การทำธุรกิจในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดและรู้จริงแบบนี้ นับเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับคนที่คิดจะเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้แค่สนใจธุรกิจคุณคืออะไร แต่พวกเขาสนใจว่า “ธุรกิจคุณให้อะไร” คนรุ่นใหม่สนใจเรื่องของสังคมและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นจนกลายเป็นเทรนด์ไปแล้วแบบหนึ่ง และมักจะถามหาความรับผิดชอบต่อสังคมกับคนทำธุรกิจในทุกองค์กรอยู่เสมอ เมื่อเรื่องของสังคมและสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่สนใจแบบนี้ทำไมคุณไม่จับเทรนด์นี้มาใส่ลงไปในการทำธุรกิจของคุณด้วยล่ะ

ฮิลล์คอฟฟ์ Startup กาแฟที่ขอแชร์ความแฟร์กับสังคม

     ฮิลล์คอฟฟ์(Hillkoff) แบรนด์กาแฟสัญชาติไทยที่ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจเพื่อสังคม และไม่ใช่เพียงแค่สโลแกนสวยๆที่ทำให้แบรนด์ดูดี ฮิลล์คอฟฟ์ยังได้ รางวัล SME Thailand Inno Awards 2017 มาการันตีความเป็น Startup SME ที่สร้างสรรค์ เป็นธุรกิจส่วนตัวที่สร้างมูลค่าและคุณค่าเพื่อสังคมไปพร้อมๆกัน ภายใต้แนวคิด “กาแฟเพื่อสังคม” ฟังดูก็อาจจะเก๋ แต่มันเป็นไปได้จริงหรือ

     บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ต้นสังกัดของแบรนด์กาแฟ ฮิลล์คอฟฟ์ผุดแนวคิดการทำธุรกิจส่วนตัวขึ้นมา เพราะพวกเขามองว่า พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมเช่นกัน การทำธุรกิจต้องพึ่งสังคม และสังคมก็จะต้องพึ่งการทำธุรกิจ เป็นดั่งกันและกันแบบนี้ถ้าการทำธุรกิจของพวกเขาเน้นแต่จะกอบโกยอย่างเดียว คงจะไปได้ไม่ไกลอีกแล้วในยุคนี้ อาจจะกอบโกยทำกำไรได้ในช่วงหนึ่ง แต่พอถึงเวลาที่กระแสซบเซาทุกอย่างก็จะจบลงอย่างรวดเร็วในทันที ดังนั้นถ้ากาแฟฮิลล์คอฟฟ์ของพวกเขาเป็นหนึ่งในธุรกิจส่วนตัวที่เป็นไปเพื่อสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ ก็จะสร้างความยั่งยืนให้กับการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น พวกเขาจึงเริ่มวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ กำหนดเป้าหมายใหม่โดยที่ไม่มุ่งหวังผลกำไรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แบ่งสัดส่วนระหว่างผลกำไรของตนเองและสัมคมให้สอดคล้องกัน มุ่งเป้าไปที่ช่วยสังคมให้อยู่รอด จัดการแก้ไขปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน “เมื่อสังคมอยู่รอด การทำธุรกิจก็จะอยู่รอด” นั่นคือแนวคิดที่ทางฮิลล์คอฟฟ์ยึดถือไว้เสมอ การทำธุรกิจกาแฟเพื่อสังคมมีรูปแบบเป็นอย่างไรมาดูกัน

  1. แบรนด์กาแฟ ฮิลล์คอฟฟ์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟตามระบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทางฮิลล์คอฟฟ์จะลงไปช่วยเรื่องทุนทรัพย์ในการทำระบบติดตามและควบคุมการเพาะปลูกกาแฟของเกษตรกร วิธีนี้จะช่วยควบคุมคุณภาพของผลผลิตได้อย่างชัดเจนและได้ผล มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอน
  2. ฮิลล์คอฟฟ์จะให้พันธุ์กาแฟพร้อมการถ่ายทอดความรู้ด้านการเพาะปลูกและการจัดการเมล็ดพันธุ์กาแฟให้กับเกษตรกรที่เข้ามาร่วมโครงการของบริษัท ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพสูงได้มาตรฐานอีกเช่นกัน
  3. วางรูปแบบและกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบภายใต้แนวคิดทุกขั้นตอนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

