พัตรามาลัยกร แบรนด์ที่ไม่นิ่งนอนกับการต่อยอดเพื่อทางรอดของผู้เปราะบาง

พัตรามาลัยกร แบรนด์ที่มองเห็นคุณค่าของกลุ่มเปราะบาง จนนำมาซึ่งการต่อยอดสิ่งเดิมจนเกิดสิ่งใหม่ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตพวกเขาเหล่านั้น

1172
พัตรามาลัยกร

เมื่อชายชาวญี่ปุ่นได้มาพบรักกับหญิงไทย แต่ดันเจอโจทย์ใหญ่ที่ว่า ไม่รู้จะหาสิ่งใดที่เหมาะสมกับการนำไปไหว้ผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงดี ? เฮ้อ…แค่คิดก็เพลียแล้ว เพราะความไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมไทย ความแตกต่างทางวัฒนธรรมอาจไม่เป็นอุปสรรคสำหรับหัวใจ 2 ดวง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงองค์ประกอบของชีวิตคู่ไม่ได้มีแค่คนสองคนเสมอไป เพราะคนทั้งสองก็ย่อมมีภูมิหลังที่มาที่แตกต่าง แต่แล้วชายญี่ปุ่นผู้นี้ก็ได้พบกับแบรนด์ “พัตรามาลัยกร” แบรนด์ที่มีสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ที่จะช่วยให้ปัญหาที่เขากำลังคิดหนักคลี่คลายลง แล้วผลิตภัณฑ์ที่ชายญี่ปุ่นคนนี้ไปพบคืออะไรกันนะ….

Aging Society 

ท่ามกลางกระแสโลกที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความเป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำให้คนรุ่นใหม่ทุกชาติในโลกที่เติบโตท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเตรียมตัวที่มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว โดยลืมที่จะเหลียวกลับมามองว่า สังคมมีปัญหาที่น่าหนักใจซ่อนตัวอยู่ การแข่งขันที่สูงขึ้นบีบรัดให้คนต้องดิ้นรนปรับตัวให้อยู่รอด ต้องเรียนให้สูงต้องมีเงินให้มาก และหากไม่สามารถที่จะสร้างรายได้หรือฐานะได้ตามที่หวังไว้ก็ไม่ควรที่จะแบกรับภาระกับชีวิตคู่หรือการสร้างครอบครัวใหม่ ทำให้คนยุคนี้แต่งงานกันช้าและมีลูกน้อยลง ทำให้อัตราประชากรที่เกิดใหม่น้อยลง

ในขณะที่เด็กเกิดใหม่น้อยลง แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นกลับกลายเป็น “คนสูงวัย” เพราะไม่ว่าจะเป็นคน Gen ก่อน หรือคน Gen ปัจจุบัน ก็ล้วนมุ่งหน้าไปสู่ความชราด้วยกันทั้งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากว่าสัดส่วนระหว่าง “คนรุ่นใหม่” กับ “คนสูงวัย” ไม่สมดุลกัน ผลลัพธ์ที่จะตามมาในอนาคตก็คือ โลกจะมีแต่คนวัยพึ่งพิงและขาดคนวัยแรงงานที่จะมาพัฒนาประเทศ

“ญี่ปุ่น” ถือเป็นประเทศหนึ่งที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยมานานแล้ว ดังนั้น คนญี่ปุ่นจึงทราบดีว่า ปัญหาประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นสร้างปัญหาเช่นไรกับประเทศบ้าง นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชายชาวญี่ปุ่น ผู้ที่จะมาแต่งงานกับสาวชาวไทยผู้นี้พอได้เห็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์พัตรามาลัยกร จึงเกิดสนใจและอยากทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ในทันที และผลิตภัณฑ์จากพัตรามาลัยกรดังที่กล่าวมานี้ก็ไม่ใช่อื่นใด ก็เป็น “ผ้าขาวม้ามาลัยกร” นั่นเอง

พัตรามาลัยกร คิดต่อยอดเพื่อสังคม

แบรนด์พัตรามาลัยกรนั้น ถือกำเนิดขึ้นโดย คุณสุพัตรา วงศ์โกเมศ ประธานผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าโอทอปของจังหวัดสระแก้ว ผู้ที่คอยเฝ้ามองมาตลอดว่าจะรับมือกับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนี้อย่างไรดี ซึ่งเพียงแค่ในพื้นที่ของจังหวัดสระแก้ว ตามชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ก็มีประชากรกลุ่มเปราะบางทั้งผู้สูงอายุ และผู้พิการทางร่างกายกระจายอยู่ในทุกชุมชน ผู้คนส่วนใหญ่มักมองว่ากลุ่มคนเหล่านี้พวกเขาต้องการที่พึ่งพิง ต้องการคนดูแล จึงทำให้คนในสังคมเกิดชุดความคิดว่าพวกเขาคือ “ภาระที่ต้องแบก” นั่นทำให้สังคมทอดทิ้งพวกเขา และปล่อยให้พวกเขาจมอยู่กับความเปล่าเปลี่ยว นั่งเฝ้ามองลูกหลานในวันคืนที่ผ่านไปอย่างไร้ค่า ปล่อยให้กาลเวลาและความเหงาค่อย ๆ กัดกลืนชีวิตไปเรื่อย ๆ อย่างไร้ความหมาย

