ต้องยอมรับเลยว่าเป็นเรื่องน่าหนักใจไม่น้อยสำหรับภาคธุรกิจในปี 2020 นี้นอกจากจะเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแย่ทำให้การทำธุรกิจยากขึ้นแล้ว ตัวช่วยที่จะทำให้ภาคธุรกิจขายของได้ง่ายขึ้นอย่างการทำ Content Marketing ก็ดูจะเป็นโจทย์ที่ยากขึ้นสำหรับภาคธุรกิจด้วย เพราะไม่รู้จะทำคอนเทนต์อะไรดี บางคนทำคอนเทนต์ Storytelling เป็น ก็ยังรู้สึกตันๆ เหมือนกัน งั้นเราลองมาอัปเดตเทรนด์กันดีกว่าว่าเทรนด์ความสนใจในคอนเทนต์ของผู้คนในตอนนี้มีอะไรกันบ้าง
หากมองแนวโน้มการทำคอนเทนต์ในภาคธุรกิจในปี 2019 ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร ถ้าเราจะสรุปคอนเทนต์ที่คนไทยชอบก็จะมีอยู่ไม่เกิน 4 แกนหลักนี้คือ
- ตลก
- สนุก
- ซึ้ง
- ดราม่า
หากย้อนกลับไปมอง สัก 3 – 5 ปีที่ผ่านมา ใครทำ Content Marketing สายบันเทิง มีเนื้อหาอยู่ใน 4 แกนหลักนี้ ทำ Storytelling ขำขัน เป็นเรื่องเล่าตลกหรือรายการสายฮา ก็จะได้รับความนิยมมาก และช่วยให้การขายสินค้าดูง่ายขึ้น แต่ในระยะหลังๆก็มีความเปลี่ยนแปลงไป คนเริ่มที่จะมองหาคอนเทนต์ที่มีประโยชน์มากขึ้น และเริ่มจะโฟกัสกับคอนเทนต์ที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาตัวเองมากขึ้น ใครที่มีการ Storytelling เรื่องราวที่มีประโยชน์มีสาระได้น่าสนใจก็จะได้รับการตอบรับค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ในส่วนไลฟ์สไตล์การเรียนรู้ของผู้คนในยุคนี้ก็เริ่มที่จะมองหาความรู้และเรียนรู้นอกห้องเรียน ดังนั้น จะสังเกตเห็นว่าคอนเทนต์ที่เป็นน้ำดี และเป็นเนื้อหาที่นำไปต่อยอดความรู้ให้กับพวกเขาได้ ไปสร้างธุรกิจต่อได้ แบบนี้เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น ยิ่งใคร Storytelling เรื่องราวได้ดี นำเสนอได้น่าสนใจก็จะยิ่งเกิดกระแสเร็วมากขึ้น และนั่นนำไปสู่การตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าของผู้บริโภคในท้ายที่สุดด้วย
อย่างในระยะหลังๆคอนเทนต์ที่มีคำว่า “สอน” หรือ “เรียน” จะได้รับความสนใจมาก อย่างถ้าไปดูใน YouTube เราจะเห็นคลิป “สอนปลูกมะนาว” ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าคนไทยเราสนใจที่จะเรียนรู้นะ แต่ความสนใจในการเรียนรู้สิ่งใดก็จะแตกต่างกันไปตามบริบทของพื้นที่ด้วย อย่างถ้าเราโฟกัสเฉพาะกรุงเทพฯอย่างเดียว ใครสอนหรือ Storytelling ในเนื้อหาที่เกี่ยวกับ การเทรดหุ้น การทำธุรกิจทางออนไลน์ได้ดี ก็จะมีผู้ติดตามเยอะ นำไปสู่การสร้างความน่าเชื่อถือในองค์กร ส่วนถ้าเป็นคนต่างจังหวัด ใครสอนหรือ Storytelling ในเนื้อหาที่เกี่ยวกับการปลูกพืชให้โตเร็วได้ ปลูกอย่างไรให้รวยเร็วแบบนี้ก็จะได้รับความสนใจเช่นกลุ่มคนต่างจังหวัดที่ผูกพันอยู่กับอาชีพนี้เช่นกัน เรียกว่าคอนเทนต์ในลักษณะนี้เป็นคอนเทนต์ที่มาแรงมากในยุคหลัง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคนไทยกำลังหันกลับมาสนใจคอนเทนต์ที่มี Value มากขึ้น
ความรู้ต่าง ๆ ที่เราเคยมองว่าไม่น่าจะมีใครอยากเรียนรู้ วันนี้โลกทัศน์ของผู้คนต่างออกไปแล้ว ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้คนมีความกระหายที่จะเรียนรู้อะไรนอกห้องเรียนมากขึ้น และคนเหล่านั้นจะอยู่กันเป็นกลุ่มๆในทุกเรื่องจะมีกลุ่มคนของตนเอง แม้จะเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มเฉพาะทางแค่ไหน เขาก็จะมีกลุ่มของเขาอยู่ ตรงนี้ส่งสัญญาณบอกเราว่า “เราไม่จำเป็นที่จะต้องเก่งทุกเรื่องก็ได้นะ” เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใครเลย เราเป็นในแบบของเรานี่แหละ เพียงแต่เราจะต้องมีศิลปะในการเล่าเรื่องหรือการ Storytelling บ้างก็เท่านั้น ถ้าคุณอินกับอะไรบางเรื่อง แล้วคุณถ่ายทอดให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นคอนเทนต์ที่ดีแล้ว
สรุปแล้ว ทิศทางของการทำคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อ จะเป็นแค่เรื่องของการขายของตรงๆไม่ได้อีกแล้ว ผู้ประกอบการ SMEs ต่างๆต้องรู้จัก Storytelling เรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับผู้บริโภค และต้องทำคอนเทนต์ให้เกิดคุณค่าและเป็นประโยชน์มากขึ้นต่อผู้บริโภคด้วย เมื่อผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากแบรนด์อย่างเต็มที่แล้ว เขาก็เริ่มจะตัดสินใจซื้อในท้ายที่สุด กระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาก็จริง แต่ก็เป็นขั้นตอนที่จำเป็นมากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้ประกอบการท่านไหนกำลังหาช่องทางดีๆกระตุ้นยอดขายลองนำไปพิจารณาใช้และปรับตัวกันได้เลย