ธุรกิจออนไลน์เป็นธุรกิจที่อิงกับการสร้างอิมเมจมากๆ ยิ่งเป็นธุรกิจแฟชั่นก็ยิ่งต้องอิงกับอิมเมจ ฉะนั้นเราต้องคิดตั้งแต่ว่าไม่ใช่แค่โปรดักต์ดี แต่ต้องคิดวิธีพรีเซนต์ให้แตกต่างจากคนอื่น
คำกล่าวข้างต้นเป็นคำกล่าวของ ต้า – รรินทร์ ทองมา เจ้าของแบรนด์ O&B แบรนด์กระเป๋าและรองเท้าที่โด่งดังและฮิตกันอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ คุณต้าเธอคือสาวดีกรีนักเรียนนอกอันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความมั่นใจในตัวเองเสมอ การเป็น SME เจ้าของธุรกิจกระเป๋าและรองเท้าที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ใช่ว่าเธอจะไม่เคยล้มเหลว เส้นทางของการเริ่มธุรกิจเธอล้มลุกคลุกคลานมาไม่น้อย แต่ทว่าที่เราเห็นเธอสร้างแบรนด์ O&B ให้โด่งดังได้ทุกวันนี้ใช่ว่าเธอจะมีตัวช่วยพิเศษที่เหนือกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่เธอพิเศษและเหนือกว่าคู่แข่งก็คือ “ใจ” ที่มุ่งมั่น หากจะบอกว่าการเริ่มธุรกิจภายใต้แบรนด์ O&B ของเธอมาจาก “ใจ” ล้วน ๆ ก็คงจะพูดได้ มาดูกันดีกว่าว่า เรื่องราวการสร้างแบรนด์ O&B จะมีที่มาที่ไปอย่างไรกันบ้าง
ก่อนจะ “ปัง”กับแบรนด์ O&B ก็ล้มเหลวมาถึง 2 ครั้ง
ธุรกิจกระเป๋าและรองเท้าหนังที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ภายใต้แบรนด์ O&B นี้ไม่ใช่ธุรกิจแรกที่คุณต้าทำ ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนเธอคือสาว Gen Y ทั่วไปที่มีความคิดเหมือนๆ กับคนใน Generation เดียวกัน คือไม่อยากทำงานออฟฟิศ จากการมุ่งมั่นไปคว้าดีกรีปริญญาโทจากอิตาลีจึงทำให้เธอมีความคิดและความมุ่งมั่นที่จะเป็น “เจ้านายตัวเอง” เธอจึงคิดที่จะสร้างธุรกิจของตัวเอง แต่เธอไม่มีทุนจึงเดินหน้าเข้าหาคุณแม่และขอทุนจากคุณแม่มา 200,000 บาท จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการเริ่มธุรกิจแต่ด้วยเพราะไม่มีประสบการณ์ จึงขาดความรอบคอบไม่สำรวจตลาด ไม่มีการทำ Researchและบวกกับความมั่นใจตัวเองเกินไปจึงทำให้ การบริหารงานในธุรกิจเสื้อผ้าเด็กเป็นไปอย่างไม่ค่อยจะราบรื่นนัก มีปัญหากับช่างตัดเย็บ ธุรกิจแรกนี้จึงไปไม่รอด แต่ด้วยความแน่วแน่ที่ตั้งไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปทำงานประจำแน่นอน จึงพยายามตั้งต้นใหม่อีกครั้งกับธุรกิจใหม่ก็คือ ธุรกิจกระเป๋าและรองเท้าภายใต้แบรนด์ O&B เธอรวบรวมเงินเก็บและหยิบยืมจากเพื่อนมาอีก 90,000 บาท การเริ่มธุรกิจใหม่จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอมีประสบการณ์ในความผิดพลาดมาบ้างแล้ว ทำให้เธอมีบทเรียนในการทำธุรกิจ โดยส่วนตัวแล้วคุณต้าเธอมีความสนใจในธุรกิจออนไลน์อยู่แล้ว ด้วยเพราะเธอได้เคยไปเรียนต่อต่างประเทศเธอจึงรู้ว่าเทรนด์ของโลกจะมีแนวโน้มไปมาอย่างไร เธอเริ่มศึกษาตลาด มีการทำResearch เธอทราบว่าขณะนั้นความฮิตในกระแสโซเชียลของคนไทยยังไม่เท่าทุกวันนี้ แต่แนวโน้มและทิศทางของกระแสโลกมาทางนี้แน่ซึ่งคนไทยเองก็ต้องได้รับอิทธิพลของกระแสโลกตรงนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว นั่นจึงทำให้ธุรกิจกระเป๋าและรองเท้าที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ภายใต้แบรนด์ O&B เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
