HIGHLIGHTS:

  • ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่คุณอยากทำ จงทำเสีย หากพยายามแล้วพลาด อย่างน้อยคุณก็ได้ลองทำแล้ว หากไม่ได้ลองทำ คุณจะนึกข้องใจอยู่เสมอว่า ถ้าตอนนั้นได้ทำแล้วจะเป็นอย่างไร
  • จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรจงไตร่ตรองตัดสินใจด้วยตนเอง แล้วอำนาจนั้นจะอยู่ในมือของคุณ หากคุณเลือกจะทำงานให้คนอื่น วันหนึ่งเขาอาจไล่คุณออกก็ได้ คนส่วนใหญ่มักจะหมดไฟกับสิ่งที่ชอบเมื่อได้งานประจำทำแล้ว และมักจะพอใจกับรูปแบบการใช้ชีวิตไปวัน ๆ

หลายคนอยากมีธุรกิจส่วนตัว หรือต้องการเป็นนายตัวเอง แต่ก็ได้แต่นั่งคิดนั่งฝันไม่กล้าที่จะออกจากงานประจำที่ทำอยู่ ก็เพราะด้วยความจำเป็นของชีวิตที่จะต้องรับผิดชอบอีกมากมาย บางคนกลัวที่จะพลาด กลัวล้มแล้วลุกไม่ขึ้น แต่ชีวิตก็อยู่กับความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วนี่นา ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราอยู่ในท้องแม่เราก็เสี่ยงจะรอดหรือไม่รอดอยู่แล้ว แบบนี้ไม่มีเหตุผลที่คุณจะต้องกลัวล้มเลยนี่

 

ถามตัวเองก่อนว่าอะไรที่ “ใช่” สำหรับคุณ

     โลกได้สร้างสรรค์ความแตกต่างมาให้กับพวกเราทุกคน ไม่ใช่ว่าคนทุกคนบนโลกนี้จะทำสิ่งเดียวกันได้ทั้งหมด เอาแค่ง่ายๆคนบางคนกระดิกหูได้ ในขณะที่คนอีกหลายสิบล้านคนไม่สามารถทำได้ บางคนฉีกขาได้ 180 องศา แต่อีกกี่คนที่แค่ยกขาก้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์ก็ปวดเส้นเอ็นแล้ว ฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะไม่ได้เกิดมาเป็นหัวหน้าคนเสมอไป สิ่งที่ธรรมชาติให้มาใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ “ใช่” ที่สุด แต่คุณต้องกลับไปพิจารณาตนเองก่อนว่า “สิ่งที่ “ใช่” ของคุณคืออะไร คุณต้องการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร หลายคนแค่เห็นเพื่อนเป็นเจ้าของธุรกิจมีเงินมีทอง มีหน้ามีตา ก็เกิดความอยากที่จะเป็นแบบนั้นบ้าง และคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ “ใช่” สำหรับตัวเอง ในความเป็นจริงแล้วอาจจะ “ไม่ใช่” ก็ได้ คุณสมบัติข้อหนึ่งของคนที่มีธุรกิจส่วนตัวคือ “เข้าใจตนเองตั้งแต่เริ่มต้น” พวกเขาเหล่านี้มักจะรู้ตนเองตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่าตนเองต้องการมีธุรกิจส่วนตัว และต่อมาพวกเขาก็จะทำได้จริงๆที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขามีความต้องการในส่วนลึกเป็นแรงผลักดันอยู่แล้ว หากวันนี้คุณคือคนรุ่นใหม่ที่ทำงานประจำอยู่และต้องการจะสร้างธุรกิจของตนเองให้ได้ คุณก็ต้องกลับไปสำรวจตนเองก่อนว่าการมีธุรกิจส่วนตัวเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับคุณจริงหรือไม่ คุณทำงานประจำเป็นหลักแล้วขายของออนไลน์เป็นงานเสริมอยู่หรือเปล่า ถ้าคุณทำแบบนี้อยู่ล่ะก็ได้เวลาเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว เพราะคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัวล้วนแล้วแต่อุทิศตนให้แก่สิ่งที่พวกเขามีใจให้มากที่สุด พวกเขาจะไม่มองหางานประจำเพียงแค่เงิน โดยยอมลดระดับความหลงใหลในสิ่งที่ตนรักให้เป็นแค่งานอดิเรก

