ในขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่กลุ่มคนทำธุรกิจ SMEs สามารถที่จะใช้ช่องทางออนไลน์ในการสื่อสารกับลูกค้าได้มากที่สุดช่วงหนึ่ง และเรื่องของเทคนิค Storytelling ถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะว่าในขณะนี้ทุกธุรกิจออนไลน์ต้องการความแตกต่าง ทุกคนพยายามที่จะสื่อสาร จะข้อมูลเต็มโลกออนไลน์และมองไปก็ดูเหมือนๆกันไปหมด จนผู้บริโภคไม่สามารถที่จะรับข้อมูลไหว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คุณจะหาวิธีสร้างความแตกต่าง ฉีกแนวการสื่อสารทำให้ธุรกิจของคุณเกิดจุดเด่น จนทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนตัวเองมาเป็นลูกค้าของคุณ

เมื่อ Content Marketing ล้นโลกออนไลน์จึงกลายเป็นความท้าทายใหม่ของผู้ประกอบการ

วันนี้คุณสามารถที่จะทำ Content Marketing ในลักษณะของบทความ โพสต์ลงในเว็บไซต์ เพจ หรือ จะทำออกมาในรูปแบบของคลิป VDO ก็ได้ ซึ่งตอนนี้ขั้นตอนและวิธีการทำก็ไม่ได้ยากจนเกินไปนัก แต่ด้วยความที่คอนเทนต์ต่างๆผลิตได้ไม่ยากนักนี่แหละที่ทำให้ วันนี้ข้อมูลบนโลกออนไลน์ล้นทะลักออกมามากจนเกินไปแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นความท้าทายใหม่ของผู้ประกอบการ วิธีการหนึ่งที่สามารถจะเอาชนะปัญหาและความท้าทายใหม่นี้ก็คือ เทคนิค storytelling หรือเทคนิคการเล่าเรื่อง

เราเชื่อว่าคุณเองรู้ดีอยู่แล้วว่า คุณเองเก่งเรื่องอะไร คุณมีความเชี่ยวชาญเรื่องอะไร หรือสินค้าของคุณมีดีอย่างไร ขอเพียงแต่ลูกค้าของคุณพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลที่คุณจะนำเสนอ เขาก็จะพบว่าแบรนด์ของคุณสินค้าของคุณจะช่วยทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นง่ายขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาที่เขาเจอได้ แต่ปัญหาจริงๆก็อยู่ตรงที่ว่า จะทำอย่างไรให้คนสนใจในสิ่งที่คุณกำลังอยากจะบอก เทคนิค storytelling หรือเทคนิคการเล่าเรื่อง อันเป็นวิธีการหนึ่งของการทำ Content Marketing สามารถเข้ามาช่วยคุณในเรื่องนี้ได้ เพียงแค่คุณต้องเริ่มต้นจากเห็นคุณค่าของพลังการเล่าเรื่องเสียก่อน

เมื่อทุกคนต่างมีเรื่องที่จะเล่า แต่จะเล่าอย่างไรให้แตกต่าง

storytelling ถือว่าเป็นวิธีการสื่อสารแบบหนึ่งที่เจ๋งที่สุดและธรรมชาติที่สุด สามารถที่จึงดึงดูดความสนใจของคนได้ดี ทุกๆคน ทุกๆ ธุรกิจต่างมีเรื่องที่จะเล่าทั้งหมดอยู่แล้ว แต่มีน้อยคนนักที่รู้เทคนิคการ storytelling หรือวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาให้ดูน่าสนใจ การจะใช้ storytelling คุณต้องรู้ก่อนว่าใครคือกลุ่มคนที่คุณต้องการนำเสนอข้อมูลให้ เทคนิคที่แนะนำให้ใช้ในการเริ่มต้นทำ storytelling ก็คือ ให้คุณลองสมมุติ หรือสร้างตัวละครขึ้นมา ซึ่งตัวละครนั้นก็คือ ลูกค้าของคุณ

 

Keyword ที่สำคัญของการทำ storytelling ก็คือ จงมุ่งความสำคัญหรือแกนของเรื่องไปที่ลูกค้าของคุณเป็นหลักใหญ่

