ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ เสน่ห์ผ้ามัดย้อมที่พร้อมมัดใจคุณ

ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ความนุ่มสบายอย่างมีสไตล์และมีเสน่ห์ ผลิตผลจากความเด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้ นำมาสู่ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนปทุมธานี

1594
ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ_cover

อุปสรรคของชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดอยากพบเจอ แต่จะมีใครบ้างที่มีชีวิตแล้วไม่เคยพบเจอปัญหาเลย และในเส้นทางชีวิตของคนแต่ละคนอาจพบเจอปัญหาที่ใหญ่บ้างเล็กบ้างปะปนกันไป แต่จุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่ปัญหานั้นจะใหญ่หรือเล็ก สิ่งสำคัญก็คือ หากพบเจอกับอุปสรรคแล้วเราจะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปได้อย่างไรต่างหาก และใจที่แกร่งพอ ไม่ย่อท้อต่อทุกปัญหาคือสิ่งที่จะนำมาชีวิตให้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ เฉกเช่นเดียวกับ “คุณนัน” ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนภายใต้ชื่อแบรนด์ “ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ” ที่อาศัยใจที่แกร่งและเด็ดเดี่ยว ความชัดเจนในจุดยืนของตนเอง บวกกับความพยายามไม่ย่อท้อต่อปัญหา จึงทำให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนรายเดียวของจังหวัดปทุมธานีที่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจผ้ามัดย้อม

น้องใหม่ดีไซเนอร์

ธันยนันท์ ปิติวัฒนโรจน์ หรือที่ทุกคนชอบเรียกเธอว่า “คุณนัน” ถือว่าเป็นคนที่มีจุดยืนที่ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น เธอจบการศึกษาในด้านการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้า หลังจากจบการศึกษาก็เดินเข้าทำงานในบริษัทส่งออกเสื้อผ้าชั้นนำระดับประเทศเลยทันที แถมตำแหน่งที่เข้าทำงานก็ตรงกับสิ่งที่เธอร่ำเรียนมาด้วย เธอจึงได้เริ่มต้นก้าวสู่ชีวิตการทำงานด้วยการเป็น “ดีไซเนอร์” โดยเธอได้รับมอบหมายในการตัดเย็บเสื้อผ้าผู้หญิงและเด็ก แม้ว่าเธอจะเป็นดีไซเนอร์น้องใหม่ขององค์กร แต่ด้วยรักในอาชีพและความชื่นชอบในการออกแบบที่มีอยู่เต็มหัวใจทำให้ ทุกคอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่เธอออกแบบ กลายเป็นงานที่ตอบโจทย์ตลาด ในอายุการทำงานดีไซเนอร์เธออาจจะถือเป็นน้องใหม่ก็จริง แต่ผลงานที่ออกมาของเธอเทียบได้กับระดับมืออาชีพที่คร่ำหวอดในสายงานมาหลายปีเลยทีเดียว

ถึงเวลาชีวิตเมื่อวิกฤตมาเยือน

มีคนกล่าวว่า “ชีวิตเป็นสิ่งที่ออกแบบได้” ก็ถูกต้อง ชีวิตออกแบบได้ แต่ต้องต่อท้ายคำกล่าวนี้ด้วยว่า “แต่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเสมอไป” ถ้าชีวิตออกแบบได้เหมือนกับการออกแบบเสื้อผ้า ที่ไม่ถูกใจก็ออกแบบใหม่ได้ ทุกคนบนโลกใบนี้ก็คงไม่มีใครมีความทุกข์ ทุกคนคงมีแต่ความสุข เพราะไม่ชอบชีวิตแบบไหนก็ขย้ำทิ้งไปแล้วออกแบบใหม่เดี๋ยวนั้นเลย ซึ่งเส้นทางของชีวิตคนไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เช่นกันกับชีวิตของคุณนัน ที่ทำงานในฐานะดีไซเนอร์อยู่หลายปี ไล่ลำดับตั้งแต่น้องใหม่ไปจนถึงระดับซีเนียร์ ทุกอย่างก็ดูจะไปได้ดี แต่แล้ว…วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก็เข้ามา

