จากสถานการณ์ที่ผ่านมาช่วง 2 – 3 เดือน แบรนด์ธุรกิจใหญ่ๆหลายแบรนด์ต่างมีการพลิกเกม ปรับกลยุทธ์การตลาดกันถี่ๆ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลายแบรนด์ใช้ brand story ที่ตนเองมีเป็นพลังผลักดันอยู่เบื้องหลัง ส่วนแบรนด์ธุรกิจใหม่ๆ หลายแบรนด์ก็ใช้กลยุทธ์นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว รอดูสถานการณ์ที่จะเป็นไป แต่แบรนด์อย่าง adidas ใช้กลยุทธ์ทั้งสองแบบเลย ด้วยตนเองรู้ดีอยู่แล้วว่า brand story ของตนเองมีพลังอยู่แล้ว แค่นำโลโก้ไปติดกับอะไรก็ทำให้เกิดเทรนด์ เกิดกระแสแฟชั่นและมีมูลค่าได้ไม่ยาก ล่าสุดพวกเขาจึงผลิตหน้ากากผ้าดีไซน์สปอร์ตออกมาจำหน่ายด้วยหลังจากที่หลาย ๆ แบรนด์ก็ได้ผลิตหน้ากากผ้าออกมาขายนำไปก่อนหน้านี้แล้ว
ย้อนกลับไปประมาณเดือนเศษ แบรนด์ธุรกิจชื่อดังหลายแห่งได้ทยอยกันปรับสายการผลิตให้เข้าไปเกาะติดกระแสโควิด ไม่ใช่เพียงเพื่อเหตุผลทางการตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการร่วมต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้ด้วย เมื่อหลายแบรนด์ลงมือทำ แถมบางเจ้ามีการเพิ่ม Storytelling ลงไปในผลิตภัณฑ์หน้ากากผ้าของตนเองผ่านโฆษณาไอเดียเก๋ๆ ด้วย ทาง adidas หนึ่งแบรนด์สปอร์ตที่เป็นเจ้าตำนานบทหนึ่งของการทำ brand story จะรอช้าอยู่ทำไม ล่าสุดจึงคลอด Product ใหม่เป็นหน้ากากผ้าภายใต้โลโก้ของตนเองออกมาบ้าง แต่ไม่ใช่แค่หน้ากากผ้าธรรมดา adidas บอกไว้เลยว่านี่เป็นหน้ากากผ้าที่มีการใส่นวัตกรรมพิเศษลงไปด้วย
หน้ากากผ้าของ adidas นั้นผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลและมีการผสมอีลาสเทน ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาผลิต 2 ส่วนนี้ได้มีการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยในการพัฒนา จนกลายเป็นหน้ากากที่มีเนื้อผ้าพิเศษ เนื้อสัมผัสจะนุ่มระบายอากาศได้ดีกว่าหน้ากากผ้าทั่วไป และสายคล้องหูก็ผลิตจากวัสดุอย่างดีที่มีความยืดหยุ่นสูง ตัวหน้ากากนี้สามารถซักล้างทำความสะอาดได้ โดยทาง adidas ออกแบบมาให้โดนใจสายสปอร์ตจึงทำออกมาเป็นสีดำและไม่ลืมที่จะประทับตราโลโก้ พร้อมแคปชั่นสะท้อน brand story ของตนเองว่า “WASH.DRY.REUSE” แม้จะเป็นการบอกว่า หน้ากากนี้ซักได้ ใช้ซ้ำได้ แต่ก็เป็นการสื่อสารออกไปกลาย ๆ ว่า adidas ใส่ใจต่อ สังคม ใส่ใจต่อโลกและสิ่งแวดล้อมเสมอนะ
ซึ่งหน้ากากผ้าของ adidas นี้วางจำหน่ายแล้วในสหราชอาณาจักร ในราคาอยู่ที่ประมาณ 15 ดอลล่าร์ หรือ ราว ๆ 480 บาท ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจะมีการนำไปบริจาคให้กับการกุศลเป็นการช่วยเหลือในกองทุน Save The Children เพื่อช่วยเหลือเด็กทั่วโลก
อาจมีคำถามว่า adidas ผลิตหน้ากากออกมาช้าเกินไปหรือเปล่า จริง ๆ ก็ไม่ใช่แบบนั้นเพราะก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา adidas ได้มีการส่งสินค้าเกาะกระแสของตนเองออกมาแล้ว โดยได้มีการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Carbon บริษัทรับผลิตพื้นรองเท้าแบบ 3D ทั้งสององค์กรได้ร่วมกันทำ Face Shield เพื่อมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์มาแล้ว ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า adidas ปรับตัวปรับกลยุทธ์เก่งมาก สามารถที่จะสอดแทรก brand story ของตนเองลงไปในทุกสถานการณ์และทุกผลิตภัณฑ์ได้อย่างแนบเนียนจริง ๆ เพราะ brand story มีพลังในการสื่อสารกับผู้บริโภคเสมอ นี่จึงเป็นไอเดียจากแบรนด์ใหญ่ที่เรานำไปปรับประยุกต์ใช้กันได้
ภาพปกจาก : adidas.com
