หากเราถามคุณว่าทำไมถึงอยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตนเอง เชื่อแน่ว่าคำตอบก็น่าจะมีอยู่หลากหลาย บางคนอาจจะเบื่องานประจำเลยอยากเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ถ้าเป็นรุ่นใหม่เลยอาจจะไม่ชอบงานประจำเลย จึงอยากเริ่มต้นชีวิตด้วยการลงผิดลองถูกกับการทำธุรกิจส่วนตัวไปให้รู้แล้วรู้รอด บางคนอยากเป็นนายตัวเอง บางคนมีสิ่งประดิษฐ์บางอย่างและอยากสำรวจว่ามีวิธีไหนบ้างที่ทำให้มันกลายเป็นธุรกิจส่วนตัวขึ้นมาได้จริง บางคนมีแนวคิดที่สามารถช่วยให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นและอยากรู้ว่าคนอื่นๆ จะสนใจแนวคิดนั้นหรือไม่ แต่ละคนก็มักจะมีความคิดในเรื่องนี้แตกต่างกันออกไปตามความต้องการลึกๆของตนเอง แต่แท้ที่จริงแล้วคุณรู้หรือไม่ว่าคุณต้องการสร้างธุรกิจขึ้นมาเพราะอะไรกันแน่
3 กลุ่มเหตุผลในการสร้างธุรกิจที่จะทำให้คุณ “ปัง” อย่างที่หวัง
1.มีแนวคิด : คุณผุดแนวคิดแปลกใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้นและคุณก็อยากทำให้มันกลายเป็นจริง
2.มีเทคโนโลยี : คุณคิดค้นเทคโนโลยีที่เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญขึ้นมาได้และอยากทำเงินจากมัน หรืออยากหาทางให้มันถูกนำไปใช้เร็วขึ้นเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคม อีกกรณีหนึ่งคือคุณรู้มาว่ามีเทคโนโลยีใหม่ถือกำเนิดขึ้นและเล็งเห็นโอกาสที่จะนำไปสร้างเป็นธุรกิจได้
3.มีไฟ : คุณเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองและอยากพัฒนาตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณอาจเชื่อด้วยว่าการเป็นผู้ประกอบการคือหนทางที่สามารถสร้างผลกระทบให้กับโลกได้มากที่สุด หรือไม่คุณก็รู้แค่ว่าอยากเป็นนายตัวเองและกุมชะตาชีวิตของตนเอง แต่ยังไม่มีแนวคิดหรือเทคโนโลยีในตอนนี้ จึงอยากเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างธุรกิจไปพลางๆระหว่างที่กำลังมองหาแนวคิด เทคโนโลยี หรือ หุ้นส่วนที่เหมาะสม
คำถามก็คือว่า คุณอยู่ในกลุ่มไหน ? เราอยากให้คุณลองจัดกลุ่มตัวเองดูก่อนที่คิดจะเริ่มสร้างธุรกิจ ถ้าคุณตั้งต้นจัดกลุ่มตัวเองได้ถูกต้องคุณก็จะพบหนทางที่คุณจะเดินไปสู่เป้าหมายของคุณได้ถูกต้อง แต่ถ้าคุณไม่จัดอยู่ใน 3 กลุ่มนี้เลย ก็คงต้องถามตัวเองอีกครั้งว่าจะทำธุรกิจจริงหรือ? เพราะโอกาสที่จะประสบความสำเร็จน้อยมากเลยนะ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องถอยกลับมาสักก้าวแล้วสร้างปัจจัยในตัวเองให้เข้ากับทั้ง 3 กลุ่มนี้ให้ได้
รู้จักตัวเองให้จริงถึงจะสร้างธุรกิจได้
ในวงการธุรกิจมักมีคำพูดถึงอยู่เสมอนั่นคือ การทำธุรกิจต้องตั้งต้นจาก “ปัญหาของลูกค้า” ซึ่งหมายถึงเรื่องที่กวนใจใครบางคนจนถึงขั้นที่เขาจะยอมควักจ่ายหากมีบางอย่างมาช่วยบรรเทาปัญหาได้ อย่างไรก็ตามความเชื่อดังกล่าวอาจทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับการเป็นผู้ประกอบการถอดใจไปเสียก่อน แถมมันยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับค่านิยม ความสนใจ และความเชี่ยวชาญของตัวผู้ประกอบการเองอีกด้วย เพราะมัวแต่ไปคิดที่จะทำสิ่งที่ตอบสนองลูกค้าโดยลืมไปว่าสิ่งที่จะทำนั้นตัวเองก็ไม่ได้ถนัด แต่แนวคิดนี้ก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจได้เช่นกันแต่คุณต้อง “อึด” จริงๆ ถือจะทำได้แล้วไปรอด
ไม่ว่าคุณจะสนใจเรื่องการสร้างธุรกิจด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอให้คุณเริ่มต้นด้วยการตอบคำถามว่า “อะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ดีและยินดีที่จะทำไปนานๆ” การตอบคำถามดังกล่าวก็เท่ากับคุณเริ่มก้าวไปบนเส้นทางของการค้นหาปัญหาของลูกค้าแล้วมันจะเป็นปัญหาที่คุณอยากช่วยหาทางบรรเทา เพราะมันสอดคล้องกับความสนใจและความเชี่ยวชาญของตัวคุณเอง
summary
|