พิษเศรษฐกิจทำให้บริษัทส่งออกเสื้อผ้าที่คุณนันทำงานอยู่เกิดขาดสภาพคล่อง ทางบริษัทจึงจำเป็นต้องปรับตัวรับสภาพเศรษฐกิจ จึงเริ่มลดสายการผลิตและเริ่มลดพนักงานในสาขาต่าง ๆ ลงเพื่อประคองธุรกิจให้ไปรอด และแม้คุณนันเองเธอจะอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญและถือว่าสูงในสายงานแต่เธอเองก็ไม่รอดพ้นจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้เช่นกัน ถึงเธอจะยังโชคดีกว่าหลายคนที่ไม่ต้องตกงาน บริษัทยังคงจ้างเธอต่อไป แต่ฐานรายได้ของเธอก็ถูกปรับลดลงตามสภาพ ทำให้เธอเริ่มเกิดปัญหา รายได้เริ่มจะไม่พอรายจ่าย จะทำยังไงดี !! หรือว่านี่คือช่วงเวลาที่เธอต้องลองออกแบบเส้นทางชีวิตของตัวเองใหม่แล้ว…

ก้าวพลาดไม่เป็นไรก้าวต่อไปถ้าใจยังสู้

คุณนันเริ่มกลับมาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และเธอก็พบว่าที่ผ่านมาเธอออกแบบชีวิตเธอในสไตล์ที่สำเร็จรูปมาตลอด เธอไม่เคยเตรียมแบบที่ 2 หรือ 3 ไว้สำรองเลย เรียกว่าเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาหลังเรียนจบก็ได้เข้าทำงานบริษัทชั้นนำเลย เป็นอะไรที่ดูสำเร็จรูปมาก ทำให้เธอไม่เคยคิดหรือวางแผนไว้เลยว่า ถ้าการงานไม่ราบรื่นเธอจะทำอย่างไรต่อไป สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกเลยว่าเธอ “ก้าวพลาด” เอาล่ะ พลาดไปแล้วไม่เป็นไร ขอเพียงใจยังสู้ต่อ ไม่ท้อแท้ความพ่ายแพ้ก็จะไม่มาเยือน เธอเริ่มขยับก้าวต่อไปของชีวิตเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ สิ่งที่เธอเลือกทำก็คือ ยังคงประคับประคองอาชีพในปัจจุบันเอาไว้ และหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมงานประจำ

คุณนันเข้าใจในตนเองดีว่าเธอมีความรักและความชำนาญในเรื่องเกี่ยวกับเสื้อผ้า  เธอจึงเลือกที่จะใช้ช่วงเวลาว่างหรือหลังเลือกงานหารายได้เสริมจากการทำเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงขาย โดยออกแบบและการตัดเย็บ ใช้ผ้าฝ่ายเป็นวัตถุดิบ ในระยะแรกเริ่มต้นจากทำเล็ก ๆ เป็นการลองตลาด พอเริ่มมีลูกค้าก็ขยายธุรกิจมากขึ้นลงทุนมากขึ้นโดยให้คนในครอบครัวเข้ามาช่วยกันดูแล เริ่มมีการออกแบบเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงให้มีหลายขนาดตามช่วงวัยของเด็ก เพิ่มสินค้าใหม่ ๆ ให้เกิดความหลากหลายมากขึ้นจากเสื้อผ้าเด็กอย่างเดียวก็เพิ่มเสื้อผ้าผู้หญิงและเสื้อยืดผู้ชาย มีการขยับขยายไปมีหน้าร้านที่ตลาดนัดจตุจักร ขายในวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ ลูกค้าก็ให้การตอบรับดีพอสมควร ทำให้วิกฤตเรื่องรายได้เริ่มเบาบางลง และเมื่อคุณนันลองนำรายได้จากงานประจำมาเปรียบเทียบกับรายได้จากการทำธุรกิจเสื้อผ้าของตนเอง ปรากฏว่าทางที่คิดว่าจะทำเป็นรายได้เสริมกลับสร้างรายได้ที่ดีกว่างานประจำ เธอจึงตัดสินใจออกจากงานประจำเพื่อมาลุยกับธุรกิจของตนเองอย่างจริงจัง

