่ามีไฟฟ้ารั่วหรือไม่ สวิตช์ทุกตัวมีไฟฟ้าเข้าสามารถใช้งานได้ ลิสต์ไว้เลยว่าสวิตช์และปลั๊กตัวใดใช้ไม่ได้บ้าง
4.ประปา ตรวจสอบโดยการเปิดปิดก๊อกทุกตัว ว่ามีน้ำหยดรั่วซึมหรือไม่ ท่อน้ำทิ้ง ท่อระบายน้ำต้องระบายน้ำได้ดี ไม่อุดตัน พื้นที่เปียกในห้องน้ำต้องระบายน้ำได้ดี ไม่ท่วมขัง สังเกตโดยการเปิดน้ำทิ้งไว้ เช็คดูการระบายของน้ำ
5.ประตู – หน้าต่าง ตรวจสอบกลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ลูกบิดบานพับ ว่าลื่นใช้งานเปิดปิดได้ดี ในกรณีประตูหน้าต่างบานเลื่อน ให้คุณเช็คการเลื่อนเปิดปิดไม่ติดขัด
6.เฟอร์นิเจอร์ ตรวจสอบดูว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มีอะไรบ้าง เตียงตู้เสื้อผ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า แอร์ตู้เย็น ทีวี มีสิ่งใดชำรุดเสียหายบ้าง เพราะผู้ขายส่วนมากจะบวกราคาเฟอร์นิเจอร์ แต่ถ้าเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเสียหาย เราจะได้ต่อรองได้ เช่นให้แอร์มา แต่แอร์เสียใช้งานไม่ได้ บางทีต้องซื้อใหม่ก็ให้ต่อรองราคากับผู้ขายเรื่องนี้ได้เลย และนี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการลงทุนกับคอนโดมือสองนั่น คือสามารถต่อรองราคากันได้