เมื่อ “วันวาน” พบกับ “วันนี้” เพื่อเป็นกำลังใจให้วัน “พรุ่งนี้”

     ผลงานที่ท่านได้รับชมกันไปนี้คือ Original Soundtrack ของภาพยนตร์โฆษณาชุดยังมีพรุ่งนี้สำหรับทุกคน หนึ่งในโฆษณาที่นอนLotus นับเป็นไอเดียธุรกิจโฆษณาระดับ 5 ดาว ที่ Creative สุดๆ กระแสตอบรับดีมีแต่เสียงชื่นชม ฉีกแนวการทำโฆษณารูปแบบเดิมๆอย่างสิ้นเชิง นับเป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่เฉียบขาดที่สุดจริงๆ

เมื่อ “เสือ” พบ “สิงห์” โฆษณาที่ละมุนที่สุดใน 3 โลกก็บังเกิด

     โลกใบนี้ช่างมีความแฟนตาซีอยู่เสมอ เรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นได้ในทุกๆวัน อย่างการที่ “เสือ”ลายคราม อย่างอาแต๋ม ชรัส เฟื่องอารมณ์ ได้โคจรมาพบกับ “สิงห์” สุดเก๋าแห่งวงการดนตรีรุ่นใหม่อย่าง สิงโต นำโชคนั้น ในความเป็นจริงแล้วแทบจะไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันก็เกิดขึ้นจริงแล้ว ทั้งสองไม่ได้พกความดุดันมาห่ำหั่นแบทเทิลกัน ตรงกันข้ามคนทั้ง 2 ซึ่งเป็นตัวแทนของคน 2 Generation ที่นำความนุ่มละมุนสุดชิล ไพเราะแบบเบาสบายมาฝากพวกเรา ผ่านบทเพลงที่ชื่อว่า “หลับตา” 29 ปีมาแล้วที่บทเพลงนี่ถูกขับกล่อมด้วยเสียงที่นุ่มและมีความละเมียดละไมของคุณอาแต๋ม ชรัส บทเพลงนี่ตราตรึงใจผู้คนมาอย่างยาวนาน เรียกว่าโด่งดังมากในยุคก่อน และบทเพลงนี้ยังคงติดหูคนรุ่นใหม่อยู่เนืองๆ ใครจะไปคิดว่า เมื่อกาลเวลาเคลื่อนคล้อยผ่านมา 29 ปี เข้าสู่ปี 2560 บทเพลงนี้จะถูกนำกลับ Cover ใหม่อีกครั้งโดย “ตั้ม โมโนโทน” เป็นโปรดิวเซอร์ โดยมอบหมายให้นักร้องเสียงอบอุ่น ขวัญใจสายชิลอย่างสิงโต นำโชคมาเป็นผู้ขับร้องเพลงนี้ในเวอร์ชั่นปี 60 และยังนำเจ้าของเพลงอย่างอาแต๋มมาร่วมขับกล่อมด้วย โอ้ย…เหนือคำบรรยายจริงๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะเป็นโปรเจคงานโฆษณาของที่นอนโลตัส ซึ่งนี่ใช่เรื่องของไอเดียธุรกิจ หรือไอเดียโฆษณาที่สุดแปลกแหวกล้ำเท่านั้น แต่ผลงานชิ้นนี้ยังเต็มไปด้วยความละเอียดลึกซึ้งกินใจอีกด้วย ความนุ่มนวลแบบเสือเก่า ผสานเข้ากับความอบอุ่นของสิงห์รุ่นใหม่ ก็คงไม่มีคำอธิบายอื่นใดนอกจากคำว่า “โครตไพเราะ” อีกแล้ว

กลยุทธ์การตลาดสุดละมุนละไมที่ได้ใจคนไทยไปเต็มๆ

     ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะหญิงหรือชาย จะหนุ่มสาวหรือชรา พวกเราทุกคนล้วนต้องล้มตัวลงนอนฝากกายาให้ผ่านนิทราไปกับที่นอนที่แสนจะสบายด้วยกันทั้งสิ้น ที่นอนเป็นหนึ่งสิ่งที่คนทุกคนต้องใช้ LotusMattress หรือที่นอนโลตัสสามารถจับประเด็นนี้ได้ทุกต้องและถูกจุดที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ล้วนต้องการที่นอนที่นุ่มสบายกันทั้งนั้น การเลือกเอาบทเพลงมาใช้ในการทำสื่อโฆษณานั้นจริงอยู่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่การเลือกเพลงที่เข้ากับตัวผลิตภัณฑ์สินค้านั้นต้องบอกว่าน้อยคนที่จะทำได้ เพราะส่วนมากจะนำเอาทำนองเพลงมาใช้และแปลงเนื้อใหม่ให้เข้ากับสินค้ากันเสียมากกว่า หรือบางทีก็นำศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงที่มีผลงานเพลงที่กำลังดังติดหูมาร้องเพลงของตัวเองที่เปลี่ยนเนื้อเพลงมาเชียร์สินค้านั้นๆ แบบนี้เราจะเห็นได้บ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น

โฆษณาสมหวังเงินสั่งได้ของกลุ่มธนาคารทิสโก้ ที่นำเพลง “สมหวังนะครับ” ของก๊อท จักรพันธ์มาเปลี่ยนเนื้อและยังเชิญเจ้าตัวมาร้องให้ด้วย

