ธุรกิจโรงแรมและที่พักยังขยายตัวต่อเนื่องมาจนถึงปี 61 เนื่องจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โรงแรมห้องพักจึงมีการเปิดที่ใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดนั่นส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักในตอนนี้มีการแข่งขันที่รุนแรงมาก เรื่องนี้อาจส่งผลบวกในเชิงเศรษฐกิจภาพรวมแต่สำหรับผู้ประกอบการถือว่าเป็นเรื่องที่หนัก หากปรับตัวไม่ได้ไม่มีกลยุทธ์ที่ดีโอกาสจะไม่รอดกับธุรกิจนี้ก็มีสูง

สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมและที่พักในภาพรวม

     ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีการเปิดเผยว่ามูลค่าตลาดธุรกิจโรงแรมในปี 2561 น่าจะอยู่ที่ 600,000-615,000 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 4.5-7.1 จากในปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 574,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีแม้ธุรกิจโรงแรมและที่พักในประเทศไทยจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรวมการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พักยังคงเป็นไปอย่างรุนแรง ทั้งการแข่งขันในกลุ่มโรงแรมระดับสามดาวลงมา เพื่อแย่งชิงฐานนักท่องเที่ยวระดับกลางที่มีจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มโรงแรมสี่ดาวขึ้นไป ที่เริ่มมีผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนแข่งขันในตลาดด้วย ซึ่งก็เป็นกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ผันตัวเองเข้ามาในตลาดธุรกิจนี้เพิ่มด้วยนั่นเอง

โอกาสธุรกิจโรงแรมและที่พักในปี 61

     ถ้าดูสถานการณ์ตามนี้เราก็จะพบว่า โรงแรมในระดับ 3 – 4 ดาว ค่อนข้างจะลำบากสักหน่อย ต้องแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์และโปรโมชั่นที่เหนือกว่า แต่สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ระดับ 5 ดาวนั้น ต้องบอกว่าไม่น่าเป็นห่วงเลย กลับได้อานิสงค์จากการแข่งขันกันหนักหน่วงของโรงแรมระดับที่รองลงมานี้ด้วย เพราะโรงแรมระดับ 6 – 4 ดาวไม่น้อยที่อาศัยการบริหารงานจากโรงแรมใหญ่ๆ ดังนั้น โรงแรมใหญ่ 5 ดาวหลายเจ้าจึงหันมาเพิ่มสัดส่วนรายได้ของตนเองจากการเข้าดูแลบริหารงานโรงแรมระดับรองลงมา

     ส่วนโรงแรม 3 – 4 ดาวนั้นแม้จะมีการแข่งขันกันสูงก็จริง แต่เนื่องจาก คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง 55 จังหวัด โดยตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2561 บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวใน 55 จัง หวัดเมืองรองดังกล่าวมาลดหย่อยภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งมาตรการเหล่านี้น่าจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกระจายตัวท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรองมากขึ้น อันจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมและที่พักนั่นจึงทำให้ยังพอมีโอกาสที่จะเดินไปข้างหน้าได้อยู่

กลยุทธ์สำหรับธุรกิจโรงแรมและที่พักในปี 61

สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทราบก็คือ ทางเลือกในการใช้บริการที่พักประเภทอื่นๆ ของผู้บริโภคมีมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมระดับสามดาวลงมา อีกทั้งนักท่องเที่ยวสามารถเปรียบเทียบข้อมูลด้านการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ นั่นจึงทำให้การแข่งขันมีสูงขึ้นมาก หากจะงัดกลยุทธ์มาใช้ให้ตนเองอยู่รอด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้

• บริหารจัดการรายได้และต้นทุน ทั้งในช่วง High Season และ Low Season ช่วง High Season อาจอยู่ในรูปแบบการเพิ่มเงื่อนไขการวางเงินมัดจำสำหรับการจองห้องพัก เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักแบบกะทันหัน ส่วน Low Season
• อาจปรับกลยุทธ์ด้วยการจัดโปรโมชันกระตุ้นการเข้าพัก ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้จากบริการอื่นๆ ชดเชยการลดลงของรายได้จากการให้บริการที่พัก เช่น การจัดงานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์
• เจาะตลาดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม โดยใช้จุดแข็งในด้านความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์และการดำเนินงาน นำเสนอบริการด้านที่พัก และบริการเสริมต่างๆ อย่างกลุ่มที่มีวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวที่ชัดเจน หรือกลุ่มท่องเที่ยวทางเลือก เช่น การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงกีฬาการท่องเที่ยวเพื่อชิมอาหาร เป็นต้น

อ้างอิงบางส่วนจาก : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย