โควิดก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ “FinTech” อาเซียนพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเต็มที่

ภายใต้สถานการณ์วิกฤตที่ธุรกิจอื่น ๆ ต่างซึมเศร้า แต่กลุ่ม FinTech กลับสวนกระแส ไม่โตอย่างเดียวแต่จะขยายตลาดอีกด้วย

startup-fintech-grow-against-trends

ในสถานการณ์โควิดที่กลับมารุนแรงอีกครั้งในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกช่วงปลายปี 63 รวมถึงในอาเซียนเราด้วย ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นลบกันไปหมด ธุรกิจต่าง ๆ ก็พากันไร้ความมั่นใจที่จะเดินหน้า แต่กลุ่ม Startup FinTech กลับสวนกระแส เพราะมีแนวโน้มที่ดีมาโดยตลอดช่วงระยะหลัง ๆ

กลายเป็นว่าโควิดส่งผลเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจฟินเทค โดยเฉพาะ กลุ่มฟินเทคในอาเซียนที่โตขึ้นและได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ จนในขณะนี้พวกเขาประกาศว่า พร้อมแล้วที่จะขยายกิจการออกไปภายใน 2 ปีข้างจากนี้ แม้ว่าโลกจะยังต้องเผชิญกับความท้าทายในวิกฤตต่าง ๆ ทั้งโควิด ทั้งเศรษฐกิจอยู่ก็ตาม

FinTech ASEAN มุ่งเป้าโตขึ้นจากเดิมในอีก 2 ปี

สำหรับกลุ่มธุรกิจ FinTech ในอาเซียนนั้นมีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย จากการสำรวจแล้วพบว่า 4 ใน 5 บริษัท Startup ใน 6 ประเทศของอาเซียน ทั้ง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ที่ดำเนินการทำธุรกิจในกลุ่มนี้แล้วผลประกอบการดีวันดีคืน จนสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาว่า ธุรกิจของพวกเขามีศักยภาพและตอบโจทย์ยุคสมัยจะสามารถโตไปกว่านี้ได้อีกเรื่อย ๆ นับจากนี้

พวกเขาล้วนตั้งเป้าว่า อีก 2 ปีข้างหน้าจะทำการขยายตลาดออกไปจากเดิม โดยจะมีการขยายตลาดไปในกลุ่มอาเซียนด้วยกันก่อน ซึ่ง 78% มองตรงกันว่าตลาดในอาเซียนมีความน่าสนใจที่สุด เพราะจากที่ผ่านมาจะเห็นแนวโน้มการเติบโตของเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลในอาเซียน ที่โตอย่างก้าวกระโดด พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คน การจับจ่ายการลงทุน เริ่มเปลี่ยนแปลงเข้ามาสู่ความเป็นดิจิทัลแบบก้าวกระโดดเช่นกัน และยิ่งมีภาวะวิกฤตโควิดเข้ามายิ่งเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนต้องเปลี่ยนและปรับตัวไปใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้นกว่าเดิม ธุรกิจการเงินและการจับจ่ายต่าง ๆ ต้องทำออนไลน์เพื่อลดการสัมผัส และรักษาระยะห่าง วิกฤตตรงนี้จึงกลายเป็นโอกาสโตของกลุ่มฟินเทคนั่นเอง

ธุรกิจยุคใหม่ มองข้ามขั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริง

จากภาวะโควิดที่เกิดขึ้นทำให้คนจำเป็นต้องปรับตัวใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ ในขณะนี้ประชากรในอาเซียนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้มากถึง 70% และในจำนวนนี้มี 40% เป็นผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายใหม่ ซึ่งเมื่อดูถึงอัตราการโตของผู้ใช้อินเตอร์ใหม่แล้ว ถือว่าขยายตัวเร็วมากและแนวโน้มจะมีมากขึ้นไปกว่านี้อีก ซึ่งตรงนี้จึงทำให้กลุ่ม Startup FinTech กล้าที่จะมองข้ามชอตไปเลยว่า การเติบโตตรงนี้จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ นับจากนี้ไปผู้ที่จะเข้ามาพึ่งพาอินเตอร์เน็ตในการดำเนินธุรกิจ ดำเนินชีวิตจะมากขึ้นกว่านี้อีกเป็นเท่าตัว

ตรงนี้สะท้อนอะไรบ้าง สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนในวิสัยทัศน์ของกลุ่ม Startup FinTech ก็คือ พวกเขามองว่า “ผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม” คือ อนาคตที่ใช่สำหรับยุคนี้ การจะแข่งขันทางธุรกิจในโลกยุคใหม่นี้ จะต้องคิดถึงเรื่องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในเชิงนวัตกรรม จึงจะสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเงิน การธนาคาร และการลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจแต่ก็มีความซับซ้อนอยู่ในตัวเอง นั่นทำกับว่าสิ่งเหล่านี้มีข้อดีที่เป็นจุดดึงดูดให้คนเข้าหา ในขณะเดียวกันก็มีจุดด้อยที่พร้อมจะผลักไสให้คนออกไปจากเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากมีโซลูชั่นทางการเงิน การจับจ่าย การลงทุนที่ง่ายใช้สะดวกมารองรับในส่วนนี้ โลกของการใช้จ่ายเก็บออมต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไป เพราะนี่ก็นับเป็นนวัตกรรมหนึ่งที่ช่วยให้คนมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจ FinTech ของอาเซียนมีส่วนอย่างมากที่เข้าไปปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มธนาบันการเงิน คือ สามารถเข้าไปยกระดับการทำงานภายใน และยังเข้าไปช่วยให้การดำเนินธุรกรรมการเงินของประชาชนง่ายมากขึ้น การคิดต่างเพียงเล็กน้อย การไม่ยึดติดอยู่กับกรอบเดิม ๆ แค่ว่า “ทำอะไรก็ได้ให้ได้เงิน” นั้น กลายเป็นจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจนี้ไปเลย เพราะช่วงเริ่มต้นของกลุ่มนี้ โดนดูถูกอย่างมากว่า “เพ้อฝัน” แต่วันนี้พวกเขาพิสูจน์ตัวเองแล้ว แม้โควิดที่ร้่ายกาจก็ยังทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลยจริง ๆ