ก่อนช่วงโควิดจะระบาด เราทุกคนต่างทราบกันดีว่าตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ก็เติบโตขึ้นตลอดทุกปี แต่ถึงอย่างไรก็เป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ก้าวกระโดดชัดเจน แต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงระบาดหนักของโควิดในประเทศไทย ผู้คนต้องถูกกักตัว ห้างร้านต่างๆก็พากันปิดไปด้วย นั่นจึงทำให้การเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์พุ่งแบบก้าวกระโดด ซึ่ง E-Commerce กลายเป็นสิ่งที่นักธุรกิจต่างๆเริ่มจับตา ใครที่ยังออฟไลน์อยู่ก็เริ่มคิดแล้วว่าคงถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงลงมาสู่ออนไลน์กันบ้างแล้ว
Lazada บริษัทE-Marketplace รายใหญ่ ถือเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่คนไทยให้ความสำคัญใช้งานกันมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยทางคุณภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของ Lazada ประเทศไทยเผยว่า ในช่วงโควิดระบาดที่ประเทศไทย Lazada มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นล้านราย ซึ่งโตขึ้นทั้งคนซื้อคนขาย สามารถสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 75% ในส่วนของผู้ขายหรือผู้ประกอบการนั้นก็หันมาพึ่งพาแพลตฟอร์มของเรามากขึ้น จนทำให้จำนวนผู้ขายใน Lazada เพิ่มจำนวนเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน คือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 90,000 ราย
แน่นอนว่าการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ E-Marketplace รายใหญ่นี้ส่วนหนึ่งมาจากคนต้องกักตัวอยู่บ้าน ออกไปซื้อไปช้อปปิ้่งไม่ได้ เลยต้องช้อปปิ้งออนไลน์ ในแง่นี้ดูเหมือนจะเป็นลักษณะความจำเป็นมากกว่า แต่เอาเข้าจริงแล้วแรงผลักดันส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหันมาช้อปปิ้งออนไลน์กันเยอะมากกว่าเดิมหลายเท่านั้นก็มีส่วนจาก การใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายและน่าสนใจด้วย ซึ่งหลักๆแล้วทาง Lazada เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ Shoppertainment และ การทำ Content Marketing โดยมีการเสริมด้วยการทำโฆษณาแบบ Storytelling ลงไปด้วย
ซึ่งผลจากการใช้กลยุทธ์ Shoppertainment ทำไลฟ์คอนเทนต์เป็น Storytelling มากกว่า 1500 คอนเทนต์/สัปดาห์ ทำให้ผู้คนให้ความสนใจเพิ่มขึ้น คือ กลยุทธ์เหล่านี้สามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสนใจเลือกสินค้าและช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งจากที่ Lazada เปิดเผยระบุว่าทั้งแพลตฟอร์มรวมถึงหน้าขายสินค้าต่างๆในหมวดทั่วไปเฉลี่ยแล้วมีการคลิกเข้าไปดูมากขึ้นถึง 30% ส่วนสินค้าที่เกี่ยวกับกีฬา ไลฟ์สไตล์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ มีผู้ชมคลิกเข้าไปดูเพิ่มขึ้นมากถึง 250 – 500% เลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กลยุทธ์ Shoppertainment นั้นดูเหมือนจะตอบโจทย์ผู้คนได้มากในเรื่องของการช้อปปิ้งออนไลน์ เพราะกลยุทธ์นี้ไม่ใช่แค่การซื้อขาย จ่ายเงินแล้วได้ของเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นกลยุทธ์ที่มีการผสานหลายอย่างเข้าด้วยกันทั้งเรื่องของการ Storytelling แบรนด์และสินค้าผ่านพรีเซ็นเตอร์ การไลฟ์สตรีมมิ่ง มีเกมให้ร่วมสนุก ให้ผู้ชมได้พบกับดีลราคาดีๆจากการเล่นเกม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นวิธีการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคทั้งนั้น ทั้งหมดนี้เราทุกคนที่เป็นผู้บริโภคในยุคนี้ต่างก็ต้องการสิ่งเหล่านี้ด้วย ซึ่งกลายเป็นความเพลิดเพลินในการช้อปปิ้งออนไลน์ไปโดยปริยาย
แม้ว่าในตอนนี้ ห้างร้านต่างๆจะกลับมาเปิดตามปกติแล้วก็ตาม แต่ทาง Lazada ก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร เพราะพวกเขามั่นใจว่าการวางกลยุทธ์มอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคนั้นจะเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคไปเอง และจะกลายเป็น New Normal ของสังคมไปในที่สุด ซึ่งเวลาร่วม 3 เดือนที่คนคลุกอยู่กับการช้อปปิ้งออนไลน์ก็นานเพียงพอที่จะทำให้พฤติกรรมของพวกเขาเปลี่ยนไปพอสมควร ผู้บริโภคจะมองว่าการซื้อของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพวกเขาอีกต่อไป เราจึงต้องจับตาดูกันว่า วงการค้าปลีกและวงการธุรกิจด้านอื่นๆจะปรับตัวกันอย่างไรบ้างเพื่อรับมือกับพฤติกรรมที่กำลังเปลี่ยนไปของผู้คนในยุคโควิดแบบนี้