ในสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 นี้ทำให้เราทุกคนต่างวิตกกังวลกันมาก ท่ามกลางกันทำงานของเจ้าหน้าที่บุคลากรทางสาธารณสุขหลายฝ่ายที่ทำงานกันอย่างหนักและสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ภัยจากไวรัสชนิดนี้น่ากลัว แต่สำหรับคุณสุภาพตรีทั้งหลายก็อย่าลืมตรวจสอบภัยใกล้ตัวอย่างโรคทางสูตินรีด้วย เพราะเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าหนักใจ และบางโรคส่งผลถึงชีวิตเหมือนกัน วันนี้เล่าเรื่องรอบโลก จึงขอมาStory Telling เรื่องราวเกี่ยวกับโรคอันตรายทางสูตินรี เพื่อเป็นการเตือนคุณผู้หญิงทุกคนให้ระวังไว้ล่วงหน้าจะมีโรคอะไรบ้างไปติดตามกันเลย
โรคซีสต์รังไข่
ซีสต์ ถ้าจะอธิบายง่ายๆก็คือ ถุงน้ำที่ไปเกิดขึ้นในรังไข่ ซึ่งซีสต์จะเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะเกิดการตกไข่ผิดปกติ ปกติเลือดประจำเดือนของผู้หญิงจะต้องถูกขับออกตามรอบเดือนที่มี แต่ทว่าบางทีเลือดเหล่านั้นขับออกไม่หมดก็จะเกิดไปคั่งอยู่ในถุงรังไข่ ทำให้ถุงรังไข่เต็มไปด้วยของเหลว และเกิดการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติออกมา ซีสต์รังไข่นั้นจะมี 2 แบบ คือ
- ซีสต์รังไข่ที่สามารถหายเองได้ – ตรงนี้ก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศหญิงที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกรอบเดือน ซึ่งตรงนี้ไม่ก่ออันตรายอะไร เพราะหายได้เอง
- ซีสต์รังไข่ที่ไม่สามารถหายเองได้ – ก็คือ ช็อกโกแลตซีสต์ เดอร์มอยด์ซีสต์ และซีสต์อื่นๆ มีทั้งกลุ่มมะเร็ง และไม่ใช่มะเร็ง ประเภทนี้ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
สิ่งที่อยาก Story Telling ให้ทุกคนตระหนักก็คือ ความน่ากลัวของโรคนี้ ซีสต์รังไข่สามารถพัฒนาตัวเองไปเป็น “มะเร็ง” ได้ เนื่องจากแพทย์อาจตรวจไม่พบในตอนแรก แค่การตรวจอัลตร้าซาวด์(ultrasound)อย่างเดียวอาจไม่พบ นั่นทำให้โรคลุกลามไปจนรุนแรงได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อแพทย์สงสัยว่ามีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ก็จะทำการผ่าตัดส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น สำหรับซีสต์รังไข่ที่คุณผู้หญิงในยุคปัจจุบันจะเป็นกันมากก็คือ ‘ช็อกโกแลตซีสต์’ เป็นซีสต์ที่มีอาการแสดงออก อย่างปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ แม้จะเป็นกันมากแต่ด้วยเป็นซีสต์ที่แสดงอาการบ่งบอกจึงทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาได้ทัน ที่น่าห่วงก็จะเป็นซีสต์ประเภทอื่นๆที่ไม่แสดงอาการโดยตรง คนไข้จะไปพบแพทย์ก็ด้วยอาการอื่นอย่างเช่น ท้องอืด แน่นท้อง มีอาการท้องบวม หากแพทย์วินิจฉัยไม่ละเอียดก็จะทำให้อาการรุนแรงขึ้นกลุ่มนี้จะพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ และถ้าได้รับการรักษาช้ามะเร็งอาจแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ ทำให้บางทีต้องตัดรังไข่ออก และต้องมาบำบัดรักษาด้วยคีโมอีกที การตัดรังไข่ออกนั้นถ้าเป็นคนที่ไม่ต้องการมีบุตรแล้วก็สามารถตัดได้ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าคนที่ยังต้องการมีบุตรอยู่ก็จะลำบากในการมีบุตรครั้งต่อไปนั่นเอง
เนื้องอกในมดลูก
เนื้องอกในมดลูกนั้น จัดว่าเป็นโรคของคุณสุภาพสตรีที่พบได้มากเป็นอันดับต้นๆ พบบ่อยในผู้หญิงอายุระหว่าง 30-40 ปี ที่สำคัญโรคนี้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดด้วย โดยมากแล้วผู้หญิงที่รู้ว่าเป็นโรคนี้มักจะตรวจพบโดยบังเอิญ เนื้องอกที่เกิดขึ้นนั้นจะเกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อมดลูก โดยตัวเนื้องอกนั้นจะไปโตในโพรงมดลูกหรือโตเป็นก้อนนูนจากมดลูกก็ได้
เมื่อไม่มีสาเหตุของโรคที่แน่นอนจึงเป็นโรคที่น่ากังวลสำหรับผู้หญิง โดยมากแล้วผู้ป่วยจะไปพบแพทย์ด้วยอาการอื่น เช่น รู้สึกผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือน ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ บางคนอาจมีอาการปวดหลังร่วมด้วย บางคนประจำเดือนมามากร่วมกับปัสสาวะบ่อยขึ้นจนผิดปกติ เป็นต้น เมื่อไปพบแพทย์ได้รับการตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียดแล้วถึงจะรู้ว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก แต่คำแนะนำของสูตินรีแพทย์ได้ปนะนำไว้ว่าให้คุณสุภาพสตรีทั้งหลายสังเกตอาการบ่งชี้ของตนเอง ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ให้รีบสงสัยไว้ก่อนและรีบไปพบแพทย์ทันที คือ
- มีอาการปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ
- มีประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมาแบบกะปริบกะปรอย
- ปวดปัสสาวะบ่อย และกลั้นไม่ค่อยได้ (ซึ่งอาจมาจากเนื้องอกไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ)
มีบางคนเคยตรวจพบเนื้องอกแต่มีขนาดเล็กประมาณ 1 ซม. โดยส่วนมากแล้วแพทย์อาจจะยังไม่ทำการรักษา เพราะเนื้องอกเล็กๆนั้นอาจไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าหลังจากนั้นประมาณสัก 3 – 4 เดือนกลับไปตรวจอีกครั้งแล้วพบว่าเนื้องอกนั้นโตขึ้นเร็วนั่นก็เท่ากับเป็นเนื้องอกในมดลูกแล้ว ซึ่งการรักษาเนื้องอกในมดลูกนั้นทำได้ด้วยการผ่าตัด ซึ่งปัจจุบันไม่อันตรายเพราะผ่าตัดด้วยการส่องกล้องไม่ต้องเปิดแผลใหญ่
นี่คือ โรคทางสูตินรี ที่เราอยากมาเล่าเรื่องถึงความอันตรายให้คุณฟัง นับว่าโรคเหล่านี้เป็นภัยเงียบอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่คุณผู้หญิงทุกคนต้องระวังให้ดี การตรวจสุขภาพเป็นประจำนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงและอันตรายจากโรคเหล่านี้ได้ นอกจากนั้นแล้วการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญ รับประทานอาหารดีๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำก็ช่วยทำให้ร่างกายเกิดสมดุลนับเป็นการช่วยลดความเสี่ยงลงได้อีกทางหนึ่ง นี่ล่ะเรื่องดีๆ ที่เราขอมา Story Telling ให้คุณได้รับรู้กันในครั้งนี้