 

มัดใจทันทีเมื่อรู้จักผ้ามัดย้อม

การก้าวออกมาทำธุรกิจของตนเองแม้จะเหนื่อยมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่เธอไม่กลัวความลำบาก และคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ และจากการที่ได้ลองมาขายเสื้อผ้าเองก็ทำให้เธอได้พบเจอลูกค้า เข้าใจความต้องการและเทรนด์ของลูกค้ามากขึ้น รวมไปถึงการได้สานสัมพันธ์กับผู้คนทำให้เธอเริ่มเห็นช่องทางที่จะขยับขยายธุรกิจของเธอไปอีกขั้น เธอมองถึงเรื่องของการส่งออกเสื้อผ้า แต่ทว่า…สายป่านเธอไม่ได้ยาวแบบนั้น สิ่งที่เธอคิดดูจะไกลเกินกำลังของเธอเกินไปในตอนนี้ แล้วเธอจะก้าวไปต่อกับงานนี้อย่างไร… 

ก็เป็นธรรมดาของตลาดจตุจักร ที่มักจะมีร้านค้าผู้ขายหมุนเวียนเปลี่ยนเจ้ามาขายกันแบบไม่ซ้ำหน้า ใครขายได้ดีก็เช่าที่อยู่กันยาว ๆ ใครมาเปิดร้านลองตลาดแล้วซบเซาลูกค้าไม่ค่อยมาก็ต้องคืนที่ไป เพราะเช่าต่อก็คงไม่คุ้ม แล้ววันหนึ่งก็มีร้านเสื้อผ้ามาเปิดใหม่อยู่ข้าง ๆ ร้านคุณนั้น หลังจากร้านเก่าของคืนที่และย้ายออกไปได้สักระยะ คุณนันเห็นร้านมาเปิดใหม่ ในฐานะพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันจึงเข้าไปทักทาย และพอได้เห็นเสื้อผ้าที่ร้านข้าง ๆ เอามาวางขาย คุณนันก็รู้สึกเหมือนถูกสะกดในทันที เพราะเสื้อผ้าเหล่านั้นล้วนเป็นผ้ามัดย้อม ถึงแม้ว่าเนื้อผ้าอาจจะไม่ใช่งานเกรดพรีเมียมนัก แต่สีสันและลายผ้าที่เกิดจากการมัดย้อมดูมีเสน่ห์สำหรับเธอมากทีเดียว นาทีนั้นคุณนั้นยอมรับว่าเธอถูกผ้ามัดย้อมมัดใจเธอจนแน่นไปเรียบร้อยแล้ว

กลับไปเป็นน้องใหม่อีกครั้ง

หลังจากที่เอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ได้น้อมใจคุณนันให้เกิดความหลงใหลในสีสันและลวดลายของผ้าสไตล์นี้ไปเรียบร้อย คุณนันก็จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะลองประยุกต์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติมาเป็นสไตล์เสื้อผ้าของเธอเองบ้าง แต่ทว่าเธอไม่มีความรู้เรื่องการทำผ้ามัดย้อมเลย เธอจึงตัดสินใจใช้ช่วงเวลาว่างจากการขายเสื้อผ้าไปศึกษาหาความรู้เรื่องการทำผ้ามัดย้อมจากพืชธรรมชาติ ตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีการเปิดสอน แม้ว่าเธอจะเคยเป็นอดีตดีไซเนอร์มืออาชีพที่คร่ำหวอดในเรื่องเสื้อผ้ามานานหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกเลยว่า “แก่เกินเรียน” สำหรับคุณนันแล้วการศึกษาหาความรู้เป็นเรื่องที่ไม่ได้จำกัดวัย แม้ว่าเธอจะต้องกลับไปเป็นน้องใหม่ในวงการเสื้อผ้าอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย เมื่อไม่รู้ก็ต้องเรียนเพื่อให้รู้ ยิ่งเรียนมากศึกษามากก็ยิ่งนำมาใช้ประโยชน์ได้มาก นั่นคือความคิดของเธอ