แต่แน่นอนว่าถึงเธอจะพยายามปรับตัวอย่างไร เธอก็ยังขาดความเก๋าเกม ธุรกิจไปได้สวยในความคิดของเธอ เพียงแต่ว่าการบริหารงานของเธอยังขาดความเข้าใจในเรื่องของการทำธุรกิจอย่างถ่องแท้จึงทำให้ การบริหารงานของเธอเกิดความผิดพลาด จากการขาดทักษะความเข้าใจเรื่องการจัดสรรบัญชีและงบดุล การคาดการณ์ของเธอจึงผิด แต่ด้วยสัญชาตญาณของเธอที่รับฟังตัวเองส่วนหนึ่งและฟังเสียงผู้บริโภคอีกอย่างหนึ่ง ทำให้เธอมั่นใจเลยว่าแบรนด์ O&B ของเธอไปได้แน่ เพียงแต่เธอต้องปรับอะไรนิดหน่อย ในที่สุดเธอจึงหันมาศึกษาการบริหารงานในเชิงลึก เริ่มทำความเข้าใจเรื่องการจัดการบัญชีและงบดุลต่างๆ จนในที่สุดแบรนด์ O&B ก็มายืนอยู่ในจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จจนได้ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ต้องเรียกว่ามา “ใจ” ล้วนๆจริงๆ ถ้าใจไม่สู้เธอก็คงล้มเลิกไปแล้ว
การตลาดแบบแบรนด์ O&B ที่ Startup และ SME ไทยควรเอาแบบอย่าง
ถ้าย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว การตลาดในโลกออนไลน์ต้องเรียกว่าแตกต่างจากปัจจุบันกันพอสมควร ในช่วงนั้นการเริ่มธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์ต้องเน้นเรื่องของความน่าเชื่อถือเป็นหลัก การสร้างแบรนด์ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่อินเตอร์ คนถึงจะยอมรับ แต่ในปัจจุบันการซื้อขายและการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ถือเป็นเรื่องที่ปกติไปแล้ว ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดในตอนนี้ก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน คือ ต้อง “สร้างความแตกต่าง” ซึ่งความแตกต่างนี้ไม่ได้หมายถึงว่าต้องเปลี่ยนดำให้เป็นขาวอย่างหมดจด 100% แต่คุณจำเป็นที่จะต้องทำให้ผู้บริโภครับรู้ได้ถึงความต่าง
ความแตกต่างที่ต้องมีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์ แต่อาจจะเป็นเรื่องของการพรีเซนต์สินค้าที่แตกต่างจากคนอื่นก็ได้ อย่างการทำ Content ที่ดูว่าใหม่ทุกวันนี้ยังเชยไปแล้ว ตอนนี้ถึงจุดที่จะต้องใส่ไอเดียเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ Content มีความแตกต่างจากคนอื่นมากขึ้นด้วย สิ่งหนึ่งที่ทำให้ แบรนด์ O&B ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ก็เพราะการพรีเซนต์สินค้าที่แตกต่างจากคนอื่น อย่างการขายรองเท้าเจ้าอื่นอาจมีแค่ 5 สีมาตรฐาน แต่แบรนด์ O&B มาแบบจัดเต็ม 30 สีไปเลย และมีการขยายเพิ่มเป็น 50 สีอีกด้วย เพราะคุณต้ารู้ว่ากลุ่มลูกค้าแฟชั่นเป้าหมายของเธอคือผู้หญิง และเธอเองก็เป็นผู้หญิงจึงเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคผู้หญิงได้อย่างถ่องแท้ว่า “ผู้หญิงมักซื้ออะไรโดยไร้เหตุผล ใช้อารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ ในการเลือกซื้อ”การบริหารงานในธุรกิจนี้เธอจึงใช้ “ใจ” นำไป เอาความชอบส่งต่อไปถึงผู้บริโภคและนั่นก็ก่อให้เกิดความต่างในธุรกิจของเธอ นับเป็นกลยุทธ์การตลาดที่แปลกไม่เหมือนใคร เราจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใดแบรนด์ O&B จึงประสบความสำเร็จ นี่คือแบบอย่างที่เหล่า SME สามารถเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจและนำไอเดียไปปรับใช้ได้อีกด้วยนะ
summaryเคล็ดลับความสำเร็จในการทำธุรกิจสไตล์แบรนด์ O&B
|