“วันคนโสด” อาจได้ยินแล้วรู้สึกแปลกหู แต่ที่ประเทศจีนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และวันคนโสดนี้ยังเกี่ยวพันกับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการช้อปปิ้งออนไลน์ของจีนด้วย ถึงขนาดเป็นวันที่กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ต่างรอคอยให้มาถึง
วันคนโสด เป็นยังไง ?
เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศจีนมีประชากรอยู่เยอะมาก มากเสียจนเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศนั่นจึงเป็นเหตุผลให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนต้องออกนโยบาย “มีลูกคนเดียว” ออกมาบังคับประชาชนและควบคุมจำนวนประชากรของประเทส ซึ่งนโยบายนี้เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่ปี1978 เป็นต้นมา แต่พอนานวันเข้านโยบายนี้ก็เริ่มส่งผลกระทบเชิงลบในอีกด้าน เพราะเกิดความไม่สมดุลทางเพศในจำนวนประชากร โดยวัฒนธรรมและความคิดของคนจีนนั้นมักนิยมการมีลูกชายไว้สืบสกุล หากต้องมีลูกเพียงคนเดียวก็มักอยากจะได้ลูกชาย ดังนั้น หากคลอดลูกออกมาเป็นลูกสาว บางบ้านถึงขนาดต้องเอาลูกไปทิ้งไว้ให้คนรวยๆเลี้ยง หรือบางทีก็ปล่อยให้เด็กตายไปเองเลยก็มี ถ้าคลอดใหม่แล้วได้ลูกชายก็จะเลี้ยงเอง นั่นจึงทำให้สัดส่วนความสมดุลทางเพศของประชาชนจีนจึงไม่สมเหตุสมผล มีการคาดการณ์กันว่าในอีกไม่กี่ปี จำนวนประชากรผู้ชายในจีนจะแซงหน้าประชากรที่เป็นผู้หญิงออกไปถึง 30% เลยทีเดียว
ปัญหาผู้ชายมากกว่าผู้หญิงทำให้มีผู้ชายโสดจำนวนมาก นั่นจึงเป็นต้นกำเนิดของ “วันคนโสด” ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของจีนในปี 1990 ที่มหาวิทยาลัยได้มีการจัดกิจกรรมพบปะสังสรรค์และรวมตัวผู้ชายที่เป็นโสด ซึ่งกิจกรรมนี้ภายหลังได้รับความสนใจและนิยมมากขึ้นและพวกเขากำหนดเอาวันที่ 11 เดือน 11ของทุกปีเป็น “วันคนโสด”
วันคนโสดเกี่ยวข้องอย่างไรกับอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในจีน
ในปี 2009 อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างอาลีบาบาเห็นโอกาสทางธุรกิจจากวันคนโสด จึงจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงของวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลับโดนใจหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของจีน จนเกิดกระแสขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ ว่ากันว่าปริมาณการซื้อของออนไลน์จากเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ต่างๆพุ่งขึ้นสูงมาก บางเว็บไซต์ถึงกับกล่าวว่า วันที่ 11 เดือน 11 เพียงวันเดียวสามารถทำยอดจำหน่ายถล่มทลายจนเกือบจะมากกว่าวันธรรมดาทั้งปีเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้เกิดเป็นกระแสมากขึ้นเรื่อยๆจนส่งต่อไปยังผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซหลายๆชาติ และในที่สุดก็เกิดเป็นปรากฏการณ์เทศกาลช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในวันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปีนั่นเอง
2 นาทีแรกของ “วันคนโสด” ก็ขายได้ถึง 10,000 ล้านหยวน
จากการเปิดเผยของ ทีมอลล์อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่บริษัทในเครือของอาลีบาบา ได้กล่าวไว้ว่า แค่เริ่มต้นเทศกาลช้อปปิ้ง วันที่ 11 เดือน 11 เพียง 2.05 นาที ทางเว็บไซต์ก็สามารถจำหน่ายสินค้าได้ไปถึง 10,000 ล้านหยวน หรือมากกว่า 47,500 ล้านบาทแล้ว และหากมองย้อนไปดูเมื่อปี 2017 ทีมอลล์สามารถกวาดรายได้ในวันคนโสดไปได้ 52 ล้านหยวน ขณะที่รายได้รวมของอาลีบาบาในวันคนโสดปีที่แล้วจากทุกเว็บไซต์ (ทีมอลล์ เถาเป่า อาลีเอ็กซ์เพรส ลาซาดา เป็นต้น) สูงถึง 168,200 หยวนหรือเกือบ 800,000 ล้านบาท สูงกว่ายอดขายสินค้าในวันแบล็กฟรายเดย์และไซเบอร์มันเดย์ของสหรัฐฯ รวมกันประมาณ 2.5 เท่า
จะเห็นว่าวันคนโสดหรือวันที่ 11 เดือน 11 นี้เป็นโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ทางธุรกิจอย่างยิ่ง และดูแนวโน้มแล้วน่าจะโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกปี จึงมีโอกาสที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งหลายจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดและคว้าโอกาสนี้ไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่คงจะต้องติดตามกันต่อไปในปีหน้าว่าผลออกมาจะเป็นอย่างที่คาดไว้หรือไม่