ถ้าคิดจะก้าวต่อ อย่าสร้างทางเลือกให้ตัวเอง

     เมื่อเท้าของซีซาร์แตะแผ่นดินอังกฤษ กองทัพทหารโรมันก็บุกขึ้นบก จากนั้นเขาก็สั่งเผาเรือทุกลำจนมอดไหม้ เมื่อไร้สิ้นเรือเดินทางแล้ว ทั้งกองทัพก็ไม่อาจล่าถอยไปไหนได้ ไม่มีหนทางใดที่จะเดินทางกลับอย่างปลอดภัย ทุกอย่างมีเพียงขาวและดำ ถ้ารบไม่ชนะก็มีแต่ต้องตาย; สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตอนก่อนจะยกทัพเข้าตีเมืองจันท์ก็สั่งให้ไพร่พลเหล่าทหารทุบหม้อข้าวภาชนะที่ใช้หุงหาอาหารให้หมด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เหล่าทหารที่ร่วมรบทุกคนรู้ว่า ถ้าศึกนี้ไม่ชนะยึดเมืองจันท์ไม่ได้ก็ต้องตายคาสนามรบหรือไม่ก็อดตาย เพราะไม่มีภาชนะให้หุงหาอาหารกันอีกแล้ว คือไม่มีทางถอยอีกแล้วในการรบครั้งนี้ ตีไม่ชนะก็ต้องตาย สิ่งเหล่านี้เป็นหลัดจิตวิทยาที่คุณเองก็สามารถที่จะนำมาใช่กับตนเองได้ หากคุณเลือกที่จะสร้างธุรกิจของตนเองและแน่ใจว่าหนทางนี้ “ใช่” สำหรับคุณ แต่ด้วยภาระความรับผิดชอบต่างๆที่คุณมียังรั้งคุณไว้ให้คุณเกิดความลังเลไม่แน่ใจ ก็ขอให้คุณจงใช้หลักจิตวิทยานี้เข้าช่วยเป็นแรงผลักดัน อย่าสร้างทางเลือกให้ตัวเอง อย่าเตรียมทางสำรองเพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณขาดความมุ่งมั่นที่จะฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆไปจนถึงเป้าหมายที่หวังไว้ลงไปได้ มีเรื่องราวหนึ่งที่น่าจะเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเรื่องราวของจิตรกรชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งนั่นคือ ปอล เซซานน์ ครอบครัวของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งบิดาของเขาผู้เป็นนายธนาคารพยายามบังคับและกดดันให้ ปอล เซซานน์ ร่ำเรียนวิชากฎหมายในมหาวิทยาลัย ครอบครัวของเขาเชื่อมั่นว่าความรู้นี้จะทำให้อนาคตของเขาปลอดภัยและมั่นคง เซซานน์รู้สึกถูกบีบคั้นอย่างหนักระหว่างความปรารถนาอย่างแรงกล้าของครองครัวกับความหลงใหลในศิลปะของตนเอง เขาจำใจเรียนด้วยความรู้สึกถูกบีบคั้นและต้องอดทนอดกลั้นอยู่ถึงสองปี จากนั้นเขาก็ขบถต่อครอบครัวแล้วหนีไปอยู่ปารีสเพื่อจะเป็นจิตรกร

paul-cezanne
ปอล เซซานน์ จิตรกรชาวฝรั่งเศส

ครอบครัวของเซซานน์ตั้งตัวแทบไม่อยู่กับความหุนหันพลันแล่นของเจ้าตัวถึงขั้นประกาศตัดหางปล่อยวัด แต่ความมุ่งมั่นของเซซานน์ก็ไม่ได้สูญเปล่า เขาคิดค้นแนวทางของตนเอง เปลี่ยนแนวทางของประวัติศาสตร์ศิลปะด้วยผลงานแบบใหม่ที่ลดความซับซ้อนต่างๆลงและเน้นความเรียบง่ายของสิ่งนั้นๆจนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จและทางครอบครัวก็ยอมรับและชื่นชมกับความสำเร็จในงานของเขาด้วย นี่คือเรื่องราวที่น่าจะเป็นตัวอย่างสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

     ดังนั้น ถ้าคิดจะเข้าสู่การทำธุรกิจจงอย่าให้ตัวเองมีทางเลือก หากคุณมีบางสิ่งช่วยรองรับอยู่ด้านหลังยามล้ม โอกาสที่คุณจะล้มใส่สิ่งนั้นย่อมมีเสมอ การหมดเปลืองทั้งเวลาและพลังงานในสิ่งที่คุณไม่ใส่ใจจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาทันที การใช้ชีวิตทำในสิ่งที่เราไม่ได้สนใจอะไรนักหนาเป็นทางเลือกที่น่ากลัวมาก การคิดย้อนกลับไปว่าตอนนั้นอาจจะเป็นอย่างไร อาจจะเกิดอะไร น่าจะเป็นอย่างไร เป็นความรู้สึกที่น่าเศร้าอย่างที่สุด

เครดิตภาพบางส่วนจาก: bbc.co.uk และ famouspainters.net