คุณเคยไปตลาด อ.ต.ก. กันบ้างไหม เชื่อว่าใครที่เคยไปมาแล้วคงจะจำภาพตลาด อ.ต.ก. แบบฝังหัวเลยว่า นี่คือ ตลาดเกษตรไฮโซ แล้วคุณเคยสังเกตไหมว่าตลาดแห่งนี้เป็นตลาดสดที่มีแบรนด์ ที่สำคัญตลาดนี้ถูกสร้างให้มี brand story ของตนเองด้วย แถมยังมีการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ storytelling สร้างเรื่องเล่าและภาพลักษณ์ของตลาดให้ดูพรีเมียมมากกว่าตลาดทั่วไปด้วยนะ สิ่งเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้ตลาดแห่งนี้ได้รับภาพลักษณ์เป็นตลาดเกษตรไฮโซเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
สื่อสารไปยังผู้บริโภคด้วย brand story
หากเรายกเอาตัวอย่างจากข้างต้นมาเปรียบเทียบ เราจะเห็นว่าหัวใจของการสร้าง brand story ให้กับตลาด อ.ต.ก. ก็คือ ต้องการสื่อสารไปยังผู้คนว่า ตลาดแห่งนี้มีดีอย่างไร จุดเด่นของตลาดนี้ก็คือ “การคัดสรร” ทำให้ผู้บริโภครับรู้ได้ว่า ของภายในมีแต่ของพรีเมียมเกรดดี แม้จะมีราคาที่สูง แต่ก็เป็นสินค้าที่คุ้มค่ากับราคา ซึ่งอันที่จริงแล้วจะดีจริงต่างจากตลาดอื่นๆแค่ไหน เราก็ไม่อาจรู้ได้แน่ชัด แต่ brand story ได้ทำให้ผู้บริโภคซึมซับภาพลักษณ์พรีเมียมและความไฮโซของตลาดแห่งนี้ไปแล้ว เป็นการการันตีในตัวเองแล้วว่า ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแล้ว ร้านแต่ละร้านที่มาขายในตลาด อ.ต.ก. คือตัวจริงทั้งหมด จนทำให้ตลาด อ.ต.ก. สามารถกลายเป็นจุดเด่นสำคัญของประเทศ เป็นตลาดไม่มีแอร์ แต่สามารถใช้เป็นจุดต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและนักท่องเที่ยวได้แบบไม่อายใคร เพราะสิ่งที่อยู่ภายในเป็นความพรีเมียม
ดังนั้น brand story จึงเป็นวิธีหนึ่งในการสื่อสารกับผู้บริโภคว่า คุณมีดีอย่างไร หลายคนมีจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจที่ดี มีการสร้างแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ และถ้าผู้บริโภคได้รับรู้ถึงที่มาที่ไปจริงๆก็จะทำให้เกิดความสนใจเห็นคุณค่าและยอมรับในมูลค่าได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือ ว่าผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์มักไม่ค่อยรู้ว่าจะ storytelling สร้างเรื่องเล่าให้กับแบรนด์ได้ยังไง
เมื่อคุณเล่าไม่ถูกทำไมจึงไม่เลือกคนที่เล่าเป็นมาช่วย
ตอนนี้คุณคงพอมองออกบ้างแล้วว่า brand story สำคัญยังไง และมีผลต่อเนื่องในระยะยาวต่อการสร้างแบรนด์และทำธุรกิจอย่างไร คุณต้องการให้แบรนด์คุณเป็นอย่างไรไปในทิศทางไหน ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณในแง่ไหนก็เกิดจากการกำหนด brand story ของตัวคุณเองทั้งสิ้น เมื่อคุณมีเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าสนใจ แต่เล่าไม่ถูก หรือมีเรื่องราวไม่น่าสนใจแต่อยากนำมาทำให้น่าสนใจน่าดึงดูด ใช้เป็นจุดแข็งของแบรนด์ได้ คำแนะนำก็คือ ควรเลือกใช้บริการมืออาชีพในการเล่าเรื่อง
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านการเล่าเรื่องราวให้กับธุรกิจเกิดขึ้นแล้ว เป็นมืออาชีพในด้านกลยุทธ์การตลาดแบบ storytelling ที่พร้อมจะเนรมิตสร้าง brand story ให้กับธุรกิจของคุณ ซึ่งผู้ให้บริการไม่ได้เพียงแค่สร้างเรื่องเล่าให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณเท่านั้น แต่พวกเขายังพร้อมให้คำแนะนำในด้านการตลาด การนำเรื่องเล่าของแบรนด์หรือสินค้าไปใช้ให้กับเจ้าของธุรกิจทุกคนด้วย บริการด้านนี้จึงตรงประเด็นกว่าการเข้าอบรมการสร้างเรื่องเล่าให้แบรนก์ในคอร์สสัมมนาต่างๆเพราะเอาเข้าจริงแล้ว คุณมักไม่ค่อยมีเวลามานั่งคิดนั่งทำเรื่องเหล่านี้นั่นเอง
ขอให้ผู้ประกอบการทุกคนจงตระหนักไว้ว่า การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องการความแตกต่าง บางครั้งสินค้าที่เหมือนๆกันคุณไม่จำเป็นที่จะต้องไปผลิตใหม่คิดใหม่ให้แตกต่างเลย เพียงแค่คุณลองใส่ brand story ลงไปในแบรนด์ของคุณ สินค้าของคุณก็สามารถแตกต่างจากคู่แข่งได้ ไม่เพียงทำให้แตกต่างได้เท่านั้น ยังสามารถทำให้ธุรกิจขยายคุณค่าต่อไปในสายตาของผู้บริโภคในแบบที่ไม่รู้จบได้อีกด้วย