ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด ถ้าคุณมีธุรกิจส่วนตัวที่ทำทั้งแบบ Online และ Offline ในส่วนของ Online นั้นคุณก็อยากจะทำ Storytelling เพื่อเล่าถึงความน่าสนใจและโฆษณาแบรนด์ของคุณ ในภาค Offline นั้น คุณโชคดีมีหน้าร้านของตนเอง แล้วถ้าอยู่ๆวันหนึ่งหน้าร้านและร้านทั้งร้านของคุณกลายเป็นป้ายโฆษณาสินค้าขึ้นมาจะเป็นยังไง ยิ่งไปกว่านั้นถ้าลูกค้ามาที่ร้านของคุณ จะมาซื้อสินค้าแต่ปรากฏว่ากลับซื้อสินค้ากลับไปไม่ได้ลูกค้าจะมีปฏิกิริยาตอบรับยังไงกันนะ
อิเกีย(IKEA) แบรนด์ธุรกิจร้านเฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดน เกิดไอเดียแจ่มแจ๋ว พวกเขากำลังต้องการที่จะจัดโปรโมชั่นกับสินค้าของพวกเขาที่ร้าน IKEA สาขาในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ทว่าการจะใช้วิธีการโฆษณาสินค้าแบบเดิมๆ เพื่อโปรโมตหรือประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นสุดพิเศษ ก็คงจะดูธรรมดาเกินไปและคงไม่จูงใจลูกค้าอย่างแน่นอน พวกเขาจึงสร้างโปรเจกต์ “อพาร์ตเมนต์เล็กๆ ของอิเกีย” (IKEA Apartment Project) ขึ้นมา ซึ่งโปรเจกต์นี้ เป็นการงัดกลยุทธ์การตลาดในแบบ Experience Marketing ผสานกับไอเดียกลยุทธ์การตลาดสุดคลาสสิกอย่างการ Storytelling เพื่อมอบประสบการณ์สุดสนุกให้ลูกค้าได้อย่างโดดเด่น และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
โปรเจกต์ “อพาร์ตเมนต์เล็กๆ ของอิเกีย” เกิดขึ้นในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2012 โดยที่ทาง IKEA ได้สร้างห้องอพาร์ตเมนต์แคบๆ ขนาดแค่ประมาณ 3.31 ตารางเมตร ไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโอแวร์ ในกรุงปารีส จากนั้นพวกเขาก็ต้องการให้เกิดการ Storytelling ที่ Real ดูสมจริงที่สุดจากปากลูกค้า นั่นคือ พวกเขาต้องการให้ลูกค้า หรือ กลุ่มที่จะมาเป็นลูกค้าในอนาคตได้ัสัมผัสประสบการณ์อะไรบางอย่างที่พิเศษและแตกต่างออกไป และต้องการให้คนกลุ่มเหล่านี้ นำเรื่องราวประสบการณ์ไปเล่าต่อกันไปเรื่อยๆ
นั่นจึงทำให้ IKEA ไปหาอาสาสมัครจากหลากหลายอาชีพทั้งชายและหญิง และในที่สุดก็ได้อาสาสมัครมา 5 คน ทั้ง 5 คนมีทั้งคนที่เป็นครูพละ เป็นพยาบาล ช่างภาพ ฯลฯ โดยที่คนทั้ง 5 จะต้องมาใช้ชีวิตในอพาร์ตเมนต์เล็กๆของอิเกียที่สร้างขึ้นพิเศษในโปรเจกต์นี้เป็นเวลา 6 วัน แน่นอนว่า เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่ใช้ในห้องอพาร์ตเมนต์เล็กจิ๋วนั้นเป็นของอิเกีย
อพาร์ตเมนต์อิเกียในสถานีรถไฟใต้ดินนี้ จะมีอาหาร มีน้ำ และเครื่องใช้ไม้สอยจัดให้พร้อมเพื่อการดำรงชีวิตประจำวันทั่วไป ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ แต่ที่พิเศษก็คือ ชีวิตของ อาสาสมัครมา 5 นั้นถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน ณ สถานีรถไฟใต้ดินแห่งนั้น ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในสถานีรถไฟใต้ดิน สามารถเฝ้าดูชีวิตประจำวันของคนทั้ง 5 ได้ผ่านกระจกใส และไลฟ์สไตล์ของคนทั้ง 5 ยังถูกเล่าเรื่องหรือ Storytelling ออกไปผ่านเว็บไซต์ของ IKEA ด้วย กล่าวง่ายๆว่า IKEA กำลังเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของคน 5 คนออกมาในแบบ Reality นั่นเอง
อิเกียต้องการแสดงให้เห็นว่า เฟอร์นิเจอร์ของพวกเขาออกแบบมา ให้ใช้งานในห้องอพาร์ตเมนต์แคบๆได้อย่างสะดวกสบายมากแค่ไหน โดยใช้ไอเดีย “ทำร้านทั้งร้านให้เป็นป้ายโฆษณาสินค้า”
IKEA บรรยายจุดเด่นของสินค้าตนเองว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คน ผ่านคน 5 คนที่มีประสบการณ์มาใช้เฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์อิเกีย โดยเป็นการใช้ให้ทุกคนเห็นกันจริงๆแบบไม่ต้องมีสคริปต์ เรียกว่านี่คือการโฆษณาผ่านการ Storytelling แบบ Reality หรือ การเล่าเรื่องจริง เพื่อซื้อใจลูกค้า
การทดลองใช้ให้เห็นจริงๆของคนทั้ง 5 เป็นการประยุกต์การ Storytelling จากตัวอักษร จากหน้ากระดาษ จากภาพหรือ VDO ออกมาเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้จริงของคนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะทำการ Storytelling หรือบอกเล่าประสบการณ์ที่ดีจากการสัมผัสการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ของอิเกียออกไปแบบปากต่อปากแบบไม่มีวันจบสิ้น นี่คือการโฆษณาสินค้าที่เห็นผลชัดเจนและยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่โชว์ดีไซน์สินค้าที่หลากหลายของอิเกีย ให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นด้วย
โปรเจกต์นี้เป็นกรณีศึกษาการใช้ Storytelling อีกรูปแบบโดยทำร้านให้กลายเป็นป้ายโฆษณาสินค้าและให้ประสบการณ์ทางอ้อมแก่ลูกค้าหรือคนที่จะมาเป็นลูกค้าในอนาคตด้วย เรียกว่าไอเดียเฉียบขาดมากเลยทีเดียว
เครดิตภาพจาก : golem13.fr