ธุรกิจส่วนตัวที่ประสบความสำเร็จ อาจไม่ได้วัดหรือดูที่ตัวเลขของผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวเสมอไป ตัวเลขอาจจะสวยแต่ความเป็นจริงเกี่ยวกับการบริหารงานในบริษัทอาจจะกำลังมีปัญหายุ่งเหยิงอยู่ก็ได้ การเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวมีเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยนั่นก็คือ การบริหารคน หรือการบริหารทรัพยากรบุคคล งานจะดีไม่ดี ยอดขายจะมากหรือน้อยล้วนมีปัจจัยจาก “คน” ทั้งสิ้น จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายเจ้าของธุรกิจส่วนตัวทั้งหลายว่า จะทำอย่างไรให้ “บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น” ที่จะบริหารคนให้ช่วยกันทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ ครั้งนี้เราจึงขอนำกลยุทธ์ครองใจลูกน้องมาแนะนำเหล่าเจ้าของธุรกิจส่วนตัวทั้งหลาย จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย

จะบริหารคนให้อยู่หมัดต้องเริ่มจากความชัดเจน

Art-173-programa_de_administracion_por_objetivos-2     เจ้าของธุรกิจส่วนตัวทั้งหลายต้องตระหนักถึงสิ่งนี้ให้ดีความชัดเจนคือเข็มทิศที่จะกำหนดทิศทางของธุรกิจส่วนตัวและองค์กรของคุณ คุณจะต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการอะไร วางเป้าหมายและหาวิธีการเอาไว้ให้ชัดเจนแน่นอน จากนั้นค่อยๆเริ่มสร้างแบรนด์ ทุกอย่างก้จะเห็นภาพชัดขึ้นทีละน้อย สิ่งสำคัญก็คือคุณจะต้องสื่อให้ได้ว่าธุรกิจส่วนตัวของคุณต้องการขายอะไร ขายให้ใคร สินค้าและบริการของคุณมีประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างไรและความต้องการของตลาดตรงกับสิ่งที่บริษัทอยากขายหรือไม่ จุดเด่นของธุรกิจส่วนตัวคุณอยู่ตรงไหน ทั้งหมดนี้ถ้าคุณมีความชัดเจน การบริหารคนของคุณก็จะง่ายขึ้นมากคุณจะเหมือนแม่ทัพที่มีความเด็ดขาด การบังคับบัญชาก็จะไม่เกิดปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง พวกเขาจะรู้ตั้งแต่ทีแรกเลยว่า ถ้าเขาทำเขาจะได้อะไร ผลตอบแทนจะเป็นยังไง มันส่งผลต่อความภาคภูมิใจในการของพวกเขานั่นเอง

การบริหารงานแบบมืออาชีพต้องทำอย่าง “โค้ช”

     ศาสตร์แห่งการบริหารคน ต้องเริ่มจากความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ คนทุกคนไม่มีใครอยากรู้สึกว่าถูกกดขี่หรือตกเป็นเบี้ยล่าง ฉะนั้น คุณต้องรู้จักวิธีใช้อำนาจ ลองเปลี่ยนวิธีจากการ “สั่ง” ให้ทำ มาเป็นการ “สอน” ให้จำ จะดีกว่า อย่าสั่งแบบทหาร จนสอนแบบโค้ช เพราะการสอนมีพลังมากการคำสั่ง  การสอนจะช่วยแนะแนวทางให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความคิดอะไรใหม่ๆที่ดีต่อองค์กร เมื่อเขาเชี่ยวชาญเขาก็จะเดินด้วยตัวเองโดยที่คุณไม่ต้องลงไปดูแลทุกเรื่องด้วยตัวเอง แบบนี้ธุรกิจส่วนตัวของคุณจะคล่องตัวขึ้นมาก

จุดเริ่มต้นต้องเริ่มที่ตัวคุณ

photodune-356827-busy-entrepreneur-l-2     การเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ไม่ใช่ว่าคุณจะรู้แต่เรื่องของการบริหารอย่างเดียว จำไว้ว่า “อย่าเอาแต่สั่ง” ถามตัวเองก่อนว่าก่อนจะออกคำสั่งใดๆไปกับใคร คุณสามารถทำสิ่งนั้นๆได้แค่ไหน คุณเข้าใจในสิ่งที่สั่งไปหรือไม่ ดังนั้น การจะสั่งหรือสอนใคร ต้องเริ่มจากการปฏิบัติเรียนรู้ หรือ ทำจากตัวคุณเองก่อน คุณจะต้องรู้จักงานทุกด้านขององค์กรของคุณเป็นอย่างดีด้วย คุณจะต้องสามารถทำทุกอย่างแทนพนักงานได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะชงกาแฟ เก็บขยะ พิมพ์เอกสาร ไปจนกระทั่งปีนหลังคา เราเรียกว่า “กลยุทธ์ซื้อใจ” ถ้าคุณทำได้สัมพันธภาพที่ดีระหว่างคุณกับลูกน้องก็จะเกิดขึ้น

