ใครที่กำลังสนใจทำธุรกิจออนไลน์ หรือตั้งใจขายของออนไลน์ เชื่อว่ากำลังควาญหาสินค้าที่ “ใช่” สินค้าที่ขายดีขายง่ายกันอยู่แน่ๆเลย แต่อะไรบ้างล่ะที่จะขายง่ายและขายดีแบบนั้น เครื่องสำอาง คอลลาเจน อาหารเสริม เสื้อผ้าหรือกระเป๋าดี ในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรที่จะการันตีได้ขนาดนั้นหรอก เพราะปัจจัยที่จะช่วยให้คุณทำธุรกิจออนไลน์แล้วไปโลด สินค้าขายดีตามที่คิดไว้นั้นมีอยู่มากมาย แต่แน่นอนสิ่งแรกก็อยู่ที่ตัวสินค้าเอง ถ้าเลือกสินค้าได้ดี ตั้งราคาได้เหมาะสม โอกาสขายได้ก็มากขึ้นแล้ว การเลือกสินค้ามาขายนั้นมีสูตรอยู่เหมือนกัน ซึ่งเราขอแนะนำดังนี้
เริ่มต้นจากวิเคราะห์สินค้า
หลักการหาสินค้ามาขายทางออนไลน์นั้น ควรเริ่มต้นจากการวิเคราะห์สินค้า ยิ่งวิเคราะห์สินค้าได้ดีเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้คุณทำตลาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะช่วยเรื่องการที่คู่แข่งจะมาตัดราคาไปได้เป็นอย่างดี และแน่นอนที่สุดในขายของออนไลน์ ราคาของสินค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญ ราคาสินค้าหลักร้อยกลางๆถึงหลักพันต้นๆ ได้ถูกพิสูจน์มามากมายแล้วว่าได้รับความนิยมมาก ราคาประมาณนี้คนไทยเราจะมองว่าเป็นราคาที่รับได้ไม่ถูกไม่แพงเกินไป ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายที่สุด อย่างสินค้าในกลุ่มความงามและสุขภาพ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และคอลลาเจน เหล่านี้จะมีราคาต้นทุนไม่สูงมาก ซึ่งพอที่จะนำมาขายในราคากลางๆแบบที่ทุกคนเอื้อมถึงได้ ฉะนั้น การทำธุรกิจออนไลน์ คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์สินค้าที่จะนำมาขาย ให้ดูก่อนว่าสินค้านั้นๆต้นทุนมาสูงมากไหม ถ้าต้นทุนมาพันต้นๆอยู่แล้ว คุณจะมาขายหลักร้อยก็ไม่ได้ ถึงจะขายหลักพันต้นๆกำไรก็ได้ไม่มาก แบบนี้ถือว่าไม่คุ้ม
การตั้งราคา
เรื่องของราคาสินค้าที่จะนำมาขายนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการขายของออนไลน์ การตั้งราคาระดับที่ลูกค้าพอซื้อไหวนั้นช่วยให้คุณเริ่มต้นกับการขายของออนไลน์ได้ดีและเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น คือคุณขายได้แน่ มีลูกค้าซื้อแน่ ส่วนจะซื้อมากน้อยเท่าไหร่ก็อยู่ที่ความสามารถของคุณเองด้วยในการพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า การจูงใจต่างๆ ซึ่งใครที่มีวาทศิลป์ผ่านทางหน้าจอได้ดี ก็มักจะได้เปรียบตรงนี้ไปเลย ซึ่งบางคนถึงขนาดบอกว่าง่ายและดีกว่า การคุยกันต่อหน้าลูกค้าจริงๆเสียอีก ว้าว
ประเด็นเรื่องของราคาสินค้าที่จะขายนั้น สินค้าบางประเภทที่สูงกว่า 1,500 บาท และราคาสูงขึ้นไปไม่เกิน 10,000บาทนั้น จริงๆแล้วก็มีปรากฎมาแล้วว่าขายผ่านระบบออนไลน์ได้ประสบความสำเร็จ มีคนซื้อและขายได้เรื่อยๆด้วย ก็ต้องบอกว่าคนทำได้แบบนี้นั้น เข้าใจระบบการทำธุรกิจออนไลน์ เข้าใจทำตลาดและเข้าใจการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ จ่ายเงินง่าย ไม่ถามมากไม่จู้จี้ ไว้วางใจในการขาย แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคนจะสามารถขายของออนไลน์แบบนี้แล้วประสบความสำเร็จได้ทุกคน อย่าลืมว่าสินค้าราคาสูงนั้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ลูกค้าที่ต้องการก็มีเฉพาะกลุ่มด้วย ปริมาณการขายของออนไลน์กับสินค้าประเภทนี้นั้นจะไม่มาก อาจขายได้ไม่ถี่นัก แต่ก็มีเข้ามาอยู่เรื่อยๆแม้จะเว้นช่วงไปบ้าง ลองมาดูตัวอย่างกันสักนิด
แม่ค้าออนไลน์คนที่ 1 ขายสินค้าเกี่ยวกับกลุ่มความสวยความงามและสุขภาพ มีเครื่องสำอางผสมคอลลาเจน ครีมกันแดด เครื่องดื่มคอลลาเจน และอาหารเสริมเพื่อผิวสวยต่างๆ ซึ่งสินค้ากลุ่มคอลลาเจนและความงามที่เธอขายนี้ มีราคาตั้งแต่ 300 – 500 บาท สินค้ามียอดส่งต่อวันถึงพันรายการ กำไรต่อชิ้นไม่ได้เยอะ โดยเฉลี่ย 5 – 10 % แต่ด้วยจำนวนยอดขายที่เยอะทำให้กำไรต่อวันก็ค่อนข้างมากอยู่ แต่ก็ต้องแลกมากับเรื่องการบริหารจัดการที่ค่อนข้างจะต้องพร้อมพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นโกดังเก็บสินค้า พนักงานทำการตลาดออนไลน์ พนักงานแพ็คของส่งสินค้า
คนที่ 2 ขายสินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์ตกแต่งบ้านราคาขายอยู่ในระดับขั้นต่ำที่ 10,000 ขึ้นไป แต่สินค้าสามารถทำกำไรได้ 100 % ในทุกรายการแบบนี้ขายได้วันละ 1 – 2 รายการก็มีกำไรต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาททุกเดือน
คนที่ 3 เป็นพ่อค้าออนไลน์ขายสินค้าเกี่ยวกับการถ่ายรูป ซึ่งเป็นสินค้าเฉพาะด้าน มีกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่ต้องการสินค้าชนิดนี้ ราคาขายอยู่ในช่วง 1,500 – 2,500 บาท กำไรต่อชิ้นขั้นต่ำที่ 500 บาท วันหนึ่งขายอยู่ประมาณ 20 รายการ ก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเช่นกัน
จากตัวอย่างคุณจะเห็นว่า การทำธุรกิจออนไลน์การมีหลักการเลือกสินค้า และหลักในการพิจารณาตั้งราคาขายนั้นสอดคล้องกันและเป็นปัจจัยสำคัญเบื้องต้นที่จะทำให้การขายของออนไลน์ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น ถ้าจะให้สรุปว่า หากจะทำธุรกิจออนไลน์แล้วบูมจริงๆ ควรเลือกสินค้าราคาประมาณไหนมาขายก็ขอตอบว่า สินค้าที่มีราคาขายอยู่ที่ 500 – 1,500 บาท นี่แหละดีที่สุด เป็นสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่อง คนซื้อมักไม่คิดมากที่จะควักจ่าย ลองนำสูตรเหล่านี้ไปใช้กันดูนะ
