ธุรกิจที่ลูกค้าต้องใช้เวลาตัดสินใจซื้อ ควรวางแผนทำ Storytelling อย่างไรดี

สำหรับธุรกิจที่ลูกค้าไม่ได้ซื้อเดี๋ยวนี้ ต้องคิดสักพักถึงจะตัดสินใจ จะวางแผนทำ Storytelling แบบไหนอย่างไรดี ถึงจะทำให้สุดท้ายแล้ว ลูกค้าเลือกเรา

content-storytelling-for-not-direct-response

ในโลกของการทำธุรกิจนั้นสินค้าจะแบ่งหลักๆออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบที่ตัดสินใจซื้อได้เดี๋ยวนี้เลย กับแบบที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าและบริการที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้คนตัดสินใจซื้อเดี๋ยวนี้ได้เลย การวางแผนเรื่องการ Storytelling หรือเล่าเรื่องสินค้าและบริการของตนเองอาจจะไม่ยากมากนัก พยายามเล่าเรื่องกระตุ้นให้เกิดความน่าสนใจและดึงดูดมากขึ้นกว่าเดิม เสริมด้วยการนำเสนอขายที่ดี การปิดการขายก็ไม่ยากนัก แต่สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ลูกค้าไม่ต้องซื้อเดี๋ยวนี้ ต้องตัดสินใจก่อนซื้อล่ะ ควรจะ Storytelling ธุรกิจตนเองไปแบบอีกกลุ่มหรือเปล่า หรือควรวางแผนทำContent Marketing อย่างไรดี เรามีคำแนะนำมาให้

 

คอนเทนต์ของคุณควรเน้นเรื่องการรับรู้

ถ้าสินค้าและบริการของคุณเป็นกลุ่มที่ลูกค้าต้องตัดสินใจสักพักใหญ่ๆก่อนจะตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ คุณควรเน้นการเล่าเรื่องเพื่อให้เกิดการรับรู้ที่มากขึ้น(Product / Brand Awareness) หรือให้เกิดการรับรู้ในสินค้าและบริการ  หรือให้เกิดการรับรู้ในแบรนด์ธุรกิจให้มากขึ้น คุณจะต้องวางแผนทำ Content Marketing ในระยะยาว ค่อยๆ Storytelling  สินค้าหรือแบรนด์ของคุณไปอย่างอดทน เมื่อลูกค้าต้องใช้เวลาตัดสินใจ คุณเองก็จะต้องให้เวลากับพวกเขา แต่ต้องกระตุ้นเขาด้วยการหาคอนเทนต์มาเล่าให้พวกเขาได้รับรู่อยู่เรื่อยๆ การ Storytelling อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คนได้รับรู้ว่าแบรนด์มีตัวตนอยู่ แบรนด์นี้มีสินค้าอะไร เรายังทำธุรกิจนี้ คุณอยากซื้อเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาได้

 

Storytelling-for-awareness

การทำเช่นนี้แม้ต้องใช้เวลาก็ตาม แต่การที่คุณขยัน Storytelling ก็จะเป็นข้อดีที่ทำให้แบรนด์หรือธุรกิจคู่แข่งไม่สามารถแย่ง Top of Mind ของลูกค้าไปจากเราได้ เรียกง่ายๆว่าเราต้องคอยเล่าเรื่องอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

 

Storytelling เพื่อเน้นความเชื่อมั่น

การเล่าเรื่องไม่ได้ช่วยทำให้คนรู้จักเราเท่านั้น แต่ถ้าคุณเล่าเรื่องของตนเองได้ดี ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณได้ด้วย เพราะการ Storytelling นั้นธรรมชาติแล้วจะช่วยสร้างบุคลิกให้กับแบรนด์อยู่แล้ว ถ้าคุณเล่าเรื่องอยู่เสมอๆ ความต่อเนื่องจะช่วยสร้างบุคลิกให้กับแบรนด์ ถ้าเล่าได้ลึกมีความละเอียด ก็จะยิ่งสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพให้กับแบรนด์ ลูกค้าก็จะยิ่งเห็นความชำนาญจนก่อเกิดความมั่นใจสำหรับพวกเขามากขึ้น และเมื่อพวกเขามั่นใจในท้ายที่สุดจึงตัดสินใจที่จะเลือกซื้อกับเรานั่นเอง

 

ทำคอนเทนต์ที่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าเดิม

การ Storytelling ไม่ใช่เทคนิคที่จะใช้แค่การหาลูกค้าใหม่ หรือใช้กระตุ้นการปิดการขายเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือลูกค้าได้ด้วย อย่างบางธุรกิจที่ต้องให้ลูกค้าเช่าใช้สินค้า หรือ จ่ายบริการรายเดือน/รายปี การต่ออายุของลูกค้ามีผลต่อธุรกิจ บางครั้งลูกค้ามีปัญหาบางประการเกี่ยวกับความสะดวกสบายหรือติดขัดบางประการจากสินค้าหรือบริการของเรา การนำคอนเทนต์แบบ Storytelling ดีๆไปแนะนำเขา ให้พวกเขาเข้าใจได้มากขึ้นถึงข้อจำกัดปัญหาต่างๆก็สามารถช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการต่อไปได้เหมือนกัน คือเหมือนเป็นการให้ความรู้หรือให้ทางออกกับเขา โดยที่เราไม่ได้นำเสนอตรงๆแต่เป็นการนำเสนอผ่านเรื่องเล่าแบบง่ายๆเป็นกันเอง เข้าใจง่ายไม่เป็นทางการเกินไป ซึ่งลูกค้าไม่ชอบอะไรที่ยากๆหรือซับซ้อนอยู่แล้ว เทคนิคการเล่าเรื่องจึงช่วยในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเลยนั่นเอง

 

storytelling-fix-a-problem-customer-pain-point

นี่คือ คำแนะนำในเรื่องการทำContent Marketing แบบ Storytelling สำหรับธุรกิจในกลุ่มที่ลูกค้าจะต้องตัดสินใจซื้อไม่ได้ซื้อเดี๋ยวนี้ทันที จะเห็นว่าจริงๆก็ไม่ได้ยากมากนักที่จะทำ เพียงแต่จะต้องอดทนทำอย่างสม่ำเสมอ และอย่าเหนื่อยหน่ายกับการทำ เมื่อสินค้าและบริการของเราต้องรอเวลาที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ เราก็ใช้เวลาตรงนั้นให้เป็นประโยชน์ค่อยๆทำไปเล่าเรื่องไปเรื่อยๆรับรองวันหนึ่งลูกค้าต้องเปลี่ยนใจมาเลือกเราอย่างแน่นอน