โฆษณา “จีบหน่อยอร่อยแน่” ของเอลเซ่ ที่เลือกเอาเพลงชื่อเดียวกันกับโฆษณาของจ๊ะ อาร์สยามมาใช้ในงาน

      ข้างต้นเป็นตัวอย่างโฆษณาที่เราจะพบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย แต่การที่จะได้บทเพลงที่เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนเองเป๊ะๆ เลยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ไม่รู้จะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่แต่บทเพลง “หลับตา” นั้น ทั้งคำร้องและท่วงทำนองชวนให้เราจินตนาการไปถึงการนอนอยู่บนที่นอนนุ่มๆอยู่ในอ้อมกอดหรืออยู่เคียงข้างคนที่เรารักเสียจริงๆ และที่สำคัญการแมทช์คู่ดูโอ้ต่างวัยที่ต่างก็เป็น “เจ้าพ่อเพลงนุ่ม” ที่ต่างยุคยังเป็นการเลือกที่เฉียบขาดอีกด้วย นำเสียงของสิงโต นำโชคเป็นอะไรที่สบายหูสุดๆอยู่แล้ว ฟังแล้วได้บรรยายกาศสุดชิลอยู่เสมอ นี่ยังบวกน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความนุ่มอบอุ่นของอาแต๋ม ชรัสเข้าไปด้วยยิ่งทำให้ฟินกันไปใหญ่ ชวนให้เราอยากจะล้มตัวลงนอนบนที่นอนที่แสนนุ่มพร้อมกลับเปิดเพลงนี้ในเวอร์ชั่นนี้คลอไปเบาๆจนเราเคลิ้มหลับไปเสียจริงๆ บทเพลงชวนให้คิดถึงที่นอน แถมคนร้องยังขับกล่อมด้วยเสียงที่ชวนฟินแบบนี้ เราจึงบอกว่า LotusMattress จับประเด็นมาทำโฆษณาได้น่าสนใจเอามากๆ เปิดมาตอนแรกของคลิป เชื่อว่าหลายคนคงจะคิดว่าเป็น MV เพลงเวอร์ชั่นcoverใหม่แน่ๆ แต่พอฟังจนจบเพลงก็มีข้อความเฉลยกันแบบโต้งๆว่าเป็นโฆษณา ที่นอน Lotus ซึ่งข้อความก็ไม่ได้มีอะไรสวยหรูเลยสักนิดออกจะดูเชยด้วยซ้ำ แต่ทัั้งหมดทั้งมวลเมื่อมองในภาพรวมแล้วออกมาดูดีมีราคา LotusMattress ชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตนเองแบบอ้อมๆ แต่กลับเข้าถึงใจผู้ชมแบบเต็มๆ และแถมให้ความรู้สึกในเชิงบวกเสียด้วย คนรู้ว่างานนี้เป็นโฆษณาแต่ไม่มีใครด่าว่ามีแต่เสียงชื่นชม ไอเดีจแจ่มแบบนี้ก็ได้ใจคนไทยกันไป

คืนความผ่อนคลายและกำลังใจที่เต็มเปี่ยมให้สังคม

     ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้คือตัวอย่างที่ดีของการทำธุรกิจแบบใส่ใจสังคม นี่คือเทรนด์การทำธุรกิจใหม่ในยุคนี้ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคสนใจเรื่องคุณธรรม จริยธรรมและธรรมมาภิบาลในการทำธุรกิจกันมากขึ้น พวกเขามักถามเสมอว่า “คุณให้อะไรแก่สังคม” ธุรกิจยุคนี้จึงจะสนใจแต่เรื่อง “กำไร” อย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจอะไรก็ตามคุณต้องตอบให้ได้ว่า การทำธุรกิจของคุณดียังไงกับสังคมบ้าง สิ่งเหล่านี้เริ่มแทรกเข้าไปอยู่ในทุกงานทุกอาชีพและทุกองค์กร LotusMattress เข้าใจจุดนี้อย่างกระจ่างจึงขอเสนอแนวคิดตอบแทนสังคมด้วย “กำลังใจ” พวกเขามองว่าทุกคนในสังคมล้วนต้องการกำลังใจในการใช้ชีวิตที่ผ่านไปในทุกๆวัน พวกเขาจึงใส่คอนเซป “ไม่ว่าวันนี้เราจะทุกข์ขนาดไหน หลับตา…ข้ามคืนนี้ไปให้ได้ แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น” ลงไปในงานโฆษณาชิ้นนี้ ซึ่งออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณา 3 ชิ้น ชิ้นแรกก็คือ

และโฆษณาตัวที่ 2 เป็นMV ของสิงโต นำโชค

ส่วนเวอรชั่นที่ 3 ก็คือ คลิปด้านบนสุดที่คุณได้รับชมกันไป

     ทั้งหมดนี้ชี้ให้เราเห็นว่ารูปแบบการทำธุรกิจ ในยุคปัจจุบันนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หมดยุคแล้วกับรูปแบบการตลาดเดิมๆ ไอเดียธุรกิจไหนว่าเจ๋งถ้าขาดความเอาใจใส่เรื่องของสังคมก็จะกลายเป็นไอเดียไร้ค่าเท่านั้น ได้เวลาปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจ และไอเดียการโฆษณาของคุณแล้วนะ ลองนำไอเดียจากเรื่องราวนี้ไปปรับใช้กันดูสิ แล้วคุณจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ไม่ยาก