แต่ในมุมมองของคุณสุพัตราแล้ว เห็นว่าผู้สูงวัยและผู้พิการทางร่างกายที่เป็นกลุ่มเปราะบางเหล่านี้แท้จริงแล้วพวกเขายังมีศักยภาพ ยังเป็นกำลังส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจได้ เพียงแค่พวกเขา “ขาดโอกาส” สิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการไม่ใช่การ “ดูแล” แค่ต้อง “ไม่ดูแคลน” พวกเขาเท่านั้นก็เพียงพอ ตรงนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณสุพัตราเริ่มคิดถึงการนำสิ่งที่มีอยู่แล้วในชุมชนท้องถิ่นมาต่อยอดเพื่อ “ยกระดับคุณภาพชีวิต” ของคนกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ อันจะเป็นหนทางหนึ่งที่ดีในการรับมือกับปัญหาสังคมผู้สูงวัย

pattra-01ผ้าขาวม้ามาลัยกร ต่อยอดเพื่อสร้างคุณค่าใหม่

จากการที่คุณสุพัตราเป็นประธานกลุ่มโอทอปของจังหวัดสระแก้ว และได้บริหารดูแลร้าน  OTOP Outlet @สระแก้ว มาหลายปีจึงทราบดีว่า สระแก้วมีความโดดเด่นในเรื่องผลิตภัณฑ์ “ผ้าขาวม้า” เป็นภูมิปัญญาการถักทอที่สืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นก่อน ๆ จนนำมาสู่อาชีพของคนในชุมชนท้องถิ่นจังหวัดสระแก้วในเวลาต่อมา เหตุที่สระแก้วโดดเด่นในเรื่องนี้ก็เพราะว่า พื้นที่บริเวณจังหวัดสระแก้วเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นดีในเรื่องของเส้นใยที่จะนำมาใช้ในการถักทอ นั่นจึงทำให้ผ้าขาวม้าของจังหวัดสระแก้วนั้นมีความแตกต่างจากผ้าขาวม้าที่อื่นอยู่ไม่น้อย กับเสน่ห์ของเส้นใยที่ทอออกมาแล้วเกิดความนุ่มมือ และผ้าจะมีความทนทานสูงสามารถใช้งานได้ยาวนานไม่เปื่อยหรือขาดง่าย แต่ปัญหาก็คือ เมื่อมีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้นาน ผู้คนจึงไม่จำเป็นต้องซื้อบ่อย และบวกกับความนิยมในการใช้ผ้าขาวม้าของผู้คนในสังคมไทยก็ลดน้อยลงไปจากเดิม ทำให้ยอดจัดจำหน่ายไม่ได้สูงมากในแต่ละเดือน 

แม้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จะมีการประยุกต์ดัดแปลงนำเอาผ้าขาวม้ามาตัดเป็นเสื้อผ้า นำมาทำเป็นเนกไทแล้วก็ตาม แต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนในช่วงระยะเวลาเพียงสั้น ๆ คุณสุพัตราจึงพยายามค้นหาว่า จากผ้าขาวม้าธรรมดา ๆ จะสามารถต่อยอดไปต่อกับอะไรได้บ้าง โดยที่การต่อยอดครั้งนี้ต้องช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มเปราะบางแบบยั่งยืนได้ จนในที่สุดแล้วคุณสุพัตราก็ไปตกผลึกที่การต่อยอดเปลี่ยนผ้าขาวม้าแบบเรียบ ๆ มาเป็นผ้าขาวม้ามาลัยกร 

pattra-02-2สะท้อนอัตลักษณ์ไทยผ่านพวงมาลัยผ้าขาวม้า

มาลัยกร นั้นถือว่าเป็นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยที่มีสืบกันมาแต่โบราณ คนไทยในสมัยก่อนเมื่อผู้น้อยจะไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อขอพรเนื่องในโอกาสต่าง ๆ สิ่งที่จะใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงความเคารพนอบน้อม หรือเป็นสัญลักษณ์แทนความกตัญญูก็คือ พวงมาลัยคล้องมือ หรือ พวงมาลัยกรนั่นเอง แต่พวงมาลัยดอกไม้จริง วางไว้เพียงข้ามวันก็แห้งเหี่ยวเฉา แบบนี้ถ้ามอบเป็นพวงมาลัยที่ทำมาจากผ้าขาวม้าย่อมดีกว่าแน่นอน

