คุณจะรู้หรือไม่ว่า 9 ใน 10 ของคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจในยุคใหม่นี้มักจะไปไม่รอด และมากกว่า 50 % ของธุรกิจที่ตั้งใหม่ในปัจจุบันประกอบการทำธุรกิจได้ไม่ถึง 4 ปีเท่านั้น อะไรที่ทำให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องที่น่ากลัวและยากขนาดนั้น ถ้าคุณอยากรู้ เราขอนำ 9 สาเหตุที่ทำให้การทำธุรกิจ “พัง” อย่างไม่เป็นท่ามาบอก

1.เริ่มต้นทำธุรกิจแบบไม่รู้ถึงใจตัวเอง

     บางทีคุณคิดแค่ว่าคุณอยากทำธุรกิจ แต่จริงๆแล้วคุณไม่อยากทำหรอก คุณแค่อยาก “รวย” แต่เรื่องของการทำธุรกิจนั้นไม่ใช่แค่เรื่องรวยจน แต่มันเป็นเรื่องของใจ ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยความต้องการทางใจอย่าง 100 % คุณก็จะพร้อมทุ่มเท แรงกายแรงใจ ไม่ว่าจะมองมาเป็นอย่างไร คุณก็จะไม่ย่อท้อถอดใจและพยายามจะหาทางแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น แต่ถ้าคุณไม่มีใจมาตั้งแต่ต้น แค่ต้องการอยากทิ้งชีวิตมนุษย์เงินเดือนอันหน้าเบื่อแล้ว มาหาความเป็นอิสระและความรวยแบบที่เป็นตัวเอง บอกเลยว่าคุณพลาดตั้งแต่ก้าวแรกแล้วล่ะ

2.ไม่รู้คุณสมบัติและขีดความสามารถของตนเอง

     การทำธุรกิจนั้นใช่ว่าจะเหมาะสมกับทุกคนหรือทุกคนจะทำได้ ถ้าคุณขาดวินัย ขาดความเอาใจใส่เรื่องเงินทอง รายรับรายจ่าย ไอเดียสร้างสรรค์จนถึงไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันและความเครียดได้ การทำธุรกิจก็ไม่เหมาะกับคุณ เพราะขีดความสามารถคุณจำกัดเกินไป หากยังดันทุรังทำก็จะมีแต่ผลเสีย ขาดทุนแน่นอน

3.พูดอย่างเดียวแต่ทำไม่ได้

MSA13_DigMmt18     เรื่องของการทำธุรกิจทฤษฎีและหลักการดีอย่างเดียวไม่ได้ช่วยอะไร คุณต้องทำให้เห็นจริงได้เท่านั้นถึงจะมีประโยชน์ อย่าลืมว่ากำไรคือของจริง และขาดทุนถึงขั้น “เจ๊ง” ก็เป็นของจริงเช่นกัน การเป็นผู้ประกอบการไม่ใช่การเป็นหัวหน้าที่เอาแต่สั่ง แต่การทำธุรกิจคือการลงมือทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง

4.ทระนงตนคิดว่าแน่

     ความมั่นใจกับความทระนงตนนั้นผิดกัน แน่นอนทำธุรกิจต้องมีความมั่นใจเป็นที่ตั้ง แต่ถ้ามั่นใจเกินไปก็จะทำให้กลายเป็นทระนงตนไม่ฟังใคร คิดว่าแน่ และส่วนมากคนที่มีความคิดแบบนี้ก็มักจะไปไม่รอดกับการทำธุรกิจทั้งนั้น

