จะลงทุนโฆษณาสินค้าต้องรู้อะไรก่อน

Importance-of-Creative-Advertising-and-Marketing

การโฆษณาสินค้า ด้วย Content Marketing ในวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ไกลตัวอีกต่อไปแล้ว ใครๆก็สามารถเป็นเจ้าของ Facebook Page สามารถทำโฆษณาสินค้าด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆในแบบที่คุณชอบหรือเป็นตัวตนของธุรกิจคุณได้ โดยทั้งหมดนี้ภาพรวมนักการตลาดจะเรียกว่า Digital Marketing แต่เชื่อไหมครับจากการที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้และสัมผัสเกี่ยวกับเรื่อง Digital Marketing หรือนิยามแบบบ้านๆ ก็เอาเป็นว่าเป็นเรื่องการตลาดออนไลน์ก็แล้วกัน ผมพบว่า คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจเก่า หรือผู้ประกอบการใหม่ที่กำลังจะสร้างแบรนด์ กว่า 80% ต่างเข้าใจว่า Digital Marketing หรือ เจ้าการตลาดออนไลน์นี้คือ การทำเว็บไซต์ การซื้อ Banner การทำโฆษณาสินค้าหรือโฆษณาแบรนด์กับ Facebook รวมไปถึงการทำ SEO ด้วย

คำถามก็คือ เข้าใจแบบนี้แล้วมันผิดไหมอ่ะ คำตอบก็คือ ไม่ผิดครับ เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คือ การตลาดออนไลน์ เป็นการทำ Content Marketing ทั้งนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่ง Engagement สูงๆ ทั้งยอดวิว ยอด like ยอด Follow สูง ตัวเลขเหล่านี้มีสูงแล้วไม่ดีหรือไง ดีครับ ถ้าคุณต้องการแบบนั้น แต่ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการคุณก็ต้องเลือกนะครับว่า จะเอาตัวเลขEngagement สูง หรือจะเอาตัวเลขยอดขายสูง

คนทำธุรกิจทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม ก็ล้วนต้องการ “ยอดขาย” และการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน นี่คือ วัตถุประสงค์หลักทางธุรกิจ แต่วิธีการที่จะทำให้ได้มาซึ่งยอดขายที่ดีและได้ความพึงพอใจของลูกค้า ไม่สามารถที่จะหามาได้จากการโฆษณาสินค้าผ่าน Facebook หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆเสมอไป อาจจะทำได้บ้างแต่ก็คงไม่ตลอดไป (ก็ Facebook เขาเล่นเปลี่ยนแปลงกฎอยู่เสมอแบบนี้นี่นะ) ฉะนั้นเจ้าของธุรกิจเช่นคุณคงต้องวางแผนกันใหม่

สิ่งที่เจ้าของธุรกิจทุกท่านต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะลงทุนควักกระเป๋าจ่ายไปกับการโฆษณาสินค้า ก็คือ กระบวนการตัดสินใจของลูกค้า ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของคุณ เพื่อที่คุณจะได้เลือกใช้เครื่องมือหรือกลยุทธ์การตลาดได้ถูกต้องและได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดี และสิ่งที่คุณจะต้องเข้าใจให้ดีหน้าที่ของก็คือ Content Marketing

คนทำธุรกิจหลายคนยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับ 3 สิ่งนี้อย่างสับสนปนเป นั่นคือ

  • การโฆษณาสินค้า & PR
  • Content Marketing
  • แคมเปญ & โปรโมชั่น

ดังนั้นผมจึงอยากให้ทุกท่านพิจารณาเรื่องนี้กันอีกสักครั้ง

ซึ่งคุณจะเห็นว่ากระบวนการที่มีความเข้าไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับลูกค้ามากที่สุด ก็คือ กระบวนการของ Content Marketing แต่ผู้ประกอบการหรือคนทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะลงทุนและหมดเงินไปกับ การโฆษณาสินค้า & PR และก็กระโดดข้ามมาอาจจะมีการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกับสินค้าของตนเองบ้าง และก็นั่งรอนอนรอ ให้เกิดยอดขาย ซึ่งนั่นก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะกระบวนการที่คุณใช้แทบไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการตัดสินใจของลูกค้าเลย เหมือนกับว่า “ประกาศให้เขารู้ เสร็จแล้วก็บอกให้เขาซื้อ” แค่นั้น แต่กับ Content Marketing แล้วไม่ใช่แบบนั้น

ดังนั้น ผมจึงอยากจะแนะนำทุกท่านว่าแทนที่คุณจะเสียเงินลงทุนมหาศาลไปกับการโฆษณาสินค้าเฉยๆคุณน่าจะลองเปลี่ยนมาเป็น การลงทุนกับทำ Content Marketing น่าจะดีกว่า ซึ่งการทำ Content Marketing คุณก็จะได้ทำการโฆษณาสินค้า ไปในตัวด้วย

The_character_content_marketing

ถ้าคุณดูจากภาพข้างบน และยิ่งเป็นการทำ content แบบ story telling ก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะ story telling สามารถที่จะช่วยทั้ง โฆษณาสินค้า และ สร้างแคมเปญ & โปรโมชั่น ไปให้กับแบรนด์และสินค้าให้กับคุณได้ในเวลาเดียวกัน การสร้างเรื่องราว การเล่าเรื่อง สามารถทำให้ลูกค้า “in” ไปกับ content แบบ story telling ของคุณได้ง่าย การจะสอดแทรกลูกเล่นหรือแคมเปญ & โปรโมชั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ และทำให้คุณปิดยอดขายได้ ก็จะสามารถทำได้ง่ายและเกิดความแนบเนียนขึ้น ไม่เป็นการยัดเยียดผู้บริโภคจนเกินไป เพราะผู้บริโภคในวันนี้ มักไม่เต็มใจที่จะอ่านบทความโฆษณาทั้งเรื่อง แต่พวกเขายินดีที่จะอ่านเรื่องราวที่มีคุณค่า สนุกสนาน ให้ความรู้ ความเพลิดเพลิน โดยมีการโฆษณาสินค้าหรือแบรนด์สอดแทรกลงไปแบบสั้นๆในบทความ สิ่งเหล่านี้ผู้บริโภคยังยอมรับได้ และรู้สึกไม่รบกวนจิตใจพวกเขา แต่ในขณะที่พวกเขาไม่รู้ตัวนั้น ชื่อแบรนด์ หรือ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์คุณ ก็เข้าไปอยู่ในโสตประสาทของผู้บริโภคแล้ว พวกเขาอาจจะยังจำไม่ได้ในครั้งแรกก็ไม่เป็นไร แต่พอเขาเห็นครั้งที่สองหรือสาม เขาก็จะซึมซับความเป็นแบรนด์ของคุณลงไป และในวันหนึ่งเขาอาจเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์คุณโดยที่เขาอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะเปย์จ่ายเพื่อการลงทุนโฆษณาสินค้าหรือแบรนด์ของคุณ เลือกให้ดีว่าลงทุนกับอะไรถึงจะคุ้มค่าสำหรับคุณ