     นี่คือกระบวนการและขั้นตอนการทำธุรกิจของแบรนด์กาแฟ ฮิลล์คอฟฟ์ ซึ่งคุณจะเห็นเลยว่าทุกขั้นตอนพวกเขาไม่เน้นที่จะแสวงหากำไรแต่พยายามเน้นสิ่งที่ช่วยประคับคองสังคมให้ก้าวเดินไปพร้อมกับธุรกิจของเขา ใครที่กำลังคิดจะเปิดร้านกาแฟ หรือคิดจะทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับกาแฟแนวทางของฮิลล์คอฟฟ์น่าจะเป็นสิ่งที่คุณสามารถนำไปเป็นไอเดียธุรกิจหรือปรับประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน

มีคนเพียงกลุ่มเดียวในสังคมที่คิดเรื่องเงินมากกว่าพวกคนรวย และนั่นคือ คนจน

ออสคาร์ ไวล์ด นักเขียนและกวีชาวไอริช

จงทำธุรกิจอย่างคนรวย

     มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่คนทำธุรกิจทุกคนจะหวังผลกำไร Startup รุ่นใหม่หวังจะก้าวกระโดดก็ยังต้องเน้นเรื่องผลกำไรเป็นสำคัญ แน่นอนหลักการทำธุรกิจเป็นเช่นนั้น แต่การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันคุณต้องไม่มองข้ามเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นด้วย คนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแล้วนอกจากเรื่องของกำไรแล้วเขายังมองถึงความยั่งยืนในธุรกิจ เขาจึงต้องการสร้างอะไรให้กับสังคมด้วย นี่คือความคิดของคนที่รวยแล้วรู้จักพอ แต่ที่น่าตลกก็คือคนที่ยังไต่เต้าต่างหากที่ “จน” ไม่รู้จักพอ คิดแต่จะได้อยู่ร่ำไป ซึ่งนั่นแหละเป็นจุดที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้สักที เพราะเขาลืมไปว่าเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม คุณจะฉีกแนวและคิดต่างได้อย่างไรถ้าคุณไม่รู้ว่าสังคมกำลังต้องการอะไร คนเปิดร้านกาแฟมีมากมาย ที่ประสบความสำเร็จก็มีมาก แต่ที่เจ๊งไปล่ะ อาจจะมากกว่าที่ประสบความสำเร็จเสียอีก จริงไหม

hillkoff_03     สังคมไทยเรากำลังต้องการบางสิ่งบางอย่างที่มาช่วยประคับประคองให้ภาพรวมของสังคมดีขึ้นกว่าเดิม พวกเรากำลังหวังว่า Startup หรือ SME รุ่นใหม่ จะสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเราก็ก้าวไปไม่พ้นรูปแบบการทำธุรกิจแบบเดิมๆเสียที แต่ในวันนี้แบรนด์กาแฟฮิลล์คอฟฟ์ทำได้แล้ว พวกเขากำลังสร้างนวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้มันจะเล็กน้อยหรือมีผลต่อคนเพียงหยิบมือก็ตาม แต่นี่ละจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้รูปแบบการทำธุรกิจต้องเปลี่ยนไปจากเดิม ฮิลล์คอฟฟ์ทำให้เราเห็นว่าเรื่องของธุรกิจส่วนตัวไม่ได้ห่างไกลจากเรื่องของสังคม ถ้าคุณสนับสนุนสังคม สังคมก็จะสนับสนุนธุรกิจของคุณ พวกเขาจึงเป็น Startup ที่น่าสนใจและน่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ

     มาถึงคำถามสุดท้ายปลายทางที่ว่า “คุณได้ทำอะไรเพื่อสังคมบ้างหรือยัง” ถ้าคำตอบคือยัง ก็ได้เวลาแล้วที่จะลองหาไอเดียใหม่ๆที่ตอบโจทย์คนหมู่มาก ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม มากกว่าตอบโจทย์ผลประโยชน์ของตนเอง ใครสนใจไอเดียธุรกิจหรือต้องการเปิดร้านกาแฟลองติดต่อสอบถามกันได้เลยที่

Facebook:i love hillkoff และ Hillkoff Learning

summary

แนวคิดการทำธุรกิจจากแบรนด์กาแฟฮิลล์คอฟฟ์

  • สิ่งที่ตอบโจทย์ตลาด ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ตอบโจทย์สังคม แค่เราต้องเปลี่ยนเป้าหมายจาก “ผลกำไร” ของตนเอง เป็น “ประโยชน์” เพื่อส่วนรวมก็เท่านั้น มุมมองในการมองตลาดเราจะลึกซึ้งขึ้นทำให้ตีโจทย์ธุรกิจได้ละเอียดมากขึ้น
  • เทรนด์ธุรกิจใหม่ ควรเริ่มต้นจากคำถามที่ว่า “จะให้อะไรกับสังคม” มากกว่า “จะได้กำไรได้อย่างไร”