5.ไม่ยอมรับฟังผู้อื่น

     การทำธุรกิจเป็นเรื่องของการติดต่อสื่อสาร การปฏิสัมพันธ์และการประนีประนอมทำความเข้าใจ จะซื้อขายก็ต้องมีการตกลงซื้อขาย ตกลงราคา ดังนั้น ทำธุรกิจไม่เรื่องของคนๆเดียว คิดเองเออเอง แล้วจะสำเร็จได้ ทุกความคิด ทุกคำพูด ทุกความเห็นสามารถเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจได้เสมอ ฉะนั้นการรับฟังความคิดเห็น คำตักเตือนทักท้วงของผู้อื่นบ้างน่าจะเป็นเรื่องดี หลายคนที่ไม่ยอมฟังใครตัดสินใจพลาดจนธุรกิจพังก็มีมากมายให้เห็นอยู่เสมอ

6.ยึดติดกับความสำเร็จที่ผ่านมามากเกินไป

     คุณอาจเคยทำธุรกิจหนึ่งมาแล้ว ประสบความสำเร็จอย่างดี แต่ถ้ามาทำธุรกิจที่ 2 ไม่แน่เสมอไปว่ามันจะประสบความสำเร็จเหมือนครั้งแรก ใครที่ยึดติดกับความสำเร็จในครั้งแรกมากเกินไปมักจะทำให้ประมาทชะล่าใจ คิดว่าธุรกิจที่สองก้ง่ายๆเหมือนธุรกิจแรก เรื่องจริงไม่ใช่เช่นนั้นหรอก ขนาดในธุรกิจเดิมเพียงแค่ขยายสาขาเป็นสาขาสองยังพังมาแล้วหลายราย

7.คิดกังวลกับคู่แข่งอยู่ร่ำไป

WindowsBusiness_Overview_1920_MWF_4expanded_Hero_img     ซุนวูกล่าวว่า “รู้เขาและรู้เรา รับร้อยก็ชนะ” จริงอยู่การทำธุรกิจก็เป็นเช่นนั้น การมองดูและติดตามเรียนรู้คู่แข่งเป็นเรื่องจำเป็นต่อการทำธุรกิจ แต่การติดตามก็ต้องระวังอย่าให้ตัวเองลงไปกังวลกับสิ่งที่คู่แข่งทำ จุดยืนที่ต่างกันย่อมส่งผลต่อมุมมองที่ต่างกันด้วย ไม่ว่าคู่แข่งจะแข็งแกร่งเหนียวแน่นพลิกเกมอย่างไร อย่าไปหวั่นไหว รักษาจุดยืนและที่มั่นของเราไว้ แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็จะดีเอง

8.เฝ้ารอไม่เป็น

     ธุรกิจเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส เมื่อคุณลงทุนไปแล้ว ไม่แน่เสมอไปที่จะได้ลูกค้า ได้กำไรในเร็ววัน หลายๆครั้งที่การทำธุรกิจเป็นการรอคอยที่แสนยาวนาน เจ็บแล้วเจ็บอีกกว่าจะได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่า คนที่ใจร้อนรอไม่ได้จึงมักจะพังกับการทำธุรกิจก็เพราะรอจังหวะและโอกาสไม่เป็นนั่นเอง

9.กลัวไอเดียถูกขโมย

127-validate-business-idea     หลายคนมีความคิดดีๆ ไอเดียสร้างสรรค์เพียบ แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจลงมือทำ การทำธุรกิจเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความกล้า กล้าได้กล้าเสีย ถ้ามัวแต่กลัวว่าไอเดียดีๆจะถูกคนลอกเลียนแบบและเอาไปทำจนรวยกว่า ถ้ามีความคิดแบบนี้อยู่ก็พังแน่นอน โลกธุรกิจเป็นโลกที่ต้องช่วงชิง ใครมาก่อนย่อมได้ก่อน ถ้าคุณคิดได้ก่อนแต่ไม่ลงมือทำ สู้อยู่เฉยไม่คิดเลยจะดีกว่าไม่ได้

     รู้สาเหตุที่จะมาทำให้การเริ่มต้นทำธุรกิจของคุณแบบนี้แล้ว เลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะ อะไรที่ตรงกับคุณก็ต้องรีบแก้ไข แล้วรับรองเลยว่าเส้นทางการทำธุรกิจของคุณจะสดใสมั่นคงมากยิ่งขึ้น