คุณสุพัตราได้มอบความรู้ให้กับเรา ทำให้เราได้มองเห็นอีกมุมหนึ่งของความงดงามตามแบบฉบับไทย ที่บางที่คนยุคใหม่อย่างเช่นพวกเราบางทีก็อาจจะลืมเลือนไป คุณสุพัตรามองว่า พวงมาลัยผ้าขาวม้า หรือ ผ้าขาวม้ามาลัยกร เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ไทยได้อย่างลึกซึ้งและชัดเจน ทั้งในแง่ของรูปธรรมที่จับต้องได้ผ่านผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าและในแง่ของนามธรรมที่เป็นขนบประเพณีที่สะท้อนผ่านออกมาจากการต่อยอดเป็นพวงมาลัยกร 

ด้วยเหตุนี้คุณสุพัตราจึงเลือกที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์พวงมาลัยผ้าขาวม้า โดยได้มีการนำองค์ความรู้ในเรื่องการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างผ้าขาวม้าให้เป็นพวงมาลัยกรมาจัดระบบ ให้มีขั้นตอนและวิธีการทำที่ชัดเจน จากนั้นก็นำองค์ความรู้และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงไปฝึกสอนแนะนำให้ผู้สูงอายุและผู้พิการทางร่างกายได้ฝึกหัดทำ เป็นการละลายความเหงาเศร้าซึมด้วยไฟแห่งเป้าหมาย ผ่านทักษะใหม่ ๆ ที่ได้เรียนรู้ ทำให้กลุ่มผู้เปราะบางเหล่านี้ได้มองเห็นคุณค่าของตนเองในอีกรูปแบบหนึ่ง

เมื่อได้บุคลากรที่มีความรู้และทำผลิตภัณฑ์ได้แล้ว คุณสุพัตราจึงรวบรวมกลุ่มคนเปราะบางเหล่านี้มาจัดตั้งเป็นกลุ่มในนาม “กลุ่มสานสวยเดคูพาจ” และเริ่มหาตลาดเพื่อที่จะกระจายสินค้าไปจำหน่ายในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่เพียงแค่นั้นคุณสุพัตรายังมีการผลักดันผลิตภัณฑ์นี้ให้กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนภายใต้แบรนด์ “พัตรามาลัยกร” ด้วย เพื่อให้สินค้าสามารถที่จะก้าวต่อไปในอนาคตและสามารถกลายเป็นอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการทางร่างกายได้นั่นเอง

 

จากพึ่งพิง สู่การพึ่งพา

ผลิตภัณฑ์ชุมชนของพัตรามาลัยกร ได้มีโอกาสไปจัดแสดงและวางจำหน่ายตามงานแสดงสินค้าโอทอปอยู่เสมอ และทุกครั้งที่มีการนำผลิตภัณฑ์ไปออกงาน คุณสุพัตราก็ไม่ลืมที่จะพากลุ่มผู้สูง กลุ่มผู้พิการทางกาย กลุ่มคนที่เป็นออทิสติก หรือสมาธิสั้น อันเป็นผู้ผลิตตัวจริงเสียงจริงในผลิตภัณฑ์นี้ไปออกงานด้วยเสมอ เท่ากับเป็นการชุบชูใจที่เคยเหี่ยวแห้งของพวกเขาให้กลับมามีชีวิตชีวาและมีความหวังอีกครั้งหนึ่ง

และผลิตภัณฑ์ชุมชนของพัตรามาลัยกร ซึ่งก็คือผ้าขาวม้ามาลัยกรนี่เอง ที่ชายชาวญี่ปุ่นผู้กำลังจะแต่งงานกับสาวไทยคนนั้นได้เห็น ได้สัมผัส ซึ่งทันทีที่เขาได้รับรู้เบื้องหลังที่มาของผลิตภัณฑ์ของพัตรามาลัยกรเขาก็ไม่ลังเลที่จะเลือกผลิตภัณฑ์นี้เป็นสิ่งของที่จะไปมอบให้กับผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงเลย เพราะด้วยเขาเป็นชาวญี่ปุ่นที่ทราบดีว่าปัญหาสังคมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นนั้นส่งผลต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศเขาอย่างไร การที่พัตรามาลัยกรสามารถที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม ๆ ในท้องถิ่นมาสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเป้าหมายใหม่ให้ชีวิตของผู้สูงวัยรวมถึงผู้พิการทางร่างกายได้ ก็เท่ากับเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น เปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขาจากการ “พึ่งพิงผู้อื่น” สู่การ “พึ่งพาตนเอง” ได้อย่างน่าสนใจ