คุณนันได้เข้าไปศึกษาการทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติจากหลาย ๆ แหล่ง และได้ลงมือฝึกทำผ้ามัดย้อมจากพืชธรรมชาติด้วยตัวเอง จากตรงนั้นทำให้คุณนันได้เข้าใจว่ามีพืชหลายชนิดมากที่สามารถนำมาใช้ในการมัดย้อมได้ และพืชแต่ละชนิดที่นำมาใช้ก็จะให้สีที่แตกต่างกันไป เช่น ฝาง ส่วนที่จะนำมาใช้ก็จะเป็นส่วนแกนของลำต้น สีที่ได้ก็จะมีสีแดง ม่วงแดงและแดงชมพู ครามก็จะใช้ทั้งกิ่งและใบมาหมักเพื่อให้ได้เฉดสีน้ำเงิน ขมิ้นก็จะใช้ส่วนเหง้าขมิ้นมาสับตำบดให้ละเอียดและคั้นกรองเอาน้ำเพื่อให้ได้เฉดสีเหลือง อย่างนี้เป็นต้น จากการเรียนรู้และฝึกฝนทำให้เธอสามารถที่จะทำผ้ามัดย้อมจากธรรมชาติได้จนสำเร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องเจอกับอุปสรรคใหม่อีกครั้ง เมื่อการทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติแบบภูมิปัญญาชาวบ้านนั้นจะสามารถทำได้ทีละผืน ไม่เหมาะที่จะทำออกขายทีละหลายชิ้นแบบที่เธอต้องการ เธอจึงต้องค้นหาวิธีการที่จะขจัดอุปสรรคตรงหน้านี้อีกครั้ง

อุปสรรคมีไว้พุ่งชน

การไม่กลัวต่อปัญหาและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค นับเป็นจุดเด่นของคุณนัน ทำให้ไม่ว่าจะเจอกับอะไรที่ยากเย็นเธอก็จะสามารถก้าวข้ามมาได้เสมอ เมื่อเธอได้รู้ว่าความรู้ที่เธอมีเกี่ยวกับการทำผ้ามัดย้อมธรรมชาตินี้ยังไม่ตอบโจทย์ เธอจึงเดินหน้าหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้เทคนิคการมัดย้อมด้วยวิธีใหม่ ๆ จากนั้นก็ลองนำมาประยุกต์ดัดแปลงตามแบบฉบับของตัวเอง โดยสิ่งที่เธอจะยังคงไว้เสมอก็คือ ความเป็นธรรมชาติ ดีต่อผู้ใช้งานและดีต่อสิ่งแวดล้อม จนในที่สุดความพยายามและไม่ย่อท้อก็ส่งผล เธอสามารถค้นพบเทคนิคการมัดย้อมตามแบบฉบับของเธอเอง แตกต่างไม่ซ้ำใครและสามารถมัดย้อมเสื้อผ้าได้ครั้งละหลาย ๆ ตัวด้วย

รางวัลของคนไม่ยอมแพ้

หลังจากค้นพบเทคนิคมัดย้อมในแบบที่ไม่ซ้ำใครแล้ว คุณนันจึงเริ่มนำมาปรับใช้กับรูปแบบเสื้อผ้าที่ตนเองขายอยู่ โดยคุณนันเน้นเสื้อผ้าให้ความเป็น “ออร์แกนิก” อยู่เสมอ เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้สวมใส่ โดยเฉพาะให้ปลอดภัยไม่เกิดการระคายเคืองผิวของเด็ก จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจกับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายมาก และคุณนันยังได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมนอกจากเรื่องของสีสันที่สวยงามและมาจากธรรมชาติแล้ว ยังมีการเพิ่มลวดลายมัดย้อมที่ดูสะดุดตาและน่าดึงดูดใจ อย่างลายก้อนเมฆ ลายท้องฟ้า ลายหัวใจ และที่ดูจะเป็นไฮไลท์เลยก็คือ ลายยิ้ม เป็นลายที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายให้ความสนใจมาก เพราะต่างบอกว่าเด็ก ๆ ชอบ

