สถานการณ์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจของกัมพูชาดูเหมือนว่ากำลังจะถอยหลังลงคลอง เมื่อนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ครองอำนาจมาถึง 33 ปีกำลังขยายอำนาจไปเรื่อยๆและยังมีท่าทีแข็งกร้าวต่อนานาประเทศมาโดยตลอด ประชาธิปไตยในเขมรจึงจางลงจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว นั่นทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์แถลงคำประกาศตัดเงินช่วยเหลือกัมพูชาแล้ว

     ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเคยจ่ายเงินสนับสนุนให้กัมพูชาในฐานะผู้ร่วมการพัฒนาตลอดช่วง 25 ปีที่ผ่านมาอยู่ 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 31,000 ล้านบาท แต่หลังจากที่ทางสหรัฐฯพิจารณาบทบาทความเป็นประชาธิปไตยในกัมพูชาแล้วย่ำแย่ลงเรื่อยๆ งบประมาณจำนวนนี้สหรัฐฯจึงขอยุติและไม่ช่วยเหลือกัมพูชาอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ใช่ว่าสหรัฐฯจะไม่เหลียวแลเลย งบประมาณด้านสาธารณสุข เกษตรกรรม เก็บกู้ทุ่นระเบิด และโครงการสำคัญด้านพลเรือน สหรัฐฯก็ยังให้การดูแลอยู่เช่นเดิม แต่ตัดงบด้านการเมืองการทหารและงบประมาณเพื่อการเศรษฐกิจในกัมพูชาออกไป

     ท่าทีการปฏิบัติต่อกัมพูชาครั้งนี้ของสหรัฐฯ เป็นที่จับตามองของโลกในทันที องค์กรระหว่างประเทศและสหภาพยุโรปเริ่มมีการพูดคุยกันแล้วว่า จะยึดแนวทางของสหรัฐฯมาใช้ด้วยหรือไม่ เพราะทางองค์กรระหว่างประเทศและสหภาพยุโรปก็เอื่อมระอากับรัฐบาลกัมพูชามานานพอสมควรแล้ว หลังจากรัฐบาลกัมพูชาปราบปรามฝ่ายค้านอย่างหนัก ทั้งด้านการดำเนินคดี การปิดกั้นเสรีภาพ และเล่นงานทางการเมือง ซึ่งนี่ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการเต็มขั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการกล่าวหาแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลของนายฮุน เซน ดำเนินการกวาดล้างพรรคฝ่ายค้านมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วนายเขม โสกา ผู้นำพรรคฝ่ายค้านถูกจับกุมดำเนินคดีทรยศชาติ ส่วนสื่อมวลชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลถูกเช็กบิล จนต้องปิดตัว ทำให้ทางอียูเคยประกาศเตือนว่าอาจใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจกับกัมพูชามาแล้ว นอกจากนั้นแล้วนายฮุน เซน ยังเคยประกาศข่มขู่รัฐบาลออสเตรเลียว่าจะทำให้อับอายหากนำประเด็นการเมืองภายในของกัมพูชามาพูดในเวทีภูมิภาค

Cambodian Prime Minister Hun Sen, center, of the Cambodian People’s Party votes his ballot in the senate election at Takhmau polling station in Kandal province, southeast of Phnom Penh, Cambodia, Sunday, Feb. 25, 2018. Cambodia’s ruling party is assured of a sweeping victory in the election of a new Senate after the only real opposition to it was eliminated. (AP Photo/Heng Sinith)

     อย่างไรก็ดีทีท่าของนายฮุน เซน ดูเหมือนจะไม่สนใจฟังคำทักท้วงจากชาติประชาธิปไตยเลยสักนิด พร้อมยังตอบโต้ด้วยว่า กัมพูชามีจีนเป็นพันธมิตรอยู่แล้ว จึงไม่สนใจว่าชาติอื่นๆจะมองตนว่าเป็นอย่างไร และล่าสุด 25 ก.พ. ที่ผ่านมากลุ่มของนายฮุน เซน ก็ยังชนะศึกการเลือกตั้งวุฒิสภา แบบไม่มีพรรคคู่แข่งอีกด้วย

   หากมองดูสถานการณ์ของกัมพูชาในขณะนี้ก็ดูจะคล้ายกับสถานการณ์การเมืองในบ้านเราอยู่ทีเดียวในหลายๆเรื่อง แต่ในบ้านเราอาจจะดูประนีประนอมได้ดีกว่า ซึ่งเราก็หวังว่าบ้านเราจะกลับสู่ภาวะประชาธิปไตยที่มีคุณภาพจริงๆในเร็ววัน

อ้างอิง : bbc