หากใครที่ทำธุรกิจอยู่ในสายแฟชั่น หรือ เป็นคนที่ชอบใส่ยีนส์แนวแฟชั่นละก็ เชื่อว่าน่าจะรู้จักกับแบรนด์ DIESEL กันเป็นอย่างดี เพราะแบรนด์นี้นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่ดีไซน์ยีนส์ได้มีสไตล์แตกต่างแล้ว ยังมีความกล้าบ้าบิ่นอีกหลายเรื่องในตัวเอง เรียกว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีจุดขายในแบบที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ และล่าสุด พวกเขาขอตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์อีกครั้งว่า DIESEL จะเป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่ทำออกมาเพื่อคนทุกกลุ่ม ซึ่งนั่นหมายรวมถึงกลุ่มคนหลากหลายทางเพศด้วย ล่าสุดพวกเขาจึงผุดงานโฆษณา Storytelling ขึ้นมาหนึ่งชิ้นที่ช่วยตอกย้ำอุดมการณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Storytelling บ่งบอกความหลากหลายทางสังคม
เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า เดือนมิถุนายนนั้นถูกยกให้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์สิทธิของความหลากหลายทางเพศ หรือ เดือนแห่งการรณรงค์เรื่อง LGBTQ ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์โควิด 19 เราคงได้เห็นสีสันจากการรณรงค์ของกลุ่มคนเพศทางเลือกกันอย่างชัดเจนมากกว่านี้แน่นอน ซึ่งทางแบรนด์แฟชั่นอย่าง DIESEL ก็มีจุดยืนในการสร้างสรรค์สินค้าเพื่อคนทุกกลุ่มอยู่แล้ว จึงใช้ช่วงเวลาและโอกาสนี้ ทำโฆษณาออกมาชิ้นหนึ่งโดยใช้กลยุทธ์ Storytelling ใส่ลงไปในโฆษณา เพื่อเป็นตอกย้ำความเป็นแบรนด์แฟชั่นเพื่อทุกคนให้ชัดเจน ในขณะเดียวกันก็เป็นการ Storytelling บอกเล่าให้เราทุกคนได้ตระหนักถึงว่าสังคมของเรา “มีความหลากหลาย” โลกในยุคนี้ไม่ได้จำกัดเรื่องของเพศอยู่ แค่ชายกับหญิงอีกต่อไปแล้ว ซึ่งสังคมก็ควรเปิดรับความหลากหลายนี้กันให้มากขึ้นด้วย
ความสำเร็จไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นเพศไหน
แบรนด์ DIESEL นั้นมีสโลแกนว่า “For Successful Living” หรือถ้าแปลออกมาแล้วก็คือ “เพื่อความสำเร็จของชีวิต” DIESEL ใช้คอนเซ็ปต์นี้ผสานกับจุดยืนเรื่องความหลากหลายทางสังคมผนวกเข้ารวมกัน จนกลายมาเป็นภาพยนตร์โฆษณาสไตล์ Storytelling ที่บรรจงเล่าเรื่องราวของสาวประเภทสองคนหนึ่ง ที่ธรรมชาติมอบความเป็นชายในเพศสภาพภายนอกให้กับเขามาตั้งแต่กำเนิด แต่ในความเป็นจริงแล้วจิตวิญญาณภายในกลับเป็น “ผู้หญิง” แบบ 100% เขาหรือเธอผู้นี้เสมือนเป็นคน 2 คนในร่างเดียว และด้วยความเด็ดเดี่ยวทำให้เธอเลือกที่จะตัดสินใจลงมือเปลี่ยนชีวิตตามความรู้สึกและศรัทธาที่เธอมี นั่นคือ “หากสิ่งที่ทำ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็จงลงมือทำเถอะ” โดยภาพยนตร์โฆษณาสไตล์ Storytelling ชุดนี้มีชื่อว่า “Francesca”
Francesca เป็นงานโฆษณาที่ใช้กลยุทธ์แบบ Storytelling ไม่ใช่มาถึงก็เอาแต่โฆษณาอย่างเดียว แต่ค่อย ๆ เล่าเรื่องราวอย่างมีนัยยะลงไปออกมาคล้าย ๆ กับภาพยนตร์ เป็นการเล่าเรื่องเสรีภาพทางความคิดและการกระทำ หากสิ่งที่คิดสิ่งที่ทำนั้นไม่ได้รบกวนใครหรือทำให้ใครเดือดร้อน ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร ฉากสุดท้ายของโฆษณาชิ้นนี้จบด้วยปรารถนาสูงสุดของตัวละครเอกในเรื่อง ซึ่งก็ดูหักมุมดีทีเดียว
นี่นับเป็นไอเดียของการใช้กลยุทธ์แบบ Storytelling ได้ชัดเจนและมีความน่าสนใจ ธุรกิจไหนมองหาวิธีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้ตอบโจทย์มากขึ้น สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นแบรนด์ได้ชัดเจนมากขึ้นลองนำไอเดียการเล่าเรื่องจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง DIESEL ไปใช้บ้างก็ได้นะ ถือว่าแปลกและน่าสนใจเลยทีเดียว
