ไม่มีคำคอบว่า “อูเบอร์” บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันจะเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูกกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ก็มีหลายๆประเทศชอบใช้บริการอูเบอร์ วันนี้อูเบอร์ก็ก้าวไปอีกขั้นกับไอเดียธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง นั่นคือ การเพิ่มบริการขายของในรถโดยสาร ซึ่งพวกเขาอนุญาตให้คนขับอูเบอร์ทำธุรกิจส่วนตัวขายสินค้าต่างๆบนรถได้เลย และสินค้าที่ขายได้บนรถคนขับก็ได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขายด้วยนะ ว้าว ไอเดียธุรกิจบรรเจิดแบบนี้ บ้านเราก็น่าจะเอาไปใช้บ้างจริงๆ
ทางบริษัทอูเบอร์ได้ผนวกร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทสตาร์ทอัพคาร์โกมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว บริษัทสตาร์ทอัพคาร์โกนั้นเรียกตนเองว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการด้าน In-car commerce หรือ การจัดหาสินค้ามาขายในรถของบริษัทเรียกรถผ่านแอปฯต่างๆซึ่งพอทั้งสองธุรกิจจับมือกัน ก็เลยเกิดการผสานกลยุทธ์การตลาด ระหว่างเรียกรถ + ขายของ นั่นคือ ผู้ที่ขับขี่รถกับอูเบอร์สามารถทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆอย่างการขายขนมขบเคี้ยวต่างๆบนรถได้
ทางบริษัทสตาร์ทอัพคาร์โกเขาจะมีกล่องใบเล็กๆภายในจะมีพวกขนมขบเคี้ยว หมากฝรั่ง ช็อคโกแล็ต โปรตีนแท่ง รวมไปถึงที่ชาร์จโทรศัพท์บรรจุอยู่และเขาจะให้กล่องใบนี้ไว้กับบริษัทอูเบอร์ เมื่อมีคนมาสมัครขับกับอูเบอร์ ทางอูเบอร์ก็จะเอากล่องขนมจากคาร์โกให้กับคนขับไว้ด้วย จึงเท่ากับว่าคนขับอูเบอร์ ก็กลายเป็นเจ้าของธุรกิจขายขนมเล็กๆมีธุรกิจส่วนตัวอีกด้านในรถของตนเอง
ทางอูเบอร์เปิดเผยว่ามีผู้โดยสารจำนวนมากที่เดินทางในระยะทางไกลๆหรือบางทีก็ต้องฝ่ารถติดจึงต้องใช้เวลาอยู่บนรถนานขึ้น ขนมและของคบเคี้ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญเสมือนเพื่อนในการเดินทาง บวกกับยุคนี้คนต่างใช้เวลากับมือถือสมาร์ทโฟนเยอะขึ้น การอยู่ในรถนานๆ ก็คนก็ฟังเพลงหรือดู YouTube เล่นโซเชียล หรือบางกรณีเรียกรถอูเบอร์ไปสนามบิน จะเดินทางไปต่างประเทศแต่ก็มักลืมของใช้หลายอย่างไว้ที่บ้าน อย่าง หูฟังหรือสายชาร์จสมาร์ทโฟน นั่นทำให้กลยุทธ์การตลาด สร้างธุรกิจส่วนตัวเล็กๆให้กับคนขับอูเบอร์จึงได้รับการตอบรับที่ดี
ล่าสุดดูเหมือนแค่ทำธุรกิจส่วนตัวเป็นของร้านขายขนมแบบจิ๋วๆในรถแบบนี้จะน้อยไป เพราะการตอบรับจากผู้ใช้งานดีเกินคาด บริการนี้ขยายตัวออกไป บริษัทคาร์โกได้เจรจากับอูเบอร์อีกครั้งว่าจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่ๆที่มีราคาสูงขึ้นเข้าไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสินค้าไอที อย่าง AirPods, Amazon Echo และสินค้าจำพวกเครื่องสำอาง เพราะเป็นกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการเดินทางของผู้คน ทำให้คนขับอูเบอร์ไม่ได้เป็นแค่เจ้าของธุรกิจโชห่วยเล็กๆแล้ว แต่ขยับขึ้นเป็นเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตกลายๆเลยทีเดียว
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทางคาร์โกไปเอาสินค้าขนมหรือสินค้าไอทีต่างๆมาจากที่ไหน เป็นของดีหรือไม่ ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นของแท้ของดีจริงทุกอย่าง คาร์โกไปติดต่อกับบริษัทค้าปลีก บริษัทไอทีต่างๆ โดยบอกว่าใครอยากโฆษณาสินค้าแบบให้ลูกค้าเห็นหรือได้ทดลองใช้จริงๆก็ให้เอาสินค้าตัวอย่างมาจำหน่ายกับเขาในกล่องเล็กๆใบนั้น ซึ่งทุกบริษัทก็เห็นดีด้วยว่าการโฆษณาสินค้าแบบนี้ได้รู้เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานจริงแน่นอน จึงผลิตสินค้าตัวอย่างหรือนำสินค้าที่จะวางจำหน่ายในเร็วๆนี้ไปให้ทางคาร์โก และคาร์โกก็ไปให้คนขับอูเอบร์ขายให้ เรียกว่าไอเดียธุรกิจนี้เข้าท่ามากๆ
ในส่วนของการคิดเงินสินค้าและรายได้จากธุรกิจส่วนตัวขนาดจิ๋วของคนขับอูเบอร์นี้ จะเกิดขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน ตอนปี 2017 ที่บริการนี้เกิดขึ้นมีคนขับรับกล่องนี้ไปขาย 7,000 ราย สรุปออกมาแล้ว มีคนทำรายได้จากการขายขนมและที่ชาร์จในกล่องนี้สูงสุดได้ถึง 3,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ปีเลยทีเดียว และล่าสุดอูเบอร์กับคาร์โกก็ร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ใช้สำหรับการซื้อของบนรถแบบนี้โดยตรง ซึ่งผู้โดยสารสามารถซื้อสินค้าได้หลากหลายมากขึ้นนอกเหนือไปจากสินค้าที่อยู่บนรถ ทั้งตั๋วหนัง อุปกรณ์เพื่อการท่องเที่ยว สินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ โดยทางอูเบอร์กับคาร์โกก็ร่วมกันงัดกลยุทธ์การตลาดมาจัดโปรโมชั่นร่วมกัน โดยถ้าผู้โดยสารซื้อสินค้าเหล่านี้ระหว่างเดินทางบนรถของอูเบอร์ก็จะได้ Cash Back คืน 10% ที่สามารถจะเอาไปใช้ลดค่าบริการอูเบอร์ครั้งต่อไปหรือซื้อสินค้ากับคาร์โกครั้งต่อไปได้ด้วย ในส่วนคนขับนั้นจะได้เงิน 1 ดอลลาร์/สินค้า 1 ชิ้นที่ขายได้ บวกกับส่วนแบ่ง 25 %ของราคาสินค้าที่ขายไป
ทราบมาว่าตอนนี้ทาง Grab ก็เริ่มจะทาบทามบริการนี้กันแล้ว เชื่อว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นคนขับแท็กซี่หรือขับรถรับจ้างมีธุรกิจส่วนตัวขนาดจิ๋วแบบนี้กันก็ได้ ไอเดียธุรกิจนี้ไม่เลวเลยจริงๆ
อ้างอิงและภาพจาก : cnbc, engadget, drivecargo