คุณต้องสร้าง ลูกค้าในจินตนาการของคุณขึ้นมาก่อนว่า ลูกค้าของคุณเป็นใคร หน้าตาประมาณไหน อยู่ในวัยไหน ช่วงอายุเท่าไหร่ การศึกษาเป็นอย่างไร มีรายได้อย่างไร พูดง่ายๆว่าลูกค้าในอุดมคติของคุณเลย ถ้าคุณได้ลูกค้าแบบนี้ ธุรกิจคุณจะโตขึ้นและไปได้สวยมากขึ้นเลย จากนั้นให้คุณกลับไปดูกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ว่ามีรายไหน หรือกลุ่มไหนที่เข้าข่ายลูกค้าในอุดมคติของคุณบ้าง มีคาแรคเตอร์คล้ายกัน มีความคาดหวังคล้ายๆกัน เมื่อคุณเริ่มเห็นภาพลูกค้าชัดเจนขึ้นทีละน้อย จากนั้นให้คุณนำมาใช้เป็นแกนหลักของการทำ storytelling ของคุณ

storytelling ที่ดีต้องทำให้ลูกค้ารู้ว่าคุณช่วยพวกเขาได้อย่างไร

เมื่อคุณเลือกแล้วว่าจะใช้เทคนิค storytelling ในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณโดยที่ storytelling ที่คุณสร้างขึ้นมานี้ จะต้องสื่อออกไปว่า คุณมีความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆให้กับพวกเขาได้ คุณมีความสามารถที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้น ลองเล่นกับจินตนาการของพวกเขาว่า ถ้าเขามาซื้อหรือมาลงทุนกับอะไรบางอย่างที่คุณนำเสนอ มันจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งนั้นจะทำให้อนาคตหรือเป้าหมายที่เขาตั้งไว้เป็นจริง หรือเกิดสิ่งดีๆมากขึ้นอย่างไร

จากนั้นในเนื้อเรื่องที่คุณเล่า คุณก็จะต้องเปิดให้เขาเห็น ทางออกหรือวิธีหนีออกจากปัญหาที่พวกเขาเผชิญอยู่ ว่าจะทำได้อย่างไรบ้างนี่คือวิธีการสร้าง storytelling ที่ดีและจะทำให้ธุรกิจคุณน่าสนใจในสายตาของลูกค้ามากขึ้น

ยิ่งชัดเจนกับตัวละครหลัก คุณยิ่งเล่าได้มันมากขึ้น

สิ่งสำคัญก่อนที่คุณจะเริ่ม storytelling เรื่องใดๆเพื่อทำการสื่อสาร คุณต้องชัดเจนกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเสียก่อน ยิ่งรู้ว่าคุณจะเล่าเรื่องให้ใครฟัง คุณก็ยิ่งจะกำหนดได้ง่ายขึ้นว่า คุณจะเล่าเรื่องอะไร เล่าให้ใครฟังโฟกัสเรื่องที่จะทำได้ง่ายขึ้น และจะทำให้มีไอเดียในการทำคอนเทนต์ได้มากขึ้นด้วย เพราะคุณรู้แล้วว่าความต้องการหลักของลูกค้าคืออะไร คุณเข้าใจปัญหาและอุปสรรคของกลุ่มลูกค้าแล้ว

นอกจากนั้น storytelling จะช่วยทำให้คุณรู้ว่าคุณจะไปเจอลูกค้าในอุดมคตินี้ในโลกออนไลน์ที่ไหน เพราะคุณเริ่มที่จะพอเข้าใจไลฟ์สไตล์ของเขา และรู้แล้วว่าจะสื่อสารกับพวกเขาอย่างไรดี

นี่คือ พลังแห่งการเล่าเรื่อง หรือการ storytelling ซึ่งเป็นเทคนิคการตลาดออนไลน์ที่ดี ธุรกิจใหญ่ๆใช้กันเยอะและได้ผลดีในการสื่อสารกับลูกค้า ทำให้ธุรกิจสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณอยากให้ธุรกิจของคุณปังดังที่หวังลองนำเทคนิคนี้ไปใช้ดู เชื่อเลยว่าธุรกิจคุณปังขึ้นแน่นอน