ในโลกของการทำการตลาดเพื่อธุรกิจแล้ว influencers marketing ถือว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ฮอตฮิตมาก และจัดว่าเป็นวิธีการที่ได้ผลเสมอสำหรับการทำการตลาด เพราะอินฟลูเอนเซอร์มีผลต่อการดึงดูดและโน้มน้าวใจผู้บริโภคจริง ๆ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่การทำการตลาดที่ดูยิ่งใหญ่เป็นทางการขึ้นอย่างการมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ของตนเองได้อีกด้วย แต่จากสถานการณ์โควิด19 ที่ทำให้โลกเราต้องเปลี่ยนไปในทุก ๆ มิติ อินฟลูเอนเซอร์ที่รับงาน Event ต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบหนัก เพราะการจัดงานเกิดขึ้นไม่ได้ แถมทุกบริษัทต่างประหยัดงบประมาณด้านการตลาดกันหมด วงการอินฟลูเอนเซอร์ในตอนนี้จึงดูเหงา ๆ และที่ดูน่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ โอกาสที่จะเกิด New Normal ต่อวงการอินฟลูเอนเซอร์ก็เริ่มจะมีความเป็นไปได้ ซึ่งสิ่งที่จะเข้ามาแทนอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นคนจริง ๆ ก็คือ CGI Influencers กลยุทธ์นี้จริง ๆ เกิดขึ้นแล้วและมีการนำมาใช้กันจริง ๆ ในเชิงธุรกิจแล้วด้วย
CGI Influencers เข้ามาสั่นคลอนอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็น “มนุษย์”
ก็ขอกล่าวเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเสียก่อน เผื่อใครยังไม่รู้จักว่า CGI Influencers คืออะไรเป็นแบบไหน CGI Influencers ก็คือ ตัวละครหรือเราอาจจะใช้คำว่า “มนุษย์ในโลกเสมือน” ก็ได้ ตัวละครตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันทำการจับคู่ภาพที่สร้างขึ้นมากับลักษณะใบหน้าและการเคลื่อนไหวของคนจริง ๆ ก็เหมือนกับตัวการ์ตูนอนิเมชันอย่างนั้นเลย แต่ตัวละครแบบ CGI จะดูเนียนตาและคล้ายกับคนจริง ๆ มากกว่า
ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกว่า CGI Influencers จะมีรูปร่างลักษณะน่าตาอย่างไร ที่ว่าคล้ายกับคนนั้น คล้ายขนาดไหน เราก็ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ Lil Miquela นี่คือตัวละคร CGI Influencers ที่อาจจะทำให้คุณทึ่งเลยทีเดียว
Lil Miquela ปรากฎตัวและโด่งดังอยู่ในโลก IG เมื่อประมาณปีที่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วในต่างประเทศเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะ CGI Influencers มาตั้งแต่ปี 2016 แล้ว เพียงแต่ในตอนนั้นคนยังไม่ค่อยสนใจ เราอาจจะนิยาม Lil Miquela ว่าเป็น AI เน็ตไอดอลคนแรก ๆ เลยก็ว่าได้ บริษัทผู้สร้างเธอขึ้นมาต้องการให้เธอเป็นเด็กสาววัยรุ่นอายุ 19 ปี ซึ่งปัจจุบันเธอมี IG ของตนเอง มีผู้ติดตามมากถึง 2.5 ล้านคน และยังมีเพลงของตัวเองที่ลงไว้ใน Spotify และมีคนเสียเงินเข้ามาฟังเพลงของเธอทุกเดือนด้วย
นี่คือ โลกในวันนี้ที่ต้องบอกว่า CGI Influencers สามารถเข้ามาทำหน้าที่อะไรบางอย่างได้เหมือนกับมนุษย์แล้ว ยิ่งในโลกที่เราจะต้องเป้นห่วงกังวลกับการใช้ชีวิตมากขึ้นเพราะโควิด 19 มนุษย์เราต้องรักษาระยะห่างทางสังคมกันมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนคนจริง ๆ อาจจะเป็นทางเลือกใหม่ที่เป็นคนตอบที่ “ใช่” ก็ได้ อนาคตเป็นเรื่องที่เราคาดเดาไม่ได้ ซึ่งถ้าดูจากความสำเร็จจาก Lil Miquela แล้ว โอกาสที่ CGI Influencers จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของกลยุทธ์การตลาดในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเลย
แบรนด์ใหญ่เริ่มให้การต้อนรับกับ CGI Influencers
CGI Influencers อาจจะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันในโลกธุรกิจแล้วก็ได้ นี่อาจเป็นกลยุทธ์การตลาดที่จะได้รับความนิยมและมีการใช้งานแบบทั่วไปในไม่ช้าภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะแบรนด์ธุรกิจใหญ่เริ่มมองเห็นอนาคตจากเทคโนโลยีและกลยุทธ์การตลาดแบบนี้ หนึ่งรายที่สร้างความฮือฮามากเมื่อปี 2019 ที่ผ่านก็คือ KFC ที่ทำ ละคร CGI ผู้พันแซนเดอส์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่ใช่ชายแก่คนเดิม แต่เป็นชายแก่คนใหม่ที่หุ่นและรูปร่างแซ่บกว่า ที่หน้าท้องที่รอยสักที่เขียนว่า “secret recipe for success” แปลเป็นไทยว่าสูตรลับแห่งความสำเร็จอยู่ด้วย ยอดฟอลโลวเวอร์ใน IG ของ KFC เพิ่มขึ้นทันทีหลังจากปล่อยภาพ CGI ผู้พันแซนเดอส์สุดแซบนี้ออกมา สิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนภาพของอนาคตในโลกของธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดให้เราได้เห็น เราจะพบกับการใช้เทคโนโลยีผสานกับกลยุทธ์การตลาดอย่างลงตัวมากขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แน่นอน
CGI Influencers จะเป็นเทรนด์ของโลกธุรกิจได้จริงหรือ?
ไม่มีใครฟังธงได้ว่า CGI Influencers จะเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมสูงจนเป็นเทรนด์โลกหรือไม่ แต่จากสถานการณ์โควิด 19 ที่เข้ามาป่วนโลกเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง และเราก็ได้เห็นกันไปบ้างแล้วว่า CGI Influencers มีประโยชน์อย่างไรทำอะไรได้บ้าง ส่งผลดีต่อธุรกิจในหลายด้าน ทั้งประหยัดเวลา สามารถเนรมิตขึ้นมาให้เป็นแบบไหนก็ได้ตามต้องการ โดยที่ไร้ข้อจำกัด ซึ่งแตกต่างกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นคน ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมาย และค่าจ้างคนอาจจะแพงกว่าการลงทุนกับ CGI ด้วย เพราะอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงมากค่าจ้างก็จะแพงมาก ซึ่งถ้ามาเทียบดูคุณค่าและระยะเวลาของงานที่มีข้อจำกัดก็อาจจะไม่คุ้มค่าก็ได้
แต่เราต้องยอมรับกันว่า CGI Influencers นั้นในตอนนี้ก็มีตัวตนจริงอยู่แค่ในโซเชียลมีเดีย เป็นเพียงโลกเสมือนไม่ใช่โลกจริง ความนิยมความสนใจจึงมีจำกัดอยู่กรอบตรงนี้เท่านั้น นี่จึงยังเป็นจุดที่เทคโนโลยีจะต้องก้าวต่อไปและพิสูจน์ตัวเองต่อไปว่าจะสามารถสร้างปรากฎกการณ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองประสบการณ์ใหม่ของผู้คนได้อย่างไรบ้าง แต่หากพิจารณาใน
