ปี 2021 กำลังใกล้เข้ามาถึงเรากันในทุกปี จะเป็นปีที่ดีและปีแห่งโอกาสของใครกันบ้างก้คงต้องตามดูกันไป แต่สำหรับเรื่องของ Digital Marketing สำหรับภาคธุรกิจต่าง ๆ มีประเด็นแนวโน้มต่าง ๆ  ที่น่าสนใจอย่างแน่นอน เชื่อว่าการตลาดดิจิทัล ในปี 2021 นี้คงจะมีหลายสิ่งหลายย่างที่เปลี่ยนแปลงไปถึงขั้นพลิกโฉม รวมถึงอาจจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ และ คงมีอีกหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงในลักษณะสืบเนื่องมาจากปี 2020

เทรนด์ Digital Marketing 2021 น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นมา ครั้งนี้ทีมงาน Incontent.co ได้วิเคราะห์และรวบรวม มานำเสนอแก่ทุกท่าน หวังว่าคงพอจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านในการกำหนดแผนกลยุทธ์การตลาดกันบ้างในอนาคตอันใกล้นี้

 

1.เกิดผู้เล่นรายใหม่ในตลาด (แต่หน้าเดิม)

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่ปรับตัวไปกับความเป็นดิจิทัลช้า หรือ ค่อนข้างต่อต้านกับการปรับตัวในธุรกิจตนเอง โควิด 19 จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดภาวะ “จำเป็นต้องปรับตัว” แม้ว่าในปีหน้าเรื่องของวัคซีนน่าจะมาคลี่คลายอะไรบางอย่างลงไปได้ แต่ถึงอย่างไรวัคซีนก็คงยังไม่ทั่วถึงเพียงพอที่จะหยุดยั้งความร้ายกาจของโควิดได้แบบเต็มร้อย ผลข้างเคียงจากสถานการณ์กับโควิดจะยังคงส่งผลต่อภาคธุรกิจอยู่่ ทำให้บางธุรกิจที่ค่อนข้างร่อแร่อยู่ในขณะนี้ จะเริ่มถึงทางตันจนต้องหาวิธีดิ้นรนปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด

เนื่องด้วยปี 2020 ภาคธุรกิจน้อยใหญ่ได้รับผลกระทบ ต่างพากันปรับเข้าสู่ความเป็นออนไลน์และบางส่วนพัฒนาเข้าสู่ระบบ Digital Marketing เต็มตัว หลาย ๆ ผู้ประกอบการที่ยังรอและไม่ปรับตัวตามในปีที่แล้วก็จะเริ่มเห็นว่า ตนเองจะเริ่มอยู่ไม่ได้ จึงจำยอมที่จะต้องปรับตัวเองเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลบ้างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้ภาวะของตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน เพราะผู้เล่นในตลาดรายใหม่จะเพิ่มจำนวนขึ้น จะมีการวางกลยุทธ์การตลาดกันใหม่และเข้ามาแข่งขันในตลาดธุรกิจเดียวกันมากขึ้น ซึ่งรายที่เข้ามาใหม่แท้จริงก็คือ กลุ่มธุรกิจเดิมที่เพิ่งปรับตัวเข้ามาสู่วงจร Digital Marketing นั่นเอง

แต่ผู้เล่นรายใหม่เหล่านี้ก็น่าห่วง เพราะการเรียนรู้และการปรับตัวเข้าสู่ Digital Marketing นั้นจะช้ากว่าเพื่อน นั่นก่อให้เกิดความเสี่ยงในการปรับตัวครั้งนี้มากขึ้นและโอกาสที่จะประสบความสำเร็จตามกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่นั้นมีน้อยลงอย่างมากทีเดียว

 

2.Digital Red Ocean

สนามการแข่งขันทางการตลาดแบบดิจิทัล จะแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น การทำ Digital Marketing จะกลายเป็นเรื่องที่ธุรกิจทุกระดับลงไปเกี่ยวข้องด้วย และไม่ว่าธุรกิจนั้นจะล้ำสมัยนำเทรนด์ หรืออยู่ในกลุ่มที่ตกเทรนด์ไปแล้วก็ตาม ก็จะพูดถึงเรื่องนี้และจะพยายามหาวิธีการทำให้ตนเองอยู่ในโลกดิจิทัลให้ได้ไม่ทางใดทางหนึ่ง นั่นทำให้แนวโน้มของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Digital Marketing โดยตรงอย่างกลุ่มโฆษณา กลุ่มทำคอนเทนต์ต่าง ๆ จะแข่งขันกันในด้านราคาแบบเดือดขึ้น บางรายอาจถึงขั้นยอมขาดทุนเพื่อให้ได้ลูกค้าเลยทีเดียว

digital-red-oceanซึ่งนั่นแปลว่า Digital Marketing อาจไม่ใช่แสงสว่างและโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจอีกต่อไปแล้วก็ได้ ผู้ชนะหรือผู้ที่จะรอดในมหาสมุทรนี้ก็คือ ผู้ที่เข้าถึงเทคโนโลยีและเข้าถึงความเป็นดิจิทัลอย่างแท้จริงเท่านั้น

 

3.มีการวางแผนโปรโมทโฆษณาอย่างเป็นระบบมากขึ้น

เมื่อทุกอย่างกระโจนเข้ามาสู่ออนไลน์ และทุกอย่าง ทุกสินค้า ทุกบริการ ทุกข้อมูลสามารถหาได้ผ่านระบบออนไลน์ นั่นทำให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกับคนจำนวนมาก ในขณะที่งบประมาณของธุรกิจมีจำกัด แต่เรื่องของการโปรโมทโฆษณาให้ธุรกิจและแบรนด์ไปถึงลูกค้าก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ การวางแผนทำ Digital Marketing ในแง่ของการโฆษณาโปรโมทนั้นจึงต้องทำอย่างรอบคอบและรัดกุมขึ้น ทุกอย่างจะเริ่มมีระบบมากขึ้น

จะมีการใช้กลยุทธ์ Audience Optimization, Content Optimization และ Journey Optimization กันมากขึ้น ในส่วนของคอนเทนต์จะเริ่มมีการนำเสนอในสไตล์ Storytelling ในสัดส่วนที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงมากขึ้น

 

4.ให้ความสำคัญกับเรื่อง Customer Experience มากยิ่งขึ้น

ธุรกิจต่าง ๆ จะมองเรื่องของการรักษาฐานลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะต่างเข้าใจว่าเศรษฐกิจภาพรวมจะยังไม่ฟื้น กำลังซื้อของลูกค้าจะยังไม่มา นั่นหมายถึงว่า การจะได้ลูกค้ารายใหม่เพื่อให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากทีเดียว สิ่งที่จะประคองธุรกิจให้เดินต่อไปได้ก็คือ การพยายามรักษฐานลูกค้าเก่าไว้ ในขณะเดียวกันก็ต้องหาลูกค้าใหม่ให้ได้ด้วย ทั้งหมดจึงมาลงเอยที่เรื่องของ Customer Experience การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเป็นทางเดียวที่จะจัดสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองทางได้ ต้องทำให้ลูกค้า “ติดใจ” ในสินค้าและบริการ

digital-crmผู้ประกอบการจะพยายามนำ Digital Marketing มาปรับใช้ในแง่ต่าง ๆ และจะเริ่มเน้นไปที่การใช้คอนเทนต์สร้างประสบการณ์ที่ดีเบื้องต้นให้กับลูกค้า ส่งมอบไอเดีบใหม่ ความรู้ใหม่หรือข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับลูกค้า แต่อย่างไรก็ดีภาคธุรกิจต่างรู้ว่า แม้จะพยายามสร้าง Customer Experience มากแค่ไหน แต่ก็มีปัจจัยมากมายที่ทำให้ลูกค้า “ยังไม่ซื้อตอนนี้” Customer Experience จะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงลูกค้าไว้ และจะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะสร้าง Community ให้กับแบรนด์ธุรกิจได้นั่นเอง

 

5.ผู้บริโภคจะเสพติดความง่ายและสบาย

ข้อนี้จะเป็นผลพวงจากการที่ภาคธุรกิจระดมการใช้ Digital Marketing ไปกับเรื่องต่าง ๆ นั่นทำให้ผู้บริโภคกับลูกค้าเริ่มเข้าสู่โหมดขี้เกียจกันมากขึ้น ความอดทนของพวกเขาจะลดต่ำลงเรื่อย ๆ  ทุกการบริการต้องเร็วทันที ทุกคอนเทนต์ที่นำเสนอต้องเสพงาน อ่านง่าย เข้าใจง่าย

สรุปรวมแล้วคือทุกอย่างต้อง “ง่ายและทันที” หากตอบแชทช้า พวกเขาจะเปลี่ยนเจ้าได้ทันที ตัดสินใจไม่ซื้อได้เพียงในเวลาแค่ไม่กี่วินาที ซึ่งตรงนี้จะเป็นโจทย์ใหญ่ของภาคธุรกิจ ด้วยกำลังคนและเวลาที่มีจำกัด ทรัพยากรคนที่มีก็มักจะงานล้นมือ ไม่มีใครที่ว่างมากพอที่จะดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง การทำคอนเทนต์นำเสนอลูกค้าก็ต้องคิดหนักขึ้นว่าจะทำอย่างไรให้ง่าย จึงกลายเป็นปัญหาที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาย่อยต้องเผชิญ

 

6.ความคล่องตัวในการซื้อขายจะกลายเป็นเทรนด์

จากการปรับตัวตลอดทั้งปี 2020 ของภาคธุรกิจที่เข้ามาสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น ผู้บริโภคเองปรับมาซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เยอะขึ้นตามไปด้วย ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจมองเห็นว่าต้องพยายามลดช่องว่างหรือขั้นตอนที่ซับซ้อนในการซื้อขายให้ได้ จึงเริ่มที่จะพยายามปรับการซื้อขายต่าง ๆ ให้จบให้ได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว จะไม่ให้การซื้อขายย้ายข้ามไปข้ามมาระหว่างแพลตฟอร์ม ซึ่งเรื่องนี้ไม่เว้นแม้แต่การชำระเงินของลูกค้า หลาย ๆ แห่งจะเปิดช่องทางที่ง่ายและตรงที่สุดในการสั่งซื้อและชำระเงินให้กับลูกค้า เพื่อให้เกิดความคล่องตัวให้มากที่สุด

 

นี่คือส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่น่าจะเกิดขึ้นและคงอยู่สำหรับเรื่อง Digital Marketing ในปี 2021 นี้นอจากนั้นแล้วจะมีอะไรที่น่าจะเป็นไปได้อีกบ้างก็คงต้องรอดูสถานการณ์ของโควิด 19 ด้วย ซึ่งถ้ามีโอกาสเราจะนำมาวิเคราะห์และอัปเดตให้ทุกท่านได้ทราบกันในโอกาสถัดไป