ยกระดับกลยุทธ์ Content Marketing ให้ได้ผล ด้วยการเรียนรู้ธรรมชาติของคน

การทำ Content Marketing ให้ได้ผลดีมีคนแชร์ออกไป สิ่งหนึ่งที่จะต้องเข้าใจเลยก็คือ เรื่องของคน ถ้าเราเข้าใจว่าพวกเขาเป็นอย่างไร เราจะวางแผนต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

content-marketing-techniques-for-sharing

ต้องยอมรับกันเลยว่าวันนี้การทำ Content Marketing ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อภาพรวมของธุรกิจ ไม่ว่าจะให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งเสริมภาพลักษณ์ หรือแม้แต่ให้ส่งผลต่อยอดขาย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เพราะวันนี้คอนเทนต์ล้นทะลักโลกออนไลน์ การจะให้คนหันมาโฟกัสที่เนื้อหาของเราไปจนกระทั่งยอมตัดสินใจที่จะทำการ “แชร์” ต่อออกไปใน Social Media นั้นยากมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าตัว

ตรงนี้จึงกลายเป็นโจทย์ใหม่ที่ท้าทายสำหรับคนทำธุรกิจรวมไปถึง นักการตลาดที่ต้องอาศัยกลยุทธ์การตลาดแบบ Content Marketing เข้าช่วยภาคธุรกิจในการกระตุ้นตลาด ว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะทำให้คนแชร์คอนเทนต์ของเราออกไปเยอะ ๆ หรือจะต้องทำคอนเทนต์แบบไหน ต้อง Storytelling อย่างไรคนถึงจะแชร์ออกไป

อันที่จริงแล้วปัจจัยหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ เลย กลับไม่ใช่ในส่วนของตัวคอนเทนต์ แต่กลับเป็นเรื่อง “ธรรมชาติของคน” ที่เราควรจะต้องทำความเข้าใจให้กระจ่าง เพราะถ้าเรารู้อุปนิสัยของคน เข้าใจแนวคิดของคนที่เราเล็งไว้แล้วว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา เราจะเข้าใจได้เองว่า คอนเทนต์แบบไหนที่เขาจะแชร์ หรือเหตุผลที่คน ๆ นั้นจะแชร์คอนเทนต์ของเราคืออะไรและอยู่ตรงไหน ครั้งนี้เราจึงมีการแบ่งธรรมชาติของคนออกเป็นกลุ่ม ๆ มาให้ทุกคนได้เรียนรู้ทำความเข้าใจ ซึ่งแบ่งคนออกเป็น 6 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีลักษณะธรรมชาติเป็นอย่างไร ลองมาดูกัน

 

1.Altruists: กลุ่มคนที่ปรารถนาส่งต่อประโยชน์ให้กับผู้อื่น

กลุ่มคนกลุ่มแรกนี้ธรรมชาติของพวกเขาจะเป็นที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับผู้อื่น ซึ่งเมื่อคุณได้ทำ Content Marketing ดี ๆ ออกมาไม่ได้เน้นขายของอย่างเดียว เป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้คน อาจเป็นไอเดียใหม่ความรู้ใหม่ หรือมีคุณค่าทางด้านความรู้สึก และได้สื่อสารไปยังคนกลุ่มนี้พอดี แนวโน้มที่พวกเขาจะแชร์ต่อคอนเทนต์ของเราก็มีสูงมาก เพราะคอนเทนต์ตรงกับจริตธรรมชาติของเขา

Tips:

ถ้ากลยุทธ์การตลาดคอนเทนต์ของคุณเน้นการ Storytelling เรื่องราวที่มีประโยชน์ต่อจิตใจ มีประโยชน์ต่อการนำไปปรับใช้ในชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ อาจเป็นเทคนิคต่าง ๆ หรือ แนว How to คุณจะต้องเน้นสื่อสารไปยังคนกลุ่มนี้ แล้วพวกเขาจะแชร์คอนเทนต์ของเราออกไปเองโดยธรรมชาติ

 

