Brand storytelling | แบรนด์น้ำแร่เอเวียง
ที่ประเทศฝรั่งเศส ราวปีค.ศ.1789 อันเป็นช่วงที่ประเทศฝรั่งเศสมีการปฏิวัติครั้งใหญ่ Marquis de Lessert หรือ เลสเสิร์ท ขุนนางผู้หนึ่ง (Marquis เป็นตำแหน่งของขุนนางในยุโรป) เขาได้หลบลี้หนีภัยสงครามไปที่เมืองเอเวียง (Evian les Bains) เพราะด้วยเขาป่วยเป็นโรคนิ่วในไตมาสักพักใหญ่ๆแล้ว การรักษาตัวอยู่ในเมืองใหญ่ที่กำลังเกิดสงครามจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เขาจึงขอหลบมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆอันเงียบสงบในเอเวียง เลสเสิร์ทพยายามรักษาตัวเองอยู่มี่นี่มาสักระยะหนึ่งแล้วแต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เขาเริ่มท้อใจ และคิดว่าชีวิตคงจะจบลงในไม่ช้า
แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์มาโปรด เมื่ออยู่มาวันหนึ่ง ชาวบ้านในหมู่บ้านเล็กของเอเวียงนั้น ได้แนะนำเขาว่าให้ลองไปดื่มน้ำจากใต้ดิน จากบ่อบาดาลใกล้ๆหมู่บ้านดู บ่อนั้นเป็นบ่อน้ำแร่ผุดที่ชื่อคาซ่า(Cachat) เพราะบ่อน้ำนั้นเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มแล้วจะดีต่อร่างกาย ใครป่วยก็จะหาย ใครที่ไม่ป่วยก็จะยิ่งแข็งแรง เลสเสิร์ทคิดว่าตัวเขารักษาตัวมานานแล้วเปลี่ยนหมอมาก็หลายคนแต่อาการของโรคก็ไม่ได้ดีขึ้น เมื่อมีไม่อะไรจะเสียอยู่แล้วจะดื่มน้ำที่ชาวบ้านบอกสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
เลสเสิร์ท เดินทางไปที่แหล่งน้ำนั้น และก็ลองนำน้ำจากบ่อน้ำแร่ผุดนั้นขึ้นมาดื่ม และเขาก็ลองทำแบบนี้หลายวันติดต่อกัน หลังจากนั้นไม่นาน เลสเสิร์ทก็ต้องพบกับความประหลาดใจเพราะว่าเขารู้สึกว่าอาการของเขาดีวันดีคืนขึ้นเป็นลำดับ เลสเสิร์ทรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นไปได้ หมู่บ้านเล็กๆในเมืองเอเวียงมีสิ่งล้ำค่าขนาดนี้อยู่ได้อย่างไรเขาจึงเริ่มค้นคว้าศึกษาหาความลับที่ซ่อนอยู่ในน้ำใต้ดินของหมู่บ้านเอเวียง และเขาก็ค้นพบจุดเด่นของน้ำแร่ที่เอเวียงว่ามี 2 อย่าง อย่างแรกคือ
- น้ำแร่ที่นี่กรองผ่านชั้นหินต่างๆ เป็นเวลากว่า 15 ปีจนเรียกว่าเป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
- น้ำที่มาจากแหล่งน้ำแห่งนี้นั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติมากมาย จึงเป็นการสะสมพลังแห่งธรรมชาติเอาไว้
เมื่อชาวบ้านได้พบเห็นว่าเลสเสิร์ทมีอาการดีขึ้น หายป่วยแล้ว พวกเขาจึงเข้าไปถามว่า เลสเสิร์ท ไปรักษาด้วยยาอะไรมา เลสเสิร์ทจึงประกาศกับชาวบ้านทุกคนว่า “น้ำศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ช่วยชีวิตเขาไว้” ในน้ำนั้นมีสิ่งดีๆมากมายที่ดีต่อร่างกาย ทำให้เขาหายป่วยได้นั่นเอง เมื่อคนระดับขุนนางเป็นชนชั้นนำในสังคมกล่าวเช่นนี้ ระดับชาวบ้านไม่ต้องพูดถึง ที่ไม่เคยเชื่อก็เชื่อทันที ส่วนที่เชื่ออยู่แล้วก็ยิ่งศรัทธาเข้าไปใหญ่ สรรพคุณของของน้ำแร่เอเวียงอันศักดิ์สิทธิ์ราวกับยาแห่งทูตสวรรค์ได้ถูกเผยแพร่ออกไป จากหมู่บ้านนี้ไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง และแพร่กระจายไปเรื่อยๆ ทำให้มีผู้คนจากทั่วสารทิศที่ได้รับทราบเรื่องนี้เดินทางมาที่เอเวียงทันที
นั่นทำให้ชายที่แนะนำให้เลสเสิร์ทให้ไปดื่มน้ำแร่เอเวียงเป็นคนแรกนั้น เกิดไอเดียในการทำธุรกิจส่วนตัวขึ้นมา เพราะเขาเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณน้ำแร่ผุดคาซ่าพอดี เขาจึงเกิดแนวคิดใส ๆ นำธรรมชาติมาสร้างรายได้ เขาเริ่มนำน้ำแร่นั้นมาขายโดยไม่ลืมเพิ่มสรรพคุณอันน่าเชื่อถือเข้าไปในผลิตภัณฑ์ของเขาด้วยว่า
นี่ไม่ใช่น้ำธรรมดานะ แต่เป็นยารักษาโรคได้
ไม่เพียงนำมาขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เขายังสร้างแบรนด์น้ำแร่ขึ้นมาด้วยในชื่อ “คาซ่า สปริง” (Cachat Sping) และในเวลาต่อมากิจการก็เปลี่ยนมือไปยังผู้อื่น ในปี ค.ศ.1878 รัฐบาลฝรั่งเศสมองว่า นี่คือธุรกิจที่น่าสนใจ เป็นสินค้าที่สามารถส่งออกและทำรายได้ รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้ ทางรัฐบาลฝรั่งเศสจึงอนุญาตให้มีการนำออกขายอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อแบรนด์ น้ำแร่เอเวียง(Evian) และกลายเป็นแบรนด์น้ำแร่ยี่ห้อแรกของโลก ที่ถูกผลิตออกมาขายเป็นสินค้า เอเวียงเติบโตขึ้นจนกลายเป็นธุรกิจการค้าน้ำแร่ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ก็เพราะเรื่องราวที่เล่าขานต่อกันมาจนเหมือนเป็นตำนานเรื่องนี้
ปัจจุบัน น้ำแร่เอเวียง เป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของบริษัท Danone ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านธุรกิจอาหารของฝรั่งเศส น้ำแร่เอเวียงอยู่ในกลุ่มของสินค้าประเภทน้ำดื่มบรรจุขวด สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทนี้ถึง 21,900 ล้านยูโร หรือราว 851,253 ล้านบาท หรือราว 21% ของรายได้ทั้งหมด/ปีของกิจการทั้งหมด