สนใจทุกรายละเอียดของคนรอบข้างไม่ใช่แค่เรื่องของตนเอง

     มุมของของคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวกับคนที่เป็นลูกน้องจะแตกต่างกัน เพราะยืนกันอยู่คนล่ะจุด สิ่งที่สำคัญก็คือ ขอให้คุณคิดถึงถึงวันเสริมต้นในการสร้างธุรกิจส่วนตัวของคุณ วันแรกๆนั้นอะไรก็ยุ่งยากไปหมด คุณกับลูกน้องก็แทบไม่ต่างกัน เขาขาดคุณไม่ได้ คุณก็ขาดเขาไม่ได้เช่นกัน ฉะนั้น อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของลูกน้องหรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจส่วนตัวของคุณ จงแสดงความสนใจในตัวพวกเขาด้วยความจริงใจบ้าง จดจำชื่อ ทักทาย เรียกชื่อพวกเขาให้ถูกต้อง ใส่ใจรายละเอียดจดจำสิ่งเล็กน้อยของพวกเขา สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความประทับใจให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดีทีเดียว

มีความเด็ดขาดและตอบแทนอย่างเหมาะสม

     ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ไม่มีใครที่จะทำทุกอย่างถูกต้องเสมอไปแม้แต่ตัวคุณ สิ่งนี่เป็นความจริงที่ทุกคนต่างก็รู้ดี เจ้าของธุรกิจส่วนตัวมากมายที่ บริหารงานและบริหารคนผิดพลาด และความผิดนั่นก็เริ่มจากตัวเองเสียด้วย ดังนั้น เมื่อใครๆก็ทำผิดกันได้ ก็มาถึงคำถามที่ว่าแล้วคุณจะจัดการกับความผิดที่เกิดขึ้นนั้นอย่างไร คุณจะดุ จะด่า สบถ ใส่อารมณ์ใส่พวกเขาหรือไม่ ทำอย่างไรถึงจะเรียกว่าเด็ดขาด แต่ในความเด็ดขาดนั้นขอให้คุณจำไว้ว่า จงอย่าทำไปด้วยอารมณ์ ขอให้ทำอยู่ภายใต้เหตุและผล ลองสอบถามถึงปัญหาที่เขาเจอในการทำงาน อธิบายถึงปัญหาขององค์กรให้เขาได้รับรู้เพื่อปรับทัศนคติในการทำงานให้ตรงกันและลองให้โอกาสเขาเริ่มต้นแก้ไขตัวเองใหม่ ซึ่งน่าจะได้ผลดีกว่าการตำหนิและลงโทษด้วยความโกรธแน่ๆ และ ในทางตรงกันข้ามหากลูกน้องของคุณทำงานได้ดี คุณก็ควรจะมีรางวัลพิเศษ ที่จะสร้างความภาคภูมิใจหรือความทรงจำที่ประทับใจให้กับเขาบ้าง เพื่อที่จะเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป

สร้างและส่งต่อกำลังใจให้ผู้อื่นเสมอ

     การทำงานทุกอย่างย่อมมีอุปสรรค และก็คงมีหลายครั้งที่ลูกน้องของคุณเกิดความท้อแท้ คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่ากำลังใจจากหัวหน้า เพราะการที่คุณมอบกำลังใจให้เขาแสดงให้พวกเขาเห็นว่า คุณเห็นคุณค่าในตัวพวกเขา นั่นคือวิธีการบริหารคนที่แยบยลวิธีหนึ่ง การจะเป็นนักบริหารที่ดีคุณควรจะต้องสร้างสมดุลให้กับชีวิตระหว่างเรื่องงานและเครื่องครอบครัวให้กับพวกเขาด้วย สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นการสร้างและส่งต่อกำลังใจที่ดีให้กับชีวิตการทำงานของพวกเขาทุกคน ทำให้เขามีความฝันและจุดมุ่งหมายในการทำงานมากยิ่งขึ้น

     ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ครองใจลูกน้องที่คุณๆที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวทั้งหลาย สามารถนำไปปรับใช้ได้ สิ่งไหนที่เห็นว่าสมควรก็นำมาปฏิบัติ สิ่งไหนที่ไม่ดีก็หลีกเลี่ยง เพียงเท่านี้คุณก็จะประสบความสำเร็จทั้งคนทั้งงานตามที่มุ่งหวังแล้ว

summary

สรุปกลยุทธ์ครองใจลูกน้อง

  • ต้องชัดเจนความชัดเจนคือเข็มทิศที่จะกำหนดทิศทางในการทำธุรกิจและการบริหารงานของคุณ ถ้าคุณไม่ชัดเจนลูกน้องก็จะทำงานผิดพลาดอยู่เสมอ
  • ต้องรู้จักเป็นเจ้านายที่เป็นโค้ช มากกว่าเป็นผู้บริหารแบบทหาร
  • ต้องเริ่มทุกอย่างจากตนเอง ก่อนที่จะสั่งใครถามตัวเองด้วยว่าเข้าใจสิ่งที่จะสั่งและสามารถทำได้หรือไม่
  • ต้องสนใจทุกรายละเอียดขององค์กร เรื่องเล็กๆน้อยๆของลูกน้องอย่าคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญในทางกลับกันสิ่งที่มองว่าเล็กน้อยเหล่านั้นกลับเป็นเรื่องที่สำคัญที่อาจเป็นเปลี่ยนองค์กรธุรกิจของคุณได้เลยทีเดียว
  • ต้องรู้จักใช้พระเดชพระคุณ อย่าบ้าอำนาจ แนะนำตักเตือนเมื่อผิดพลาด ชื่นชมและตอบแทนด้วยรางวัลที่สมน้ำสมเนื้อเมื่อเขาทำดี
  • ต้องรู้จักให้กำลังใจและสร้างพลังใจให้กับลูกน้องอยู่เสมอ