นอกจากจะพัฒนาเรื่องสีสันลวดลายแล้ว คุณนันยังได้มีการพัฒนาต่อยอดในเรื่องของสไตล์เสื้อผ้าด้วย โดยเธอได้มีการพัฒนาสร้างสรรค์ไปตามเทรนด์ของยุคสมัย ออกเสื้อผ้ามาตามกระแสความสนใจของตลาด ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มเสื้อผ้าที่เป็นชุดโคโควาที่กำลังได้รับความนิยม การทำเสื้อผ้ามัดย้อมแบบชิโบริ หรือการมัดย้อมสไตล์ญี่ปุ่น การพัฒนาเสื้อผ้ามัดย้อมให้หลากหลายครอบคลุมทั้งชุดสำหรับเด็กผู้และเด็กผู้ชาย เพิ่มงานปักผ้าบนผืนผ้าฝ้ายด้วยลวดลายแบบไทย ๆ ให้กลิ่นอายแบบชาวพื้นเมือง เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาอัปเกรดความรู้และการติดตามเทรนด์อยู่เสมอนี่เองที่เป็นเคล็ดลับความสำเร็จของคุณนัน อันเป็นรางวัลของคนที่ไม่เคยยอมแพ้ จนนำมาซึ่งการก้าวเข้าสู่การเป็นวิสาหกิจชุมชนภายใต้ชื่อ ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ หรือ Finehart by Tanyanan 

ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ

ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ เกิดขึ้นจากการที่เสื้อผ้ามัดย้อมของคุณนันได้รับการตอบรับจากตลาดดี จึงทำให้คุณนันได้ชักชวนเพื่อน ๆ มาช่วยกันจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา เพื่อให้องค์ความรู้ในส่วนนี้สร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับคนในชุมชนได้ รวมถึงเป็นแหล่งรายได้อีกทางให้กับคนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ที่ในขณะนี้ประเทศไทยเราได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มตัวแล้ว ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้ยังคงมีคุณค่าและมีความหมายต่อสังคม พวกเขายังสามารถที่จะสร้างงานสร้างรายได้ให้กับตนเองได้อยู่ การหยิบยื่นบางสิ่งไปให้พวกเขาเหล่านั้นจะเป็นการช่วยเหลือจิตใจให้ผู้สูงอายุไม่เกิดความรู้สึกว่าตนเองด้อยค่า ทำให้พวกเขารู้สึกว่ายังคงมีค่าต่อสังคมเสมอ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมครามจากธรรมชาติของวิสาหกิจชุมชนธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว และผลิตภัณฑ์ของธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ก็ได้มีการจัดแสดงและออกร้านในงานแสดงสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตามห้างสรรพสินค้าบ่อยครั้ง รวมไปถึงยังมีการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย มีหลาย ๆ ชาติต่างให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ของธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ อาทิเช่น ไต้หวัน จีน และออสเตรเลีย เป็นต้น นี่คือตัวอย่างของคนที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง หากใครต้องการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของชุมชนหรือต้องการเรียนรู้เรื่องเทคนิคการทำผ้ามัดย้อม สามารถเดินทางไปได้ที่ 111/46ม.5 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12000 โทร. 097-973-9885 คุณนันพร้อมและยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับทุกคน ส่วนใครที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าก็สามารถเข้าไปที่ Facebook : ธันยนันท์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ แล้ว Inbox ไปสอบถามรายละเอียดกันได้เลย