พร้อมกันนั้นผลิตภัณฑ์ชุมชนของพัตรามาลัยกรยังสะท้อนความเป็นไทย ตอบโจทย์ตลาดในแง่สินค้าในเชิงอัตลักษณ์ไทยได้เป็นอย่างดีด้วย ชายชาวญี่ปุ่นผู้นี้จึงรู้สึกปลื้มใจมากที่ได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ชุมชนชิ้นนี้ แบบนี้การสานสัมพันธ์อย่างนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงก็จะง่ายขึ้น และความรักของเขากับสาวชาวไทยก็คงจะราบรื่นอย่างที่เขาปรารถนาไว้แน่นอน ตอนนี้เขาไม่ต้องเป็นกังวลอะไรอีกแล้ว ที่สำคัญเขายังมีไอเดียด้วยว่าจะนำผลิตภัณฑ์ชุมชนของพัตรามาลัยกรนี้ไปแจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งงานของเขาอีกด้วย

pattra-03OTOP Outlet @สระแก้ว 

สำหรับความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้ามาลัยกร ก็อยู่ตรงที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยมีความเลอค่าในตัวเอง ผ้าขาวม้าได้รับการถักทอแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความประณีต และเสริมด้วยการเรียงร้อยเส้นด้ายกับดิ้นทองสลับทับซ้อนกันไปมาอย่างพิถีพิถัน จนได้มาซึ่งของขวัญชิ้นสำคัญที่ดูงามตา 

ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแค่ดูความน่ารักสวยงาม แต่สามารถที่จะนำไปมอบเป็นของขวัญให้แก่กันได้ในหลาย ๆ โอกาส เช่นการนำไปมอบเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ เป็นของขวัญแทนใจของคนหนุ่มสาว การนำไปมอบให้เป็นของขวัญให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือเนื่องในโอกาสสำคัญหรืองานเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นของชำร่วยในงานแต่งงานก็ได้อย่างนี้เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วคุณสุพัตราก็ยังไม่หยุดนิ่งกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์พัตรามาลัยกร ยังคงเดินหน้าที่จะพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้เกิดความหลากหลายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยในอีกไม่ช้านี้ ก็จะมีผลิตภัณฑ์พวงมาลัยจากผ้าขาวม้าที่ใช้สำหรับการแขวนเพื่อไหว้ย่านางรถ แม่ย่านางเรือตามคติความเชื่ออันเป็นที่นิยมของคนไทย ที่พิเศษยิ่งกว่าก็คือ ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่ใกล้จะวางจำหน่ายนี้ไม่ได้เพียงแค่สวยงามดูเก๋ไก๋แบบไทย ๆ เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมความหอมที่มาจากการอบร่ำตำรับไทยแท้ ๆ ด้วย แค่นึกก็ทำให้รู้สึกว่าอยากจะได้ลองเห็นและลองสัมผัสกลิ่นแล้วสิ  

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะเริ่ม “ปิ๊ง” กับผลิตภัณฑ์ของพัตรามาลัยกรกันแล้ว และคงอยากรู้ว่าถ้าสนใจผลิตภัณฑ์พวงมาลัยจากผ้าขาวม้า อยากจะซื้อไว้เป็นของฝากคุณพ่อคุณแม่ และผู้ใหญ่ที่เคารพจะสามารถไปดูสินค้าหรือสั่งซื้อได้จากทางไหน ก็บอกกันตรงนี้เลยว่าผลิตภัณฑ์ของพัตรามาลัยกรมีวางจำหน่ายที่ร้าน OTOP Outlet @สระแก้ว พิกัดก็อยู่ตรงปั๊ม ปตท. อำเภอวัฒนานคร ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ใครผ่านไปแถวนั้นก็สามารถแวะเวียนไปซื้อและเยี่ยมชมสินค้าต่าง ๆ ภายในร้านที่มีอยู่มากมายหลายอย่างได้ นอกจากนั้นแล้วทางร้านก็ยังมีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย ใครสนใจก็สามารถเข้าไปติดต่อสอบถามรายละเอียดกันได้ที่ Facebook : พัตรา ผ้าขาวม้ามาลัยกร หรือ Add Line : SUPATTRA_NAL กันได้เลย บอกเลยนี่คือสุดยอดของฝากที่ใครได้รับก็ต้องถูกใจ

pattra-04