2.Careerist: กลุ่มคนที่ต้องการแสดงออกถึงความรู้และความเป็นมืออาชีพ

คนกลุ่มที่สองนี้ ธรรมชาติของพวกเขามักต้องการการยอมรับจากผู้อื่น ในฐานะผู้มีความรู้ ผู้รู้จริง ตัวจริงในวงการ หรือเป็นมืออาชีพในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งถ้าคนกลุ่มนี้พบคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับที่เขาสนใจ หรืออยู่ในแวดวงอาชีพของเขา และเป็นคอนเทนต์ที่เต็มไปด้วยความรู้แบบแน่น ๆ ล่ะก็ คนกลุ่มนี้จะไม่รั้งรอที่จะรีบแชร์ต่อเลย

ส่วนหนึ่งไม่ใช่แต่เพียงคนกลุ่มนี้ต้องการแสดงตัวตนให้คนอื่นยอมรับเท่านั้น แต่ยังเป็นการบอกคนอื่นด้วยว่า เขากำลังสนใจในเรื่องใด และ คอนเทนต์เหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีประโยชน์ในเชิงความก้าวหน้าของอาชีพการงานและพัฒนาตัวเองด้วย

Tips:

ปัจจุบันเราจะเห็น Content Marketing แนว ๆ นี้ได้บ่อยขึ้น จากกลุ่มธุรกิจสัมมนาการตลาด สอนทำธุรกิจ กลุ่มธุรกิจไลฟ์โค้ชต่าง ๆ ถ้าคุณทำคอนเทนต์ในแนวนี้และสื่อสารมายังคนกลุ่มนี้ได้ล่ะก็ พวกเขาแชร์คอนเทนต์คุณแน่อย่างไม่ต้องสงสัย

 

3.Hipster: กลุ่มคนที่สนใจสังคมแต่ก็มีความสนใจเฉพาะตัวด้วย

กลุ่มคนที่เรียกว่า Hipster นั้นจริง ๆ เหมือนจะเป็นคนที่ทำอะไรไม่ตามใคร เหมือนไม่สนใจสังคม แต่จริง ๆ แล้วคนกลุ่มนี้สนใจสังคมมากพอสมควรทีเดียว เพราะการที่จะทำอะไรให้แตกต่างจากคนอื่น ก็ต้องรู้ด้วยว่าสังคมกำลังไปทางไหน กำลังฮิตเรื่องอะไร พวกเขาจะทำให้ต่างออกไปเพื่อให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Tips:

คอนเทนต์สำหรับคนกลุ่มนี้จึงต้องเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์เกี่ยวกับศิลปินและวงดนตรีต่าง ๆ ที่มีแฟนคลับเฉพาะเจาะจงเป็นคนกลุ่มหนึ่งเลย พวกเขาพร้อมจะแชร์คอนเทนต์ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่เขาสนใจ หรือสิ่งที่เขาชอบ โดยในคอนเทนต์นั้น ๆ พวกเขามักจะมีการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวลงไปด้วยเสมอ ฉะนั้น ถ้าจะสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ก็ต้องวางแผน Content Marketing ให้เนื้อหากระตุ้นให้แสดงออกความรู้สึก หรือกระตุ้นให้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น

 

4.Boomerangs: กลุ่มคนที่ต้องการเป็นจุดสนใจในสังคม

คนกลุ่มที่ 4 นี้อาจจะคล้าย ๆ กับ กลุ่มที่ 3 แต่จะมีความแรงกว่าในแง่ของการแสดงออก ที่เขาพร้อมจะ Reaction กลับไปเสมอ เมื่อได้รับอะไรเข้ามา เพราะเขาต้องการให้คนรอบข้างสนใจในตัวพวกเขา

Tips:

หากจะสื่อสารกลับคนกลุ่มนี้ คอนเทนต์ก็ควรจะเป็น Trending Topic เป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปที่อยู่ในกระแสสังคม อาจจะเจาะจงลงไปก็ได้ อย่างเรื่องของเทคโนโลยี แนวทางการพัฒนาตนเองในชีวิตการทำงาน อุปสรรคในการทำงานและการแก้ไข หรืออะไรทำนองนี้ แต่ต้องเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างตรงกับชีวิตพวกเขา คนกลุ่มนี้มักจะเกาะกระแสสังคมอยู่แล้ว เพื่อให้ตนเองได้รับความสนใจ ถ้าคอนเทนต์มาแนว ๆ นี้อยู่แล้ว จะได้รับการแชร์ง่ายมาก

 

5.Connectors: กลุ่มคนที่เป็นนักคิด นักเชื่อมโยงและต่อยอด

กลุ่มคนที่ 5 จริง ๆ แล้วก็มีคนกลุ่มนี้อยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ในสายอาชีพคนทำคอนเทนต์เหมือน ๆ กัน คนกลุ่มนี้จะเป็นนักคิด และนักต่อยอดที่ดี เขาจะเอาเนื้อหาจากการ Storytelling ต่าง ๆ มาต่อยอด และเชื่อมโยงเข้าหากันจนกลายเป็นงานใหม่ หรือบางทีอาจจะได้ประเด็นเล็ก ๆ มา แล้วนำมาทำใหม่ให้น่าสนใจมากขึ้น

Tips:
การจะทำคอนเทนต์ให้คนกลุ่มนี้รู้สึกอยากแชร์ออกไป จึงต้องเป็นเรื่องที่ลุ่มลึกและพิถีพิถันพอสมควร ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่ต้องมีประเด็นให้ชวนคิด อาจเป็นเรื่องปลายเปิด จุดประเด็นขึ้นมา แต่ไม่จำเป็นต้องสรุป ให้พวกเขาไปคิดต่อยอดกันต่อ หรืออาจเป็นเรื่องประเด็นสังคมหนัก ๆ ที่ไม่มีทางแก้ ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน หากคุณต้องการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ก็ต้องหาเรื่องราวแบบนี้มาเล่าให้เขาฟัง

 

6.Selective: กลุ่มคนที่มีความเป็นปัจเจกไม่เหมือนใคร

คนกลุ่มสุดท้าย จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง พวกเขาจะมีบางมุมในตัวเองที่มีความเป็นปัจเจกสูง อาจไม่ใช่คนที่เข้าสังคมหรือสื่อสารแบบสาธารณะมากนัก ดังนั้น คนกลุ่มนี้มักจะไม่ค่อยแชร์อะไรออกไป ถ้าคอนเทนต์นั้นโดนใจเขาจริง ๆ เขาจะแชร์ไปสำหรับคนที่เขาเลือกว่าจะแชร์ด้วยเท่านั้น

Tips:

หากกลุ่มเป้าหมายในการทำ Content Marketing ของเราต้องการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ก็ต้องบอกเลยว่า ทำใจในเรื่องของการแชร์ เราต้องไม่คาดหวังเอาจากคนกลุ่มนี้ ดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนักต่อการทำธุรกิจหรือทำการตลาด แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ เพราะแนวคอนเทนต์สำหรับคนกลุ่มนี้เป็นได้หลายอย่างไม่จำกัด จะเป็นข่าว เป็นเรื่องราวที่สบาย ๆ ง่าย ๆ ไลฟ์สไตล์หรือจะเป็นเรื่องหนัก ๆ เฉพาะด้านก็ได้ทั้งหมด จึงเป็นกลุ่มคนที่เราสามารถมีอิสระในการทำคอนเทนต์ได้แบบไม่จำกัดแนวเลย

 

นี่คือ ธรรมชาติของคนที่แบ่งได้ออกเป็น 6 กลุ่ม พร้อมกับแนวทางในการสร้างสรรค์ Content Marketing สำหรับพวกเขา เพื่อให้เกิดการแชร์หรือเกิดการต่อยอดจากเนื้อหาที่เราสร้างออกไป ถ้าหากเข้าใจพวกเขา เราก็จะกำหนดแนวทางในการทำได้ง่ายขึ้น และอาจส่งผลดีต่อการลงทุนด้านคอนเทนต์มากขึ้น ลองนำไปเป็นแนวทางสำหรับการใช้งานจริงกันดูได้เลยนะ