จากร้านค้าออนไลน์บนโลกอินเตอร์เน็ต อีคอมเมิร์ชเจ้าแรกๆของโลกวันนี้ Amazon ได้ขยายธุรกิจของตนเองออกมาทางด้านเทคโนโลยีและบริการทางด้านออนไลน์ด้วย ล่าสุดตุลาคมปี 2019 ที่ผ่านมา Amazon ได้ขยับไปอีกขั้นกับการเข้าซื้อกิจการของ Startup ด้านสุขภาพ 2 รายและนำมาขยายเป็นธุรกิจใหม่ในเครือของตนเอง โดยตั้งชื่อว่า Amazon Care
Amazon ได้เข้าซื้อกิจการของ PillPack บริษัท Startup ที่ทำระบบขายยาออนไลน์และมีบริการส่งถึงบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว ต่อมาก็ได้เข้าซื้อบริษัท Startup รายที่ 2 ที่ชื่อ Health Navigator ซึ่งเป็นบริษัท Startup ที่ทำการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับบริการด้านสุขภาพออนไลน์ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการ Startup 2 รายติดๆกันของ Amazon ในครั้งนี้ก็เพื่อจะขยายธุรกิจของตนเองออกไปในด้านธุรกิจเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะตั้งในนาม Amazon Care นั่นเอง
ทาง Amazon ได้มีการ Storytelling และอธิบายเล่าเรื่องราวถึงโมเดลธุรกิจ Amazon Care ว่า จะเป็นบริการด้านคลินิกสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์เข้ามาช่วย แม้ผู้ป่วยจะอยู่ไกลจากหมอ แต่ก็จะสามารถวิดีโอคอลถึงกันได้แบบเสมือนจริง นั่นคือแพทย์ผู้ชำนาญการจะสามารถกำหนดตารางตรวจคนไข้ได้สะดวกขึ้น ติดตามอาการคนไข้ได้ง่าย โดยที่คนไข้ไม่ต้องมาต่อคิวรอรับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งจะมีบริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน รวมถึงการจ่ายยาไปยังที่พักของคนไข้ ทั้งแบบส่งพัสดุหรือแบบออกไปสั่งยาให้คนไข้สามารถไปซื้อเองได้ ทั้งนี้ทาง Amazon ได้มีการจ้างแพทย์และพยาบาลเฉพาะของตนเอาไว้เพื่อให้บริการในส่วนนี้โดยตรงเลยทีเดียว
ซึ่งจากข้อมูลที่ทาง Amazon ได้มีการเปิดเผยออกมาในช่วงแรกนี้ระบุว่า โมเดล Amazon Careนี้ยังอยู่ในช่วงการทดสอบระบบธุรกิจ จึงจะเปิดใช้กันเป็นการภายในของบริษัท Amazon ก่อน โดยจะจัดให้เป็นสวัสดิการของของพนักงาน Amazon ในเมือง Seattle ไปก่อนในช่วงแรกนี้ หากเห็นว่าได้รับความพึงพอใจจากพนักงาน และค่อนข้างประสบความสำเร็จก็จะทำการขยายออกไปให้ครอบคลุมทั้งองค์กร
อย่างไรก็ดีบริการแบบ Amazon Care ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นที่แรกหรือครั้งแรก เพราะทางบริษัทนวัตกรรมไอทีใหญ่อย่าง Apple เองก็มีโมเดลนวัตกรรมสุขภาพแบบคล้ายๆกันนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นรูปแบบสวัสดิการในการดูแลพนักงานของตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นข้อบ่งชี้ว่าในอนาคตข้างหน้าอีกไม่ช้า ผู้คนอาจมีโอกาสได้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวันกับการไปรอคิวรักษาหรือรับยาที่โรงพยาบาลเป็นวันๆอีกต่อไป
อ้างอิง : cnbc