โจทย์สำคัญที่ต้องรู้ก่อนคิดทำ Content Marketing ในช่วงหลังโควิด

การทำ Content Marketing ในช่วงหลังโควิดนี้ควรจะปรับทิศทางไปอย่างไร มีโจทย์ใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์ ที่ต้องรู้และต้องให้ความสำคัญอย่างไรบ้าง มาติดตามกัน

377

พอสถานการณ์ไวรัสเริ่มซาไปจากบ้านเราในตอนนี้ ก็เริ่มมีกระแสพุ่งกลับเข้ามาในเรื่องของการทำ Content Marketing มากขึ้น หลายคนเริ่มสงสัยว่า หากจะทำคอนเทนต์การตลาดเพื่อสนับสนุนธุรกิจนับจากนี้ไปควรจะไปในทิศทางไหนดี ต้องทำอะไรแตกต่างไปจากเดิมบ้าง จึงอยากจะนำโจทย์นี้มาชวนคุยกัน

หากจะว่าไปไม่ว่าจะยุคก่อนหรือหลังโควิดก็ตาม การทำ Content Marketing หลักการก็ยังคงเหมือนเดิม คือทำคอนเทนต์ให้เกิดคุณค่า ทำเป็นเรื่องเล่าแบบ Storytelling เพื่อให้เรื่องราวมีความน่าสนใจ หลักการเหล่านี้ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ตัวสถานการณ์ความสนใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะโควิดนี่เองที่กลายเป็นโจทย์ใหม่ในการทำคอนเทนต์ ซึ่งก็ต้องบอกว่า Content Marketing ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

 

สร้างทีม หรือ จ้างทำ

โจทย์แรกที่เชื่อว่าหลายๆบริษัทก็เผชิญอยู่ก็คือ แม้บริษัทจะมีฝ่ายการตลาดอยู่ แต่ใช่ว่าฝ่ายการตลาดจะสามารถทำ Content Marketing ได้ และต่อให้ทำได้คอนเทนต์ที่ออกมาก็มักไม่ตรงใจสักเท่าไหร่ เพราะคอนทนต์จะไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร อาจจะเป็นบทความธรรมดา หรือคลิปที่ดูจืดๆในมุมของฝ่ายการตลาด แต่ในความเป็นจริงผู้อ่านผู้ชม ต้องการคอนเทนต์ที่เข้มข้น มีการ Storytelling เล่าเรื่องที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก คือ ถ้าจะเป็นบทความก็จะเป็นบทความแบบธรรมดาไม่ได้อีกแล้ว ก็จะต้องมี ภาพที่สวยงามประกอบ จะต้องมี VDO ประกอบบ้าง ซึ่งการทำคอนเทนต์ที่ละเอียดเข้มข้นแบบนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องจ้างผู้ผลิตมืออาชีพมาทำให้ จึงกลายเป็นโจทย์ที่ทุกบริษัทเริ่มคิดหนัก

ต้นทุนที่จะต้องจ่ายไปกับการสร้างทีมงานใหม่เข้ามาทำงานด้าน Content Marketing โดยตรงเลย กับต้นทุนที่จะใช้จ้างมืออาชีพแบบฟรีแลนซ์หรือ Outsource มาช่วยในเรื่องนี้อะไรที่จะดีกว่าคุ้มค่ากว่ากัน โจทย์นี้เป็นโจทย์ปัญหาที่ “ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป” ไม่มีสิ่งที่ดีที่สุด เพราะทั้งสองแบบต่างก็มีข้อดีข้อเสียในตนเอง คงเป็นสิ่งที่แต่ละบริษัทต้องหาจุดสมดุลที่เหมาะสมตามแต่สถานการณ์ของบริษัท แต่ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว ดังนั้น จะต้องคิดให้ดีว่าคุณจะทำคอนเทนต์แบบไหนเป็นหลัก จะได้ตัดสินใจทุ่มงบไปในจุดที่เราไหวที่สุด

 

คุณภาพ หรือ ปริมาณ

โจทย์ต่อมาที่เป็นปัญหาน่าหนักใจของการทำ Content Marketing มาโดยตลอดก็คือ ความถี่และปริมาณของคอนเทนต์ควรจะเท่าไหร่ดีถึงจะเพียงพอ มีหลายๆบริษัทในช่วงแรกๆของการทำ Content Marketing ฟิตมากระดมใส่เข้าไปในเว็บไซต์หรือโพสต์ทุกวัน วันละหลายครั้ง เพราะยุคนี้ใครเร็ว ใครเข้าถึงข้อมูลก่อน มาก่อนจะได้เปรียบ แต่การทำแบบนี้จะต้องอาศัยกำลังคนและปริมาณข้อมูลที่มหาศาลมาก แรกๆอาจจะไหวแต่พอนานๆไปเราจะทำไม่ไหว เพราะสิ่งที่เรากำลังแข่งกับไม่ใช่คู่แข่งทางธุรกิจของเรา กลายเป็นเรากำลังแข่งกับเวลา การทำคอนเทนต์ที่เน้นและให้ความสำคัญกับปริมาณก็ไม่ได้เป็นสิ่งชี้วัดด้วยวัดผลประกอบการจะดีขึ้น บริษัทจะขายของได้มากขึ้น ทั้งๆที่ความจริงสวนทางด้วยซ้ำเพราะบริษัทจะต้องทุ่มเงินจ้างคนเพื่อผลิตงานให้ทันกับเวลา ฉะนั้น ปริมาณของคอนเทนต์อาจไม่ใช่คำคอบที่ถูกต้อง

background-business-Content-Marketing-593324

แต่ถ้ามามองในแง่การทำคอนเทนต์คุณภาพอย่างการผลิตงาน Storytelling ซึ่งงานจะเน้นความละเอียด การเชื่อมโยงเรื่องราวที่ให้ความใส่ใจทุกอย่างเหมือนการทำหนังสักเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่างานลักษณะ Storytelling แบบนี้ไม่สามารถทำได้ถี่ หรือให้เกิดปริมาณที่เยอะได้ แม้งานจะออกมาดึงดูดคนได้ สร้างประสบการณ์ใหม่และความประทับใจให้กับผู้ชม แต่ก็จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่ถี่ของผู้คนได้ เมื่อนานๆมาที ผู้บริโภคก็จะรู้สึกไม่ค่อยสนิทกับเรานัก จึงทำให้ผู้ชมสามารถห่างเหินไปจากเราได้เหมือนกัน มีบางบริษัทจึงใช้ทางแก้แบบง่ายๆโดยแบ่งทีม Content Marketing ออกเป็น 2 ทีม ทีมหนึ่งเน้นงานคุณภาพ อีกทีมหนึ่งเน้นปริมาณ เพื่อที่จะดึงผู้ชมไว้นั่นเอง

 

หนักแน่นที่ช่องทางเดียว หรือ กระจายไปให้ครบทุกช่องทาง

โจทย์ปัญหานี้เกิดขึ้นตอนเรามีโซเชียลมีเดียที่หลากหลาย และยิ่งในปัจจุบันเรามีแพลตฟอร์มการนำเสนอที่เยอะขึ้นไปกว่าเดิมอีก ก็ยิ่งทำให้เป็นปัญหาในการทำ Content Marketing ขึ้นไปอีก เพราะผู้บริโภค 1 คน ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มเดียว 1 คนสามารถมี Account ทุกแพลตฟอร์มได้ นั่นจึงทำให้หลายบริษัท พยายามที่จะทำคอนเทนต์เข้าไปเสิร์ฟทุกทาง ทั้งเว็บไซต์ YouTube, Facebook, twitter, Line, Podcast และบางที่ยังตามมาด้วยการทำคอนเทนต์เพิ่มเข้าไปใน TikTok ด้วย ซึ่งถ้าทำทั้งหมดนี้เรียกว่า “สาหัส” เลยทีเดียว ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ งบประมาณเยอะ กำลังคนมาก ก็คงจะพอรับมือไหว แต่ถ้าส่วนใหญ่แล้วจะไม่ใช่แบบนั้น

 

woman-Podcast-1181658

จึงกลายเป็นทางเลือกว่าเราควรจะอยู่ในช่องทางไหนดี เราควรจะเลือกโฟกัสทำ Content Marketing หลักสัก 1 ช่องทาง หรือเราจะทำหว่านไปให้ครบทุกช่องทางดี บางคนเลือกทำผ่านเว็บไซต์แล้วแชร์ลิงก์ไปยังโซเชียลอื่นๆแต่ปัญหาก็คือ คนไม่คลิกตามอีก และตัวเนื้อหาก็อาจไม่เหมาะกับบางแพลตฟอร์มด้วย ตรงนี้ก็เป็นอีกส่วนที่ไม่ง่ายในการตัดสินใจ

 

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือโจทย์สำคัญที่บริษัทธุรกิจต่างๆควรจะต้องรู้ ก่อนคิดที่จะเดินหน้าไปกับกลยุทธ์ Content Marketing เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าโควิดจะกลับมาอีกหรือไม่ อะไรจะเปลี่ยนแปลงไปอีกบ้าง หากเป็นไปได้เราควรจะเลือกทำคอนเทนต์ที่เซฟเงินบริษัทเอาไว้บางส่วน ให้มีคอนเทนต์นำเสนอต่อผู้บริโภคอยู่แต่ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้น Storytelling มากขึ้นก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้เราขยับได้อย่างมั่นคงมากขึ้น รอเวลาให้ทุกอย่างคลี่คลายจริงๆแล้วค่อยวางแผนกันใหม